"วันนี้ในอดีต" by play
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2544 หรือวันนี้เมื่อ 15 ปีที่แล้ว เป็นวันวางจำหน่ายของเกม Final Fantasy IX (FF9) บนเครื่อง PS1 ที่สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส และเยอรมนี โดยภาคนี้ได้ถูกพัฒนาด้วยแนวคิดที่เน้นความเรียบง่าย ผ่านธีมของเกมที่คล้ายโลกยุคกลาง หลังจากที่ภาค 6-8 ได้มีการนำเทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์เข้ามาเป็นพล็อตหลักของเรื่อง
ทางด้านเกมเพลย์ของการผจญภัยในภาค 9 นี้ มีการนำ "ม็อก" (Mog) มอนสเตอร์สีขาวมีปีกสุดน่ารักเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยเจ้าม็อกนี้จะโผล่มาเป็นจุดเซฟที่ผู้เล่นสามารถกดเรียกใช้ได้ทุกครั้งเวลาที่อยู่บนฉากแผนที่ หรือแม้กระทั่งโผล่มาเป็นตัวละครอธิบายวิธีการเล่นทั่วไป (เพียงกดปุ่ม Select ในหน้าเมนูเวลาเราเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่หัวข้อต่างๆ รวมถึงระบบ Mognet ที่ให้ผู้เล่นทำหน้าที่บุรุษไปรษณีย์คอยส่งเมล์ให้ม็อกตัวอื่นๆ ที่อยู่สถานที่อื่นๆ ทั่วโลก พร้อมทั้งนำระบบ Active Time Event ที่เป็นระบบการดูเหตุการณ์ของตัวละครอื่นที่ไม่ได้อยู่ในปาร์ตี้เดียวกันขณะนั้นแบบ Real-time
ในส่วนของการพัฒนาความสามารถตัวละครสำหรับภาค 9 จะเน้นไปที่คอนเซ็ปต์ความเรียบง่าย กล่าวคือ อาวุธชุดป้องกันแต่ละชิ้นจะมีสกิลให้เรียนรู้แตกต่างกันไป ซึ่งผู้เล่นก็ต้องสวมใส่อาวุธชุดป้องกันเหล่านั้นแล้วปราบศัตรูเพื่อเก็บค่า AP มาเติมเกจจนเต็ม จึงจะสามารถนำสกิลมาใช้ได้อย่างถาวร
ทั้งนี้ สกิลในเกมก็จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Active Skill ที่เป็นสกิลจำพวกเวทมนตร์หรือท่าไม้ตายต่างๆ ที่ต้องกดใช้ในการต่อสู้ ในขณะที่อีกประเภทคือ Passive Skill ที่เป็นสกิลประเภทเพิ่มความสามารถด้านต่างๆ ของตัวละคร เช่น เพิ่ม HP Max 10%, ป้องกันการติดอาการ Blind (ตาบอด) หรือ Auto-Haste (อยู่ในสถานะ Haste ตลอดเวลา) เป็นต้น
Fact เล็กน้อยเกี่ยวกับเกม Final Fantasy IX
- FF9 เวอร์ชั่นญี่ปุ่นนั้นวางจำหน่ายมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2543 และสามารถทำยอดขายได้ถึง 2.65 ล้านชุดภายในปีนั้น และขึ้นทำเนียบเป็นเกมที่มียอดขายสูงเป็นอันดับ 2 ของปี 2543 ทันที (เกมที่ได้อันดับ 1 ในปีนั้นคือ Dragon Quest VII ที่วางจำหน่ายบนเครื่อง PS1 เช่นกัน) แม้ว่าจะเป็นเกมที่มียอดขายดีในช่วงเวลานั้น แต่เมื่อนับยอดขายรวมแล้ว กลับยังสู้ FF7 และ FF8 ไม่ได้ และในที่สุดยอดขายรวมของภาค 9 ก็ไปนิ่งสนิทอยู่ที่ราวๆ 5.3 ล้านชุดทั่วโลก (นับถึงวันที่ 31 มีนาคม 2546)
- เกมนี้ได้รับการโหวตจากผู้เล่นทั่วญี่ปุ่นให้เป็นเกมยอดเยี่ยมตลอดกาลอันดับที่ 24 ซึ่งจัดอันดับโดยนิตยสาร Famitsu
- ถึงแม้ยอดขายอาจจะสู้ภาคยอดนิยมอย่างภาค 7 ไม่ได้ แต่เชื่อมั้ยครับว่า FF9 กลับเป็นภาคที่ได้คะแนนเฉลี่ยจากทุกสำนักข่าวเกมทั่วโลกสูงถึง 93% และเป็นอันดับที่ 2 รองจาก FF6 ที่เคยลงให้กับเครื่อง Super Famicom เมื่อปี 2537 เพียงภาคเดียวเท่านั้น โดยหลายๆ สำนักให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่าจุดเด่นของภาคนี้คือ "เนื้อเรื่อง" ที่มีความลุ่มลึก น่าติดตาม อีกทั้งตัวละครทุกตัวต่างมีที่มาที่ไปอันน่าสนใจ มีการพัฒนาความสัมพันธ์และความคิดตามเนื้อเรื่องที่ดำเนินไป พร้อมทั้งแฝงแง่คิดผ่านบทพูดของตัวละครได้อย่างแยบคาย ถือว่าเป็นจุดแข็งที่โดดเด่นของภาคนี้เลยทีเดียว
- คุจา (Kuja) หนึ่งในตัวร้ายของภาคนี้ ถูกโหวตให้เป็นยอดวายร้ายตลอดกาลอันดับที่ 6 ของซีรีส์ Final Fantasy โดยอันดับที่ 1-3 ได้แก่ เซฟิรอธ (FF7), เคฟก้า (FF6) และ ซีมัวร์ (FF10) ตามลำดับ
- เพลงร้องประจำของภาคนี้มีชื่อว่า Melodies of Life ขับร้องโดยคุณชิราโทริ เอมิโกะ และมีการประพันธ์เนื้อร้องของเพลงนี้ทั้งแบบเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ ซึ่งทำนองของเพลงนี้เป็นทำนองเดียวกับเพลง Crossing Those Hills ที่เป็นเพลงบรรเลงตอนอยู่บนฉากแผนที่นั่นเองครับ
- ในช่วงวันวางจำหน่าย FF9 ที่ญี่ปุ่น ทางค่าย Squaresoft ที่ตอนนั้นยังไม่ควบรวมบริษัทกับ Enix ได้ตัดสินใจเปลี่ยนวันวางจำหน่ายของ FF9 กะทันหัน เพื่อเลี่ยงที่จะวางจำหน่ายชนกับ Dragon Quest VII ที่ขายในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งตรงนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าซีรีส์ Dragon Quest นั้นเป็นเหมือนเกมระดับวาระแห่งชาติของเกมเมอร์ชาวญี่ปุ่นเขาครับ ถึงขนาดที่ว่าทางการของที่นู่นต้องขอร้องค่าย Enix ว่าอย่าวางจำหน่ายเกม Dragon Quest ตรงกับวันธรรมดา มิเช่นนั้นเขาเกรงว่าคนญี่ปุ่นจะแห่กันหยุดงานเพื่อมาซื้อเกมนี้จนสะเทือนถึงระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเลยทีเดียว