แพลตฟอร์ม: PS4, Xbox One, PC
ผู้พัฒนา: Ubisoft
ผู้จัดจำหน่าย: Ubisoft
เรต: 17 ปีขึ้นไป
ระยะเวลาเฉลี่ยที่ใช้ในการเล่นจนจบเกม: ประมาณ 25 ชั่วโมง
ระยะเวลาเฉลี่ยที่ใช้ในการเล่นแบบเก็บทุกรายละเอียด: ประมาณ 65 ชั่วโมง
แรกเริ่มเดิมที เกมซีรีส์ Ghost Recon นั้นจะกล่าวถึงหน่วยปฏิบัติการพิเศษ “Ghost Recon” ที่ถูกคัดเลือกมาจากเหล่านักรบระดับสุดยอดของหน่วยรบอเมริกัน ซึ่งพวกเขามีหน้าที่กำจัดศัตรูหรืออาชญากรซึ่งไม่สามารถใช้กฎหมายจัดการได้ ด้วยเหตุนี้ภารกิจและตัวตนของพวกเขาจึงเป็นความลับสุดยอดด้วย ภาคแรกของซีรีส์นี้ได้เปิดตัวในปี 2001 ซึ่งตอนนั้นก็ยังเป็นเกมชู้ตติ้งมุมมองบุคคลที่ 1 (FPS) อยู่ และหลังจากนั้นก็มีภาคต่อออกตามมาอีกหลายภาคด้วยกัน โดยมีทั้งแนว FPS และแนวชู้ตติ้งมุมมองบุคคลที่ 3 และใน Ghost Recon Wildlands นี้ก็จะเป็นแนวมุมมองบุคคลที่ 3 ที่เป็นรูปแบบโอเพ่นเวิลด์และเน้นการเล่นกันแบบออนไลน์มัลติเพลเยอร์ด้วย สำหรับสมรภูมิของภาคนี้ก็คือประเทศโบลีเวีย ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ก็เพิ่งมีประเด็นดราม่ากับทางรัฐบาลของโบลีเวียด้วย แต่อย่างไรก็ดี ทาง Ubisoft ผู้พัฒนาเกมนี้ก็ได้อธิบายว่าเรื่องราวในเกมเป็นเรื่องที่สมมติขึ้น และพวกเขาเพียงแค่จะอยากใช้ภูมิประเทศของโบลีเวียที่มีทิวทัศน์อันสวยงามมาเป็นโลเคชั่นเท่านั้น
เนื้อหาของภาค Wildlands จะกล่าวถึง เอล ซูเอโน่ (El Sueno) ราชายาเสพติดชาวเม็กซิโก ที่ได้ใช้อิทธิพลมืดยึดประเทศโบลิเวียเป็นแหล่งปกครองของตน โดยอาศัยอำนาจเงินและบารมีเข้าควบคุมรัฐบาลของประเทศ ทำให้ตำรวจหรือทหารต่างก็เป็นฝ่ายเดียวกับเอล ซูเอโน่ ยิ่งไปกว่านั้น ความอหังการของเจ้าตัวยังส่งผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ถูกเข่นฆ่าไปเป็นจำนวนมากโดยที่รัฐบาลโบลิเวียเองก็ไม่อาจพึ่งพาใครได้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ Ghost Recon จำนวน 4 นายถูกส่งเข้ามาโดยมีจุดมุ่งหมายหลักคือทำลายเครือข่ายอิทธิพลของเอล ซูเอโน่ และให้เขาชดใช้กรรมที่ก่อให้ได้
ดังที่กล่าวไปในตอนแรกว่า ลักษณะเกมเพลย์ของภาคนี้จะเป็นแนวชู้ตติ้งมุมมองบุคคลที่ 3 ที่เวลาเล็งจะมองผ่านหัวไหล่ตัวละคร ตรงจุดนี้ได้สร้างข้อดีตรงผู้เล่นที่ไม่ถนัดกับเกมแนว FPS จะสามารถเล่นเกมนี้ได้อย่างสบาย ในขณะที่เป้าหมายของเราในเกมก็คือจัดการสมาชิกและเครือข่ายของ เอล ซูเอโน่ จากระดับล่างสุดขึ้นไปทีละคน แล้วถึงจะโยงใยขึ้นไปสู่หนทางในการจัดการกับแกนนำระดับสูง จนกระทั่งเหลือแต่ตัวบอสใหญ่ซึ่งก็คือ เอล ซูเอโน่ ทั้งนี้ แกนนำแต่ละคนในเกมก็จะเป็นผู้ปกครองเขตเมืองต่างๆ ในโบลิเวีย