28 สิงหาคม: วันเกิดของผู้ให้กำเนิดโปเกม่อน!!

แชร์เรื่องนี้:
28 สิงหาคม: วันเกิดของผู้ให้กำเนิดโปเกม่อน!!

28 สิงหาคม: วันเกิดของผู้ให้กำเนิดโปเกม่อน!!

รอบเดือนที่ผ่านมานี้ คงไม่มีกระแสไหนจะแซงหน้าเกม Pokemon GO ได้แล้วนะครับ ด้วยเอกลักษณ์ที่ผสมผสานระหว่างตัวละครน่ารักจากเกม Pokemon กับระบบ Google Map บนสมาร์ทโฟน เลยทำให้เกิดเป็นกระแสที่ทำให้ผู้คนต่างออกจากบ้านมาไล่จับโปเกม่อนกันทั่วบ้านทั่วเมือง โดยในวันที่ 28 สิงหาคมก็เป็นวันคล้ายวันเกิดของคุณซาโตชิ ทาจิริ (Satoshi Tajiri) ผู้ให้กำเนิดแฟรนไชส์ Pokemon ที่มีอายุครบ 51 ปีในวันนี้พอดี ทีมงาน play กับ Online Station ก็เลยขอเล่าประวัติของคุณทาจิริมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ

คุณทาจิรินั้นเป็นชาวโตเกียวมาแต่กำเนิดครับ โดยในวัยเด็กนั้นคุณทาจิริมีงานอดิเรกคือไล่จับแมลง ซึ่งเขาเชี่ยวชาญในการจับแมลงจนเพื่อนๆ ต่างมอบฉายาให้ว่า Dr. Bug และคุณทาจิริเองในตอนแรกก็ฝันอยากจะเป็นนักกีฏวิทยา (ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นคว้าเกี่ยวกับแมลง) แต่ด้วยยุคสมัยที่ก้าวหน้าไปตามกาลเวลา ทำให้ตึกรามบ้านช่องในโตเกียวผุดขึ้นไปทั่วจนแทบไม่เหลือที่ให้จับแมลงในเขตตัวเมืองเลย ด้วยเหตุนี้ผู้คนที่นิยมการจับแมลงก็ลดจำนวนลงตามไป ทว่าคุณทาจิริเองก็เลยมีอีกความฝันหนึ่งว่าอยากจะสร้างเกมที่ให้เด็กๆ ได้ไล่จับมอนสเตอร์และเก็บสะสมพวกมันเป็นคอลเลคชั่น เหมือนเมื่อครั้งที่เขาเคยจับแมลงในวัยเยาว์นั่นเอง

สืบเนื่องจากความที่เป็นคนที่หลงใหลในวิดีโอเกม คุณทาจิริจึงโดดเรียนเพื่อหนีไปเล่นเกมบ่อยมากและนั่นเกือบทำให้เขาไม่จบชั้นมัธยมศึกษา และความประพฤติของคุณทาจิริในตอนนั้นก็ทำให้พ่อแม่ของเขาอดห่วงไม่ได้ อีกทั้งกลัวว่าคุณทาจิริจะทำลายอนาคตตัวเองลงไป คุณพ่อของคุณทาจิริก็เลยพยายามจะผลักดันให้เขาเข้าทำงานที่บริษัท Tokyo Electric Power Company ซึ่งคุณทาจิริได้ปฏิเสธที่จะทำงาน ณ ที่แห่งนั้นแล้วหันมาตั้งหน้าตั้งตาเรียนจนจบชั้นมัธยมได้สำเร็จ ต่อมาเขาก็ตัดสินใจไม่เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย แล้วเลือกเรียนหลักสูตรอบรมที่วิทยาลัยเทคโนโลยีโตเกียวเป็นเวลา 2 ปีแทน โดยหลักสูตรดังกล่าวคือด้านอิเลคทรอนิกส์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ครับ

