หลังปล่อยให้เกมเมอร์บนพีซีรอกันมานานหลายเดือน ในที่สุด Ubisoft ก็เตรียมปล่อยเกม Assassin's Creed: Rogue ออกมาให้แฟนๆ เกมเมอร์ได้เล่นกันแล้ว แต่ว่า Rogue สมควรจะหามาเล่นหรือเปล่า? และการเล่นบนพีซีมันมีข้อดีตรงไหน ขอเชิญพบกับ 5 เหตุผลที่คุณควรเล่น Assassin's Creed: Rogue กันได้เลย
สวมบทเป็น Templar
การผจญภัยของ Shay ตัวเอกของเกมในภาคนี้จะพาคุณไปพบกับมุมมองของเหล่า Templar กันบ้างหลังจากที่เราฝังตัวอยู่กับกลุ่มมือสังหารมานานหลายเกม เราจะได้รับรู้ว่าอะไรคือเป้าหมาย อะไรคือแนวความคิดหลักของเหล่า Templar ที่เป็นศัตรูกับเรามานาน ยิ่งไปกว่านั้นในตัวเกมภาค Rogue เราจะได้เห็นเหล่ามือสังหารในมุมมองแบบใหม่ที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อนอีกด้วย แถมเนื้อหาใน Rogue นั้นถือได้ว่าเป็นการปิดท้ายเรื่องราวของเหล่าตัวละครจากเกม Assassin’s Creed III และ Assassin’s Creed: Black Flag ดังนั้นหากคุณเป็นแฟนของซีรีส์นี้และติดตามเรื่องราวมาโดยตลอดคุณก็ยิ่งไม่ควรพลาดการผจญภัยของ Shay ในภาคนี้เช่นกัน
อัดแน่นด้วยของเล่นและระบบใหม่
Rogue นั้นถือได้ว่าเป็นภาคแรกและภาคเดียวที่จะให้คุณได้รู้สึกถึงความทรงพลังของทั้งตัวละครหลักของคุณและได้ใช้อำนาจในฐานะของการเป็น Templar ได้อย่างเต็มที่ Shay ตัวละครหลักของคุณจะมีความสามารถและอาวุธต่างๆ ให้ใช้งานตั้งแต่ช่วงต้นของเกมนอกจากอาวุธธรรมดาที่เราคุ้นเคย Shay ยังมาพร้อมกับปืนไรเฟิลอากาศที่สามารถยิงลูกระเบิดได้อีกด้วยแถมกระสุนและลูกระเบิดก็มีให้เลือกใช้งานกันมากมายหลายชนิด จะหลอกล่อสร้างความสับสนหรือหมายสังหาร Shay ของเราก็พร้อมรับกับทุกสถานการณ์ ในส่วนของเรือประจำตัวของ Shay ก็มีความเร็วในการเคลื่อนที่และบังคับได้ง่ายดายมากกว่าเรือในภาค Black Flag แฟนเกมคนไหนที่เคยคิดว่าการบังคับเรือตัวเกมภาค 4 นั้นลำบากมากเกินไปก็ลองมาบังคับเรือลำใหม่ที่ถูกปรับปรุงทุกด้านในภาคนี้กันดู
สภาพแวดล้อมแถบอเมริกาเหนือก็ยังให้อารมณ์ที่แตกต่างไปจากทะเลแคลิเบียนที่เราคุ้นเคยจากภาคเก่า ทำลายก้อนน้ำแข็งยักษ์ที่อยู่ตามจุดต่างๆ เพื่อค้นพบสถานที่ใหม่ๆ ซึ่งถูกซ่อนเอาไว้ หรือใช้ก้อนน้ำแข็งเป็นกำบังในระหว่างการต่อสู้ทางทะเล
โลกอันกว้างใหญ่พร้อมภารกิจมากมาย