ทว่าตอนแรกเราจะยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับพวกมันมากนัก โดยเฉพาะแกนนำบางคนนั้นเราก็ไม่รู้ทั้งชื่อและหน้าตาเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ผู้เล่นจึงต้องเข้าไปค้นหาข้อมูลในแต่ละเขตแล้วจะมีภารกิจออกมาให้ทำ และสุดท้ายก็จะสามารถจัดการกับแกนนำประจำเขตนั้นๆ ได้ แต่เนื่องจากที่เกมเป็นแนวโอเพ่นเวิลด์ ผู้เล่นเลยมีอิสระที่จะเลือกสถานที่ค้นหาข้อมูลหรือเลือกทำภารกิจไหนก่อนก็ได้ เกมจะมีการระบุตำแหน่งของเป้าหมาย ทรัพยากร อาวุธ และภารกิจต่างๆ ที่เราได้ข้อมูลมาบนแผนที่ซึ่งเรียกว่า TACMAP ซึ่งก็ใช้แผนที่ของประเทศโบลิเวียนั่นเอง โดย Ghost Recon Wildlands ถือเป็นเกมที่มีขนาดสเกลแผนที่ใหญ่ที่สุดของ Ubisoft ดังนั้นการเดินทางในเกมจึงต้องใช้เวลามากแม้จะมียานพาหนะนานาชนิดแล้วก็ตาม อย่างไรก็ดี เกมนี้จะมีระบบ Fast Travel ที่จะสามารถเดินทางไปยังตำแหน่งสำคัญๆ ที่เคยเราเคยผ่านมาแล้วได้ในทันที
ขณะเดียวกัน ภารกิจหลักของเกมนั้นจะได้มาหลังจากลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลที่จำเป็นมาได้เสียก่อน ซึ่งจุดหาข้อมูลนั้นจะแสดงให้เห็นเป็นไอคอนรูปไฟล์บน TACMAP โดยที่เราอาจจะได้ข้อมูลที่สำคัญ เช่น ตำแหน่งโรงงานผลิตยาเสพติดก็จะมีภารกิจทำลายโรงงานเพิ่มขึ้นมาเป็นภารกิจหลักที่จะแสดงเป็นไอคอนลูกศรสีเหลือง การทำภารกิจนั้นจะสามารถทำยังไงก็ได้ขอแค่ให้บรรลุเป้าหมายเป็นพอ จะลุยกันกลางวันแสกๆ โดยกำจัดศัตรูทุกคนในบริเวณนั้น หรือจะลอบเข้าไปในฐานข้าศึกในเวลากลางคืนโดยไม่ให้ใครเห็นเลยก็ย่อมได้ ปกติแล้วในแต่ละเมืองก็จะมีภารกิจหลักให้ทำประมาณ 4-5 อย่าง เมื่อเราทำครบแล้วก็จะสามารถทำภารกิจสุดท้ายคือจัดการแกนนำของเมืองนั้นๆ ส่วนภารกิจเสริมในเกมจะเป็นการหาทรัพยากรหรือทำเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของเราเช่นการหาอาวุธปืนใหม่ๆ เพิ่มแต้มโบนัสสกิล หรือภารกิจช่วยกลุ่มต่อต้านในพื้นที่เพื่อที่จะได้รับการสนับสนุนจากภาคประชาชน
อาวุธปืนในเกมนี้จะจะสามารถติดตั้งเป็นอาวุธหลักได้ครั้งละ 2 ประเภท ซึ่งมีทั้งปืนไรเฟิลที่ติดตั้งชุดยิงกระสุน Grenade Launcher ได้ หรือปืนสไนเปอร์ที่ใช้จัดการศัตรูจากระยะไกล โดย 2 อย่างนี้อาจจะค่อนข้างจำเป็นกว่าปืนแบบอื่นในโหมดซิงเกิลเพลเยอร์ เพราะมันสามารถทำหน้าที่จำเป็นได้ครบ แต่ปืนชนิดอื่นเช่นปืนกลหรือช็อตกันก็ใช้งานเฉพาะทางได้ดีในโหมดออนไลน์มัลติเพลเยอร์เช่นกัน ส่วนอาวุธรองของเกมก็คือปืนพกหรือปืนกลเบาที่สามารถติดตั้งได้แค่ชนิดเดียว ปืนประเภทนี้จะมีพลังทำลายน้อยกว่าแต่ก็ใช้งานได้รวดเร็วและก็มีบางสถานการณ์ที่บังคับให้เราต้องใช้อาวุธรองเท่านั้นด้วย เช่น จังหวะล็อคคอศัตรูเป็นตัวประกัน