จุดกำเนิดของโปเกม่อนมาจากที่คุณทาจิริในวัย 17 ปีได้เริ่มวาดและดูแลการผลิตแฟนซีนที่มีชื่อว่า Game Freak ในช่วงปี 2524-2529 ซึ่ง Game Freak เป็นนิตยสารที่วาดและเย็บเล่มด้วยมือทั้งหมด ระหว่างนี้ คุณเคน สึกิโมริ (ผู้วาดโปเกม่อนทั้ง 151 ตัว) ก็ได้ไปพบนิตยสารดังกล่าวเข้า ทั้งคู่จึงได้ทำงานร่วมกันนับแต่นั้นมา จากนั้นคุณทาจิริก็พบว่าหลายๆ เกมที่เขาเล่นนั้นยังมีคุณภาพไม่ดีนัก เขากับคุณสึกิโมริก็เลยตัดสินใจว่าพวกตนน่าจะลองทำเกมของตัวเองดู คุณทาจิริเลยทดลองเรียนรู้การพัฒนาเกมจากชุดพัฒนาที่เรียกว่า Family BASIC ด้วยตนเอง พอได้ไอเดียจากการลองผิดลองถูกมาระดับหนึ่ง คุณทาจิริก็จัดการซื้อชุดฮาร์ดแวร์ที่จำเป็นต่อการพัฒนาเกมมาใช้ แล้วแปลงสภาพ Game Freak จากสำนักพิมพ์นิตยสารแบบทำมือให้กลายเป็นบริษัทพัฒนาเกมตั้งแต่ปี 2532 และเกมแรกที่พัฒนาภายใต้ชื่อบริษัท Game Freak ก็คือ Quinty (หรือ Mendel Palace ในเวอร์ชั่นอังกฤษ) ลงให้กับเครื่อง Famicom

ในปี 2533 ไอเดียในการพัฒนาเกมโปเกม่อนก็เริ่มขึ้น โดยคุณทาจิริได้เห็นเครื่อง Game Boy ออกสู่ตลาดและพบว่าเครื่องเกมพกพาชิ้นนี้ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลายทั่วโลก และจากคุณสมบัติของ Game Boy ก็ทำให้คุณทาจิริตัดสินใจได้ว่าเกมโปเกม่อนจะไปได้สวยแน่ๆ หากลงบนเครื่องเกมที่เป็นแบบพกพา ซึ่งอาศัยสายลิงค์เคเบิล (Link Cable) เป็นตัวเชื่อมและถ่ายโอนข้อมูลมอนสเตอร์ระหว่างผู้เล่นด้วยกัน คุณทาจิริก็เลยเอาไอเดียนี้ไปเสนอกับทาง Nintendo ทว่าในตอนแรก Nintendo เองก็ยังไม่เปิดรับคอนเซ็ปต์ของคุณทาจิริเท่าไหร่นัก แต่คุณชิเงรุ มิยาโมโตะ (ผู้ให้กำเนิดซีรีส์ Mario) กลับประทับใจในไอเดียของคุณทาจิริขึ้นมา ก็เลยอาสาเป็นผู้ให้คำแนะนำแก่คุณทาจิริในด้านความรู้ของการพัฒนาเกม ในที่สุดเกม Pokemon Red and Blue ซึ่งเป็นเกมภาคแรกของซีรีส์ก็ถือกำเนิดขึ้นในปี 2539 และ 6 ปีของการพัฒนาก็ยาวนานจนเกือบทำเอาบริษัท Game Freak ของคุณทาจิริต้องล้มละลาย เพราะเกือบมีเงินไม่พอจ่ายเงินเดือนให้พนักงาน เคราะห์ดีที่มีบริษัท Creature เข้ามาช่วยเหลือทางด้านการเงินไว้ โดยมีเงื่อนไขว่าบริษัท Creature จะได้สิทธิเรื่องส่วนแบ่งรายได้ 1 ใน 3 จากแฟรนไชส์โปเกม่อนเป็นการตอบแทน

