[รีวิว] Farpoint - อันตรายทุกย่างก้าว สู่ดวงดาวมรณะ

แพลตฟอร์ม: PS4 (จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ PlayStation VR ในการเล่น)
แนวเกม: FPS
ผู้พัฒนา: Impulse Gear
ผู้จัดจำหน่าย: Sony

ราคา PlayStation VR - 16,990 บาท
ราคา Aim Controller - 2,180 บาท
ราคา Farpoint Aim Controller Bundle Pack (แผ่นเกม Farpoint + Aim Controller) - 3,190 บาท

เป็นเวลากว่าประมาณ 8 เดือนแล้วนะครับที่ PlayStation VR ได้วางจำหน่ายสู่ตลาด และก็เพิ่งจะทำยอดขายทะลุล้านชุดไปหมาดๆ แต่หากวัดกันตามกระแสในเมืองไทยอาจจะดูเงียบเหงาไปสักหน่อย อาจจะเป็นเพราะเกมเมอร์บ้านเรายังมองว่า PlayStation VR เป็นเพียงอุปกรณ์เสริมที่ยังไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเล่นเกมส่วนใหญ่ของ PS4 หรือสาเหตุอะไรก็สุดแท้แต่ ซึ่งเกม Farpoint และจอยปืน Aim Controller นี้ก็เป็นอีกลูกเล่นหนึ่งที่ทาง PlayStation พยายามจะนำเสนอมิติใหม่ของการเล่นเกมแก่ชาว PS4 ครับ

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะครับว่า การจะเล่นเกมนี้ได้นั้นจะต้องมีอุปกรณ์ PlayStation VR เสียก่อน ส่วนจอยปืน Aim Controller จะเป็นตัวเลือกเสริมที่จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ แต่จากเท่าที่ได้ลองเล่นมา แนะนำว่ายังไงก็ต้องเล่นกับ Aim Controller อยู่ดี เพราะการเล่นกับจอย DualShock 4 เราจะเจออุปสรรคตามมาอีกเพียบ เพราะนอกจากการเล็งยิงด้วยโมชั่นเซ็นเซอร์ของจอย DualShock 4 ที่เชื่องช้าและเงอะงะกว่าการใช้ Aim Controller หันยิงแล้ว เราก็ยังต้องมาพะวงกับการเดินและหันทิศทางการเดินไปพร้อมๆ กันด้วย ดังนั้นถ้ามีงบเหลืออีกหน่อย ควรจัด Aim Controller มาใช้น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายครับ

พล็อตเรื่องของ Farpoint จะเล่าถึงสถานีอวกาศแห่งหนึ่งที่มีนักวิทยาศาสตร์หลายรายประจำอยู่เพื่อทำการวิจัยอะไรบางอย่าง แต่ก็ได้เกิดความผิดปกติขึ้นจนเกิดหลุมดำดูดกลืนนักวิทยาศาสตร์ 2 คนรวมถึงตัวเราหายเข้าไปในนั้น กระทั่งไปโผล่ที่ดาวเวิ้งว้างดวงหนึ่ง เราจึงมีหน้าที่ออกสำรวจดาวดวงดังกล่าว พร้อมกับค้นหานักวิทยาศาสตร์ 2 รายนั้นให้พบแล้วเอาชีวิตรอดออกมาให้สำเร็จ

บรรยากาศของการผจญภัยค่อนข้างจะทำให้เรารู้สึกเหมือนว่ากำลังอยู่ในภาพยนตร์เรื่อง Starship Troopers อยู่ ส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจากบรรดาศัตรูในเกมนี้แทบทั้งหมดจะเป็นแมลง ตลอดจนภูมิประเทศที่เป็นทะเลทราย มีพายุทรายคอยบดบังวิสัยทัศน์เป็นบางช่วง แต่ถึงกระนั้น การเคลื่อนไหวและรูปแบบการโจมตีจะจำแนกตามชนิดของพวกมัน บางตัวที่มีไซส์เล็กก็จะใช้วิธีค่อยวิ่งฉีกออกข้างแล้วหาจังหวะมาตะครุบหน้าเรา ตัวไหนที่ไซส์ใหญ่หน่อยก็จะมีทั้งแบบยิงโจมตีใส่เราในระยะไกล หรือมุดดินมาโผล่ใกล้ๆ เราแล้วพุ่งชนก็มี สิ่งเหล่านี้ทำให้ตัวเกมดูมีชีวิตชีวาและหลากหลายขึ้น ก็จะมีเพียงการดีไซน์รูปลักษณ์ของศัตรูนี่แหละครับที่บางตัวดูธรรมดาไปหน่อย ไม่น่ากลัวเหมือนกับไซส์มหึมาที่เราเห็น

ในส่วนของอาวุธที่ใช้ต่อกรกับเหล่าแมลงจากต่างดาว เริ่มต้นมาเราจะมีเพียงปืนกลกระบอกเดียว แต่เมื่อดำเนินเกมไปสักระยะ ก็จะมีปืนใหม่ๆ ให้เก็บ อาทิ ปืนลูกซอง ปืนสไนเปอร์ ขณะเดียวกันก็จะมีอาวุธเสริมจำพวกลูกระเบิดที่ใช้โจมตีศัตรูได้เป็นวงกว้างและมีพลังโจมตีสูงกว่าอาวุธหลักเยอะ ทว่ากลยุทธ์ในการสู้รบของผู้เล่นจะทำอะไรไม่ได้มากนัก นอกจากเล็งยิงให้แม่นๆ หรือวิ่งหนีให้ถูกทิศพอ