นอกจากนี้ อาวุธปืนทั้งหมดจะสามารถหาชิ้นส่วนมาปรับแต่งเพื่อเปลี่ยนความสามารถได้ เช่น ลำกล้องยาวช่วยให้มีระยะเพิ่มขึ้น หรือแม็กกาซีนที่จุกระสุนได้มากกว่าเดิม กระบอกเก็บเสียงที่ป้องกันการถูกศัตรูรู้ตำแหน่ง สำหรับปืนและชิ้นส่วนนั้นจะหาเพิ่มได้จากในเกม โดยเมื่อเราหาข้อมูลตำแหน่งอาวุธในเมืองนั้นๆ ได้ก็จะมีไอคอนปืนแสดงบน TACMAP แต่ในส่วนนี้หากเราเข้าไปใกล้ตำแหน่งที่มีอาวุธโดยที่ยังไม่มีข้อมูลมาก่อนก็จะมีไอคอนแสดงขึ้นมาเองเช่นกัน ส่วนอาวุธประเภทระเบิดและโดรนนั้นจะได้มาจากการอัพเกรดสกิล
นอกจากอาวุธแล้ว สกิลในเกมก็ยังมีความหลากหลายมาก โดยสกิลที่เราสามารถเลือกอัพเกรดได้อย่างอิสระนั้นจะแบ่งปลีกย่อยเป็น 5 หมวดคิอ อาวุธ โดรน ไอเทม ร่างกาย และหน่วยรบ ซึ่งเราจะต้องใช้แต้มสกิลและทรัพยากรบางอย่างในการอัพเกรดสกิลต่างๆ แต่ในตอนเริ่มนั้นจะหาได้ค่อนข้างจำกัด จึงต้องเลือกเรียนสกิลที่เหมาะสมจริงๆ เท่านั้น แต่พอเล่นไปเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วเราก็จะสามารถเรียนได้ทุกสกิลในเกม ซึ่งควรจะหัดลองใช้ให้คล่องทั้งหมด แล้วเวลาเล่นออนไลน์กับผู้เล่นอื่นก็จะสามารถทำได้ทุกหน้าที่ ส่วนสกิลอีกอย่างที่ไม่สามารถเลือกอัพเองได้ตามอิสระก็คือ สกิล Rebel Support ที่เราจะได้มาจากภารกิจช่วยกลุ่มต่อต้านเอล ซูเอโน่ ที่เป็นกลุ่มคนในพื้นที่ และก็จะได้สกิลตอบแทนที่เป็นการสนับสนุนจากพวกเขา เช่น เรียกให้พวกเขาส่งคนมาช่วยต่อสู้ หรือช่วยยิงปืนระเบิดใส่ตำแหน่งที่ต้องการ เป็นต้น
โดรนนั้นจัดว่าเป็นลูกเล่นใหม่ที่น่าสนใจของภาค Wildlands ครับ เราสามารถส่งโดรนบินเข้าไปค้นหาตำแหน่งของศัตรูเพื่อมาร์คตำแหน่งก่อนจะเริ่มลงมือทำภารกิจได้ และเมื่ออัพเกรดสกิลแล้วโดรนก็จะมีความสามารถมากยิ่งขึ้นด้วย เช่น เพิ่มระยะทำการ ทำให้ขนกระสุนได้มากขึ้น หรือเพิ่มความสามารถให้กล้อง ส่วนลูกเล่นอื่นๆ เช่น ส่งให้ไประเบิดตัวเองสังหารศัตรู ปล่อยสนามพลังขัดขวางการทำงานของเครื่องจักรหรือเครื่องมือสื่อสาร หรือแม้กระทั่งชุบเพื่อร่วมทีมที่อยู่ในสภาพ KO ให้ฟื้นขึ้นมานั้นเป็นสกิลขั้นสูงที่จะเลือกติดตั้งได้แค่ครั้งละอย่างเดียวเท่านั้น และดูเหมือนว่าเกมนี้จะทำให้โดรนมีความสามารถสูงจนน่าเหลือเชื่อ แต่ถึงกระนั้นเกมก็ยังมีข้อจำกัดมาด้วยคือ ในบางจุดจะมีเครื่องส่งสัญญาณรบกวนการทำงานของโดรนไว้เพื่อไม่ให้เราส่งเข้าไปรอบฆ่าเป้าหมายได้ง่ายๆ
