รู้จักกับ Gaming Gear อุปกรณ์เทพของเกมเมอร์เทพ ตอนที่ 1 : เม้าส์

แชร์เรื่องนี้:
รู้จักกับ Gaming Gear อุปกรณ์เทพของเกมเมอร์เทพ ตอนที่ 1 : เม้าส์

     หลายคนอาจจะเคยเห็นพวกอุปกรณ์เล่นเกมไม่ว่าจะเป็น เมาส์, คีย์บอร์ด หรือว่า หูฟังสวยๆ กันมาบ้างแล้วเกิดอาการสงสัยว่า เอ๊ะ ทำไมราคามันมหาโหดอย่างนี้ แต่ละอย่างนี่ค่าตัวหลักพันยันเกือบหมื่นกันทั้งนั้น แค่สวยอย่างเดียวไม่ใช่หรอ มันก็ไม่ได้ต่างจากของธรรมดาๆ ซักหน่อย วันนี้ผมจะพาไปรู้จักกับเจ้าอุปกรณ์เหล่านี้กัน ว่ามันไม่ได้มีดีแค่สวยกับราคาแพงอย่างเดียว

     เจ้าอุปกรณ์เหล่านี้เรียกว่า  Gaming Gear นั่นเองครับ เจ้าพวก Gaming Gear พวกนี้ถูกออกแบบมาให้มีสมรรถภาพที่สูงกว่าอุปกรณ์ต่อพ่วงทั่วๆ ไป เทคโนโลยีเกม PC ในปัจจุบันนั้น มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นทุกวัน การใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงทั่วๆ ไปนั้นอาจจะไม่ค่อยเพียงพอซะแล้ว  การใช้ Gaming Gear นั้นจะทำให้ผู้เล่นสามารถที่จะเล่นเกมเล่นได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น การควบคุมต่างๆ และการเข้าถึงระบบของตัวเกมก็ทำได้ง่ายขึ้น ผู้เล่นจะสามารถเล่นเกมได้ดีกว่าเก่า ซึ่งถือว่าเป็นข้อได้เปรียบสำคัญมากทีเดียวในโลกของการแข่งขัน ในเมื่อมีฝีมือที่เท่ากันแล้ว เจ้าสิ่งพวกนี้อาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการคว้าชัยชนะมาครอบครอง

     Gaming Gear นั่นมีอยู่มากมายหลายประเภท และหลากหลาย Brand ไม่ว่าจะเป็นคีย์บอร์ด, เม้าส์, แผ่นรองเม้าส์, หูฟัง แม้กระทั่งแว่นตาสำหรับเล่นเกม ในครั้งนี้ผมจะมาพูดถึงอุปกรณ์อย่างแรก นั้นก็คือ เม้าส์ นั่นเองครับว่ามันจะมีสมรรถภาพที่สูงกว่าทั่วๆ ไปอย่างไร

Gaming Mouse

     เม้าส์นั้นถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากๆ เลยของเครื่องคอมพิวเตอร์ บางทีเม้าส์เกิดพังขึ้นมา บางคนก็ถึงกับไม่สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้กันเลยทีเดียว บางคนใช้คีย์บอร์ดคล่องก็ทำให้ยังพอใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อยู่ แต่ถ้าเกิดเป็นเกมโดยเฉพาะเกมแนว Action FPS ล่ะก็ เล่นไม่ได้กันอย่างแน่นอน เพราะเหตุนี้ทำให้เวลาผู้ปกครองไม่อยากให้ลูกเล่นเกมก็จะทำการยึดแค่เม้าส์ไปซ่อน แค่นี้คุณลูกก็ง่อยแล้วหละ ฮ่าๆๆ

     ความแตกต่างของ Gaming mouse และเม้าส์ธรรมดานั้นมีอยู่หลายข้อกันเลยทีเดียว เราจะมาเจาะลึกกันในแต่ละข้อว่ามันแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

รูปทรงและขนาด

     สิ่งแรกของเม้าส์ที่ผู้ใช้จะเห็นเป็นอันดับแรกเลยก็คือรูปทรง นั่นเอง  ซึ่งรูปทรงนั้นจะแบ่งออกเป็นสองประเภท ได้แก่แบบ Egornormic และแบบ Standard ครับ แบบ  Egornormic นั้นตัวเม้าจะดีไซน์ให้เข้ากับสรีระของมือ หรือเรียกง่ายๆ ว่ามันจะกระชับมือกว่านั่นเอง ข้อดีของมันคือทำให้ผู้เล่นจับเม้าได้อย่างกระชับ ส่วนข้อเสียของมันก็คือผู้ใช้ที่ถนัดมืออีกข้างหนึ่งจะไม่สามารถใช้ได้  (สมมติว่