การควบคุมหรือบังคับตัวละครในเกมนี้จะมีติดปัญหาอยู่ที่ค่าตั้งต้นที่เกมเซ็ตมาแต่แรก ถ้าเราไม่ได้ไปปรับอะไรมัน การเดินของเราจะโดนจำกัดอยู่แค่ตรงไปข้างหน้ากับการเดินสเต็ปออกข้างซ้าย-ขวา (เดินแบบ Strafe) ซึ่งมันผิดธรรมชาติที่ควรจะเป็นไปมาก ระหว่างที่เล่นก็มีคิดอยู่เหมือนกันว่าเกมลักษณะนี้ควรจะใช้วิธีเดินหน้าไปตามทิศที่เราหันมองหรือหันปืนจะโอเคกว่า แต่ก็จะไปเจอปัญหาเพิ่มตอนปรับการบังคับอีก เพราะการหันทิศที่จะเดินมันมีให้เลือกปรับว่าจะเอาเป็นแบบหันแบบแพนกล้องเหมือนเราค่อยๆ หันศีรษะตามปกติ หรือจะหันควับแบบ 45 หรือ 90 องศาทันที ซึ่งอย่างหลังนี่ไม่แนะนำอย่างแรง เพราะหากเป็นการเคลื่อนไหวที่เร็วกว่าศีรษะเราหันเองแล้ว ความเวียนหัวจะเริ่มมา และนั่นจะกลายเป็นบ่อเกิดของปัญหาอื่นๆ ที่จะพาลทำให้เกมนี้หมดสนุกในไม่ช้า

ภาพรวมของการลุยแบบ Singleplayer จุดที่เป็นข้อเสียใหญ่ๆ คงหนีไม่พ้นความเป็นเส้นตรงที่เกมจะนำพาให้เรามุ่งไปข้างหน้าจนจบเกม ลุยฝูงศัตรูไปเรื่อยๆ และรับทราบเรื่องราวในเกมระหว่างที่วิ่งไปตลอดทาง ถ้าใครอึดหน่อยเล่นไปสักครึ่งวันก็น่าจะจบได้แล้ว ในขณะที่การเล่นแบบ Co-op จะเข้ามาเติมเต็มปัญหาส่วนนี้ได้พอสมควร เพราะนอกจากการคุยกันเองจะช่วยแก้เบื่อได้แล้ว ยังทำให้ได้บรรยากาศของการผจญภัยที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน

จุดเด่น

- ตัวเกมออกแบบให้เล่นควบคู่กับ Aim Controller ได้ในเกณฑ์ที่ดีมาก
- บรรยากาศเวลาต่อสู้กับเหล่าเอเลี่ยนทำมาได้น่าตื่นเต้นดี
- ตัวฉาก สภาพแวดล้อม และโลกของเกมออกแบบมาได้สวยงาม ทำให้รู้สึกมีอารมณ์ร่วมกับเกมเรื่อยๆ
- การเล่นแบบ Co-op ช่วยเพิ่มความสนุกไม่น้อย

จุดด้อย

- ค่าตั้งต้นของการควบคุมตัวละครทำมาได้ค่อนข้างแย่
- การผจญภัยในโหมด Singleplayer ดูจะเป็นเส้นตรงเกินไป ไม่มีอิสระให้เราลองเถลไถลเท่าไหร่
- ไม่มีซับไตเติ้ล ถ้าไม่เปิดเสียงทีวีหรือเสียบหูฟัง จะแทบไม่รู้เรื่องเลยว่าตัวละครคุยอะไรกัน
- ถ้าไม่มี Aim Controller แล้วคิดจะเล่นเกมนี้กับจอย DualShock 4 จะปวดตับสุดๆ กับการควบคุมที่ไม่ได้ดั่งใจ

สรุป

Farpoint เป็นส่วนผสมที่ทำมาได้ดีในฐานะที่เป็นแนว FPS ควบคู่กับการเล่นด้วย PlayStation VR และยังมีการออกแบบคุณสมบัติการบังคับด้วย Aim Controller ในเกณฑ์ที่ดีมาก แต่เหตุผลหลักที่ใครสักคนจะซื้อเกมนี้มาเล่น ก็คงเป็นเรื่องของ Aim Controller นี่แหละครับ หากว่ากันตามตรง ถ้าเล่นเกมนี้โดยไม่มีจอยปืนดังกล่าว ความสนุกจะมลายหายไปเกือบสิ้น อีกทั้งองค์ประกอบอื่นๆ ที่เป็นข้อดีของเกมก็ยังไม่ดึงดูดมากพอที่จะกลบข้อเสียที่มาจากการฝืนเล่นด้วยจอย DualShock 4 ไปได้เลย

คะแนน 6.5 / 10