ทางด้านเพื่อนร่วมทีมที่เป็น AI ของเราถือว่าค่อนข้างฉลาดมาก ทำอะไรแทบไม่พลาด เช่น สั่งให้เล็งยิงสไนเปอร์เป้าหมายก็โดนนัดเดียวตายทุกครั้ง ขนาดศัตรูหลบอยู่ในป้อมมีให้มองลอดผ่านแค่ซอกเล็กๆ ก็ยังยิงโดน ประเด็นนี้ในบางมุมอาจมองว่าเกมทำมาไม่ค่อยสมดุลก็ไม่ผิดนัก ตรงที่ผู้เล่นอาศัยแค่สั่งเพื่อนยิงสไนเปอร์ไปเรื่อยๆ ก็ชนะได้แล้ว แต่ทว่าการเล่นคนเดียวก็จะมีบางจุดที่ทำไม่ได้อยู่เหมือนกัน เช่น เวลาขับยานพาหนะ เพราะเราต้องเป็นคนขับเท่านั้น ไม่สามารถไปประจำตำแหน่งยิงได้แบบตอนเล่นออนไลน์มัลติเพลเยอร์ ส่วนฝั่งศัตรูนั้นจะแตกต่างกันตามความยากง่ายที่เราปรับไว้ ถ้าตั้งไว้ที่ระดับง่ายก็จะรู้ตัวช้ากว่าที่ควร เราสามารถลักลอบเข้าฐานไปได้สบายๆ แต่ถ้าตั้งไว้ที่ระดับยากสุด ศัตรูก็จะช่างสังเกตมากและมีวิธีต่อสู้กับเราที่ฉลาดเป็นกรด รู้จักการกระจายกำลังเข้าปิดล้อมเรา ซึ่งเหมาะกับผู้เล่นที่อยากหาความท้าทายให้กับชีวิตครับ
จุดเด่น
1. กราฟิกงดงามทั้งฉากป่าเขา ต้นไม้ใบหญ้าที่สวยงามสมราคาที่ว่าใช้โบลิเวียทั้งประเทศมาเป็นโลเคชั่นสำหรับสมรภูมิรอบนี้
2. เกมนี้สามารถเล่นคนเดียวกับเพื่อนร่วมทีมที่เป็น AI ล้วนก็ได้ มิหนำซ้ำมันยังฉลาดมากๆ ด้วย
3. การปรับแต่งปืนจะมีชิ้นส่วนให้เลือกประกอบหลากหลาย จะเน้นแรงหรือเน้นระยะก็สามารถตั้งตามความชอบความถนัดได้หมด
4. การออนไลน์ค่อนข้างให้อิสระ เปิดกว้าง ไม่ดูเรื่องมาก ผู้ที่เพิ่งเริ่มเล่นก็สามารถถูกชวนเข้าร่วมภารกิจหลังๆ หรือถูกพาไปเอาชิ้นส่วนปืนดีๆ ได้
จุดด้อย
1. บั๊กหรือข้อผิดพลาดในเกมยังปรากฏอยู่เยอะ มีหลายครั้งที่เล่นแล้วเผลอตกไปในจุดที่หนีออกมาไม่ได้ ต้องแก้ด้วยการปิดเกมเท่านั้น
2. ความทนทานที่ดูไม่สมจริงของฝ่ายเรา ยานพาหนะในเกมนี้จะขับวิ่งตะลุยตกเขากลิ้งตีลังกา 2-3 รอบก็ยังไปต่อได้ แถมคนที่นั่งอยู่ก็นิ่งเฉยตลอด ขนาดเฮลิคอปเตอร์ถูกยิงตก พวกเราที่นั่งข้างในก็ไม่เป็นไรเลย
3. เกมมีความยาวสูงแต่บางภารกิจอาจรู้สึกว่าต้องทำซ้ำซาก โดยเฉพาะยามใดก็ตามที่ต้องการทรัพยากรมาอัพสกิล
สรุป
Ghost Recon Wildlands นั้นเป็นเกมที่ถ้าเล่นคนเดียวอาจจะเบื่อได้ง่าย เพราะเกมค่อนข้างยาวและให้ทำอะไรจำเจพอสมควร ตัวเพื่อนร่วมทีม AI ก็เด่นเรื่องการยิงสไนเปอร์เสียจนแทบไม่อยากเล่นด้วยวิธีอื่น แต่ถ้าเล่นออนไลน์กับเพื่อนๆ บอกได้เลยว่าเป็นอะไรที่สนุกกว่ามาก เราสามารถประยุกต์ให้เล่นได้หลายรูปแบบกว่า (และความสนุกจากการลุ้นว่าเพื่อนร่วมทีมจะทำอะไรพลาดหรือเปล่าก็ทำให้ตื่นเต้นกว่าด้วย) ลำพังถ้าอยากจะซื้อมาเล่นคนเดียวก็นับว่าเล่นได้ยาวจริงๆ กว่าจะจบ กราฟิกก็สวยงามโดดเด่น แต่ถ้ามีเพื่อนที่เล่นประจำครบ 4 คนขอแนะนำเลยว่า ซื้อเถอะ คุ้มเกินราคามากๆ เล่นแล้วมีทั้งความสนุก ความมันส์สะใจ และความฮา แถม Ubisoft เคยประกาศว่าจะมีแพตช์อัพเดตโหมด PvP ให้ผู้เล่นได้สู้กันเองในอนาคต แต่ตอนนี้ยังไม่กำหนดวันที่แน่นอนว่าจะมาเมื่อไหร่ ซึ่งคงต้องรอคอยกันไปก่อน
คะแนน 8 / 10