ช่วงก่อนที่เกม Pokemon Red and Blue จะวางจำหน่าย มีสื่อบางสำนักประโคมข่าวว่า Game Boy กำลังเป็นเครื่องเกมที่รอวันตาย เพราะในขณะนั้นไม่มีเกมที่จะพลิกสถานการณ์ให้ผู้เล่นหันมาเทความสนใจได้มากนัก ซึ่งนี่ก็ทำให้คุณทาจิริเองก็หวั่นว่าทาง Nintendo จะปฏิเสธไม่วางจำหน่ายเกมของเขาหรือเปล่า โดยเฉพาะ Nintendo เองก็ไม่ได้หวังไว้แต่แรกว่า Pokemon ภาคแรกนี้จะทำยอดขายได้ดีอะไรนัก แต่แล้วพอเกมออกวางจำหน่ายจริงๆ ทุกอย่างกลับตาลปัตรชนิดหักปากกาเซียน เมื่อเกม Pokemon Red and Blue สามารถทำยอดขายทั่วโลกไปได้ 23.64 ล้านชุด ส่งผลให้เกมนี้ขึ้นทำเนียบเป็นเกมขายดีตลอดกาลอันดับ 2 ของเครื่อง Game Boy โดยเป็นรองเพียงเกม Tetris เกมเดียวเท่านั้น (Tetris ขายได้ 35 ล้านชุดทั่วโลก) แถมยังขายดีกว่าเกม Super Mario Land ที่คุณมิยาโมโตะ ซึ่งเปรียบเสมือนอาจารย์ของคุณทาจิริพัฒนาเองด้วยซะงั้น (Super Mario Land ขายได้ 18.06 ล้านชุด อยู่อันดับที่ 4)

จากยอดขายเกม Pokemon Red and Blue ที่พุ่งจนฉุดไม่อยู่ มันได้ช่วยกอบกู้สถานการณ์ของทั้ง Game Freak และ Nintendo ให้เป็นที่จับตามองของผู้คนทั่วโลกในทันที และซีรีส์ Pokemon ก็มีภาคต่อออกมามากมาย และแทบจะไม่มีภาคไหนประสบความล้มเหลวเรื่องยอดขายเลย จนทำให้ Pokemon กลายเป็นอีกซีรีส์ระดับไม้ตายของ Nintendo เคียงคู่กับ Mario ไปโดยปริยาย ว่ากันว่าเมื่อใดที่มีกระแสพูดกันว่า Nintendo กำลังจะเข้าสู่ขาลง ขอเพียงแค่ปล่อยเกม Pokemon ภาคใหม่ลงมาเท่านั้นแหละ เกมพลิกได้เลย

มีเกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับ Pokemon อยู่นิดนึงนะครับว่า ตัวละครซาโตชิที่เป็นพระเอกของอนิเมะเรื่อง Pokemon นั้นมีที่มาจากชื่อจริงของคุณทาจิริเอง และตัวละครชิเงรุที่เป็นคู่ปรับของซาโตชิ ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากชื่อจริงของคุณมิยาโมโตะ ผู้ที่คุณทาจิริให้ความเคารพเหมือนครูผู้อาวุโสคนหนึ่งนั่นเองครับ นอกจากนี้คุณทาจิริก็เคยให้สัมภาษณ์ว่าช่วงชีวิตของเขาได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์อุลตร้าแมนและก็อดซิลล่ามามาก และถ้าตอนแรกเขาไม่ได้มาอยู่วงการเกม ก็คงเลือกจะไปทำงานอยู่ในวงการอนิเมะแทน

ไม่ว่าจะอย่างไร วงการเกมก็ได้จารึกชื่อคุณซาโตชิ ทาจิริ นี้ไว้ในประวัติศาสตร์แล้วแน่นอนครับว่าเขาผู้นี้คือคนที่ให้กำเนิดซีรีส์ Pokemon และมอบความสุขให้กับชาวโลกตลอดมา ซึ่งถ้าไม่มี Pokemon เวอร์ชั่นเครื่องเกมพกพาในวันนั้น ก็คงไม่มี Pokemon GO ในวันนี้ให้พวกเราได้เดินถือสมาร์ทโฟนไล่จับโปเกม่อนตามท้องถนนกัน

แชร์เรื่องนี้:
Vesper
About the Author

Vesper

เซเว่นที่ว่าแน่ ก็ยังหารักแท้มาขายไม่ได้

เรื่องที่คุณอาจสนใจ