ขณะที่ Rogue อาจจะไม่ใช่ตัวเกมภาคหลักเหมือนกับภาค Black Flag หรือภาค Unity แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเนื้อหาของเกมจะถูกทำให้ลดน้อยถอยลงไปแต่อย่างใด ตัวเกมในภาค Rogue ยังมาพร้อมกับภารกิจหลักและภารกิจรองมากมายให้ผู้เล่นได้ออกไล่ล่า เช่น การคุ้มกันบุคคลสำคัญจากการลอบสังหารของเหล่า Assassin, การเพิ่มระบบบุกขึ้นเรือของฝ่ายศัตรูที่ทำให้ภาคนี้เราจะได้ลองสวมบทเป็นฝ่ายตั้งรับจากการบุกโจมตีขึ้นเรือกันบ้าง (ขณะที่ในภาค Black Flag เราทำได้แค่บุกขึ้นเรือของอีกฝ่าย), ขณะเดียวกันระบบการเล่นบนบกก็ถูกใส่ลูกเล่นใหม่เข้ามาอย่างการที่ Shay ตัวเอกของเราจะต้องคอยระวังตัวจากการถูกลอบสังหารซึ่งผู้เล่นสามารถใช้ Eagle Vision คอยตรวจดูได้ว่ามีศัตรูกำลังเคลื่อนที่เข้ามาหวังปลิดชีพเราหรือไม่
และใครที่ชื่นชอบการอัพเกรดตกแต่งเรือก็ขอให้ไม่ต้องกังวลเพราะในภาค Rogue นั้นเราก็ยังสามารถตกแต่งและปรับปรุงเรือประจำตัวของเราได้อย่างเต็มที่เช่นเดิม แถมมีการเพิ่มระบบปรับปรุงเมืองเข้ามาอีกด้วยทำให้เงินที่หามาอย่างยากลำบากของเราไม่ไร้ประโยชน์อีกต่อไป
เร็วกว่า ลื่นกว่า ละเอียดกว่า ต้องเล่นบนพีซี
แน่นอนว่าการที่ตัวเกมถูกย้ายมาลงให้กับเครื่องพีซีทำให้ตัวเกมถูกดึงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ ด้วยขุมพลังของเครื่องพีซี คุณสามารถเลือกปรับแต่งภาพของตัวเกมให้ล้ำหน้าสวยงามกว่าเวอร์ชั่นอื่นๆ อย่างเทียบกันไม่ติด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรายละเอียดของเท็กเจอร์และการลบลอยหยักของภาพยิ่งไปกว่านั้นงานนี้ Ubisoft ยังใส่เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเข้ามาในตัวเกม กับการใช้อุปกรณ์ SteelSeries Sentry ซึ่งเป็นตัวจับการเคลื่อนไหวของสายตา ซึ่งหากคุณมีเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้คุณก็สามารถใช้ดวงตาของคุณในการควบคุมมุมกล้องได้โดยการมองไปยังบริเวณมุมของจอภาพและตัวเกมก็จะทำการปรับมุมกล้องไปมาโดยอัตโนมัติ
Rogue เป็นเหมือนจดหมายรักฉบับส่งท้ายแก่แฟนๆ
เกมตระกูล Assassin’s Creed ได้เริ่มเดินหน้าไปสู่ทิศทางใหม่แล้ว จากทั้งภาค Unity ที่ออกวางจำหน่ายและภาคใหม่ Victory ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา ทำให้ Rogue จะกลายเป็นเกมมือสังหารภาคสุดท้ายที่จะยังมีระบบการเล่นแบบเก่าอยู่ครบครันโดยเฉพาะ สำหรับเกมเมอร์ที่ติดตามตัวเกมมาตั้งแต่ภาคหนึ่งและสอง เพราะหลังจากนี้ไปเราคงจะไม่ได้เห็นการขับเรือ การใช้ระบบ Counter สังหารศัตรูเป็นกองทัพ Rogue จึงเปรียบได้กับจดหมายรักฉบับสุดท้ายของความสัมพันธ์ยาวนานกว่า 8 ปีที่แฟนเกมและ Ubisoft ร่วมสร้างกันมา ใครที่ยังโหยหาระบบการเล่นแบบเก่าอยู่ก็ไม่ควรพลาด Rogue ด้วยประการทั้งปวงครับ
ข้อมูลจากนิตยสาร Future Gamer ฉบับที่ 221