แพลตฟอร์ม: PS3, PS4, PC (ทีมงานทำการรีวิวจากเวอร์ชั่น PS4)
ผู้พัฒนา: Bandai Namco
ผู้จัดจำหน่าย: Bandai Namco
เรต: 13 ปีขึ้นไป
ระยะเวลาเฉลี่ยที่ใช้ในการเล่นจนจบเกม: ประมาณ 42 ชั่วโมง
ระยะเวลาเฉลี่ยที่ใช้ในการเล่นแบบเก็บทุกรายละเอียด: ประมาณ 72 ชั่วโมง
เดินทางมาอย่างยาวนานทีเดียวกับซีรีส์เกม RPG ที่อยู่คู่กับวงการเกมญี่ปุ่นอย่างซีรีส์ Tales of โดยภาคที่ผ่านมาอย่าง Tales of Zestiria ดูจะไม่ได้รับการต้อนรับจากแฟนเกมซีรีส์นี้ที่ดีเท่าไหร่นัก แต่ว่าทางทีมผู้สร้างยังรักและชื่นชอบในจักรวาลส่วนนี้อยู่ ด้วยเหตุนี้ภาคล่าสุดอย่าง Tales of Berseria จึงมาถึง แต่มันจะกู้ศรัทธาจากแฟนๆ ได้ขนาดไหน รีวิวนี้มีคำตอบครับ
Tales of Berseria จะเล่าเรื่องราวจะย้อนไป 1,000 ปีก่อนเหตุการณ์ใน Tales of Zestiria ตัวเอกคือสาวน้อยนาม เวลเว็ต (Velvet) ผู้มีแขนซ้ายเป็นปีศาจอันเนื่องมาจากในอดีต เธอได้ถูกพี่ชายของเธอ อาเธอร์ (Arthur) ทรยศด้วยการฆ่าน้องชายที่เธอรักที่สุด และส่งเธอไปเข้าคุกในเกาะกลางทะเล ด้วยความช่วยเหลือจากอดีตผู้รับใช้อาเธอร์ ทำให้เธอได้ออกจากคุกและสัญญาว่าความแค้นที่เธอสะสมมาจะต้องได้รับการชดใช้อย่างแน่นอน การเดินทางที่เปี่ยมไปด้วยการล้างแค้นจึงเริ่มขึ้น
ว่าด้วยเรื่องราวของเกม ต้องบอกว่าน่าสนใจและเขียนบทมาดี โดยเรื่องราวเน้นการเติบโตและเป้าหมายชีวิตที่ตัวละครค้นหา มาพร้อมกับฉากเปิดเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกโกรธแค้นไปกับเวลเว็ต ช่วยกระตุ้นความอยากเล่นว่าเรื่องราวจะจบแบบใด มันจะสาสมกับที่เรารอคอยมั้ย ซึ่งเรื่องราวหลักของเกมจะค่อนข้างซีเรียสน่าติดตาม แต่สำหรับเรื่องราวย่อยต่างๆ ของเกมช่วยสร้างสีสันให้ไม่ซีเรียสเกินไปเช่นกัน ฉะนั้นเวลาเดินเรื่องเราจึงควรคอยสังเกตมุมจอขวาล่าง แล้วกดปุ่มเพื่อดูการพูดคุยกันเล่นๆ ภายในทีม จะช่วยเสริมเรื่องราวและทำให้เรื่องสนุกมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ทุกตัวละครจะมีเนื้อเรื่องเฉพาะทำให้เราเข้าใจตัวละครตัวนั้นมากขึ้นกว่าเดิม ฉะนั้นในแง่เสพเรื่องราวถือว่า Tales of Berseria ทำได้อย่างดีมาก ทั้งในการดำเนินเรื่อง และในส่วนของตัวละครที่มีเสน่ห์น่าสนใจ ไม่เว้นแม้แต่ตัวร้ายที่ทำให้เรามีอารมณ์ร่วมในฉากที่มันโชว์ความน่าหมั่นไส้เหมือนกัน
ส่วนระบบของเกม ซีรีส์ Tales of ขึ้นชื่อในเรื่องของเกมแนว RPG ที่ฉากต่อสู้เป็นการผสมผสานการเล่นแบบเกมแอ็กชั่นมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว ซึ่งในภาคนี้ก็จะเป็นฉากต่อสู้ 3D เต็มรูปแบบเหมือนซีรีส์นี้ในภาคหลังๆ โดยมุมกล้องสามารถหมุนได้อิสระ ทำให้การต่อสู้ไม่ได้ดูลำบากมากมาย แต่อาจจะแย่หน่อยตรงการล็อคเป้าศัตรูที่เกมจะล็อคให้อัตโนมัติ แต่บางตัวไม่ใช่ศัตรูที่เราจะเข้าไปจัดการ และหากกดโจมตีขณะเราเดินออกจากกลุ่มศัตรู ก็จะวิ่งเข้าไปตีในดงศัตรูแทนซะงั้น แรกๆ อาจจะไม่ชิน แต่พอผ่านไปสักระยะก็จะชินมือไปเอง ทั้งนี้ เราจะบังคับตัวละครได้เพียงคนเดียว แต่สามารถเปลี่ยนตัวได้ตลอดเวลา ซึ่ง AI เพื่อนของเราก็พึ่งพาได้ระดับนึง และเรายังสามารถปรับแต่ง AI ของเพื่อนให้เป็นไปตามแผนที่เราต้องการได้ตลอดเวลา
ในเรื่องการบังคับฉากต่อสู้ เนื่องจากมันผสมความเป็นเกมแอ็กชั่น เราจึงต้องเซ็ตคอมโบของตัวละครออกมา โดยจะเป็นการเซ็ตว่าปุ่มที่เรากดจะให้เป็นท่าอะไรบ้าง ซึ่งการเซ็ตนี้ก็จะส่งผลต่อความเร็วและความต่อเนื่องของท่า และเกมมีระบบ Soul ซึ่งทุกการโจมตีของเราจะเสีย Soul ไป และค่านี้จะกลับมาเมื่อหยุดพักหรือช่วงชิงจากศัตรูด้วยการอัดให้ตายหรือทำให้มึนงง ซึ่งหาก Soul ถึงระดับที่กำหนดเราจะสามารถใช้ Break Soul ซึ่งเป็นท่าไม้ตายระดับแรก และถ้าใช้ Soul จนสะสม Blast Gauge เต็ม ก็จะใช้ท่าไม้ตายใหญ่ได้ ซึ่งจุดนี้ระบบการต่อสู้มีหลากหลายและลึกพอสมควร ฉะนั้นในทุกการต่อสู้ต้องวางแผนจะใช้ทำอะไรบ้างให้ดี โดยเฉพาะศัตรูกลุ่มโหดๆ ทั้งหลาย
ส่วนนึงที่ชอบมากของเกมคือการมีระบบอะไรหลายอย่างให้เราเล่นเยอะมาก ตั้งแต่ระบบเรื่องของอาวุธ ในเกมนี้เราจะสามารถเก็บค่าความสามารถของอาวุธทุกชิ้น โดยเมื่อเก็บจนเต็มแล้วอาวุธชิ้นนั้นจะเผยความสามารถพิเศษออกมา และถึงแม้เราจะได้หรือซื้ออาวุธชนิดเดิมมา แต่มันก็จะแตกต่างด้านความสามารถที่ปลดล็อคอีกที ฉะนั้นจึงยั่วยวนให้เราเก็บค่าความสามารถของอาวุธทุกชิ้นให้เต็มเพื่อหาความสามารถที่เหมาะกับเรา (โดยถ้าหากเก็บค่าประสบการณ์อาวุธชิ้นนั้นเต็มแล้ว ต่อให้ได้ชนิดเดียวกันมาจากไหนก็มีค่าความสามารถเต็มทันที) รวมถึงยังมีมินิเกมมากมายมหาศาลให้เล่น ทั้งการทำอาหารที่เมื่อเรากินจะช่วยเพิ่มค่าสเตตัส หรือลดอัตราการติดสเตตัสผิดปกติ, การสั่งให้เรือของเราออกท่องโลกเพื่อหาของต่างๆ, มินิเกมชิงเหรียญเพื่อเอาไปแลกของ หรือแม้แต่การเก็บก้อนวิญญาณเพื่อไปเปิดหีบแมวเอาของพิเศษ เรียกว่าหากต้องการเก็บทุกอย่างทั้งเกม ก็สามารถเล่นกันได้ข้ามเดือนเลยทีเดียว
นอกจากนี้ดันเจี้ยนและภารกิจต่างๆ เกมก็มีการแนะแนวทางในระดับที่ดี คือไม่ถึงขั้นไม่บอกอะไรให้คนเล่นหาเอง แต่การชี้ทางให้คนเล่น ก็ไม่ได้ชี้แบบเหมือนคนเดินไม่เป็น ทำให้การสำรวจดันเจี้ยนของเรา เราจะรู้ได้ว่าเป้าหมายคืออะไร แต่การจะเดินไปถึงทางนั้นเราต้องค้นหาเอง ซึ่งช่วยให้เราสำรวจดันเจี้ยนแต่ละอันอย่างจริงจังและสนุกมาก ดันเจี้ยนในเกมก็ออกแบบได้ระดับสำรวจสนุก
ส่วนกราฟิกในเกม อาจจะไม่ได้สวยหรูระดับโชว์ประสิทธิภาพเครื่อง PS4 เต็มรูปแบบ ทว่าด้วยงานการออกแบบที่งดงามและน่าสนใจ ก็ทำให้เราเพลิดเพลินกับโลกของเกมทุกครั้งที่ออกสำรวจได้ไม่ยาก สิ่งที่น่าชื่นชมที่สุดคงเห็นเป็นโมเดลตัวละครที่ออกมาดูดีเสมือนอนิเมะ ทั้งรูปร่างหน้าตาท่าทางการแสดงอารมณ์ล้วนทำได้ดีมากๆ เสียแต่หากเป็นฉากที่เล่นแสงเงาบางช่วง มันทำให้โมเดลตัวละครดูแย่แบบแปลกๆ แต่นั่นก็เพียงส่วนน้อยที่เราจะเห็นในเกม ดนตรีที่ไพเราะติดหู แต่น่าติในจุดที่บางดันเจี้ยนของเกม เลือกจะไม่สั่งดนตรีประกอบเข้ามา ทำให้การผจญภัยเงียบเหงาไปในทันที ก็ไม่เข้าใจในส่วนนี้ว่าใช้เกณฑ์อะไรในการตัดสินว่าดันเจี้ยนไหนไม่ควรใส่ดนตรีเข้าไป ส่วนเรื่องเสียงพากย์นั้น เกมจะให้เราเลือกเสียงพากย์ได้หมดไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่นหรืออังกฤษ (ซึ่งทีมงานเลือกเสียงเป็นญี่ปุ่น) ซึ่งเสียงพากย์ก็ทำออกมาได้ดีกว่าที่คิด ฉะนั้นใครอยากเลือกเสียงพากย์เป็นภาษาอะไรก็แล้วแต่ผู้เล่นเลยครับ
จุดเด่น
– เนื้อเรื่องมีความน่าติดตาม ตัวละครน่าจดจำ ทำให้เรามีความรู้สึกร่วมกับตัวละคร รวมถึงเนื้อเรื่องย่อยต่างๆ ก็ช่วยเสริมความแข็งแกร่งในเนื้อเรื่องหลัก
– ระบบการต่อสู้ที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน แต่มีความลึกในตัวของมันเอง ทำให้การต่อสู้ในช่วงหลังๆ ต้องใช้การวางแผนระดับนึง
– กราฟิกของเกมโดยเฉพาะโมเดลตัวละครทำได้สวยงามอย่างมาก ทั้งหน้าตา ท่าทาง การแสดงอารมณ์
– คอนเท้นท์ในเกมถือว่าทำมาแน่น ไม่ว่าจะเป็นระบบย่อย มินิเกม ดันเจี้ยนลับ ที่ว่ามาทั้งหมดไม่มีระบบไหนดูไร้ประโยชน์หรือบังคับให้เล่น แต่มันเป็นการตัดสินใจว่าผู้เล่นจะเล่นเองหรือไม่ ถ้าเล่นก็จะได้ของหรือทำให้เกมง่ายขึ้น
จุดด้อย
– ระบบการต่อสู้ช่วงแรกอาจทำเรางงและไม่ชิน โดยเฉพาะระบบล็อคเป้า
– กราฟิกตัวละครบางช่วงของเนื้อเรื่อง โดยเฉพาะที่เล่นกับแสงเงาหรือแสงอาทิตย์ จะดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก
สรุป
Tales of Berseria ถือเป็นเกม JRPG ที่มีคุณภาพมาก ระบบการต่อสู้ที่เข้าใจง่าย แต่มีความลึก เนื้อเรื่องที่น่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบรวมไปถึงเนื้อเรื่องย่อยมากมาย ที่สำคัญคือคอนเท้นท์ของเกมมีมากมายมหาศาลแก่ผู้เล่นแบบจุใจสุดๆ เลยขอแนะนำอย่างแรง
คะแนน 9 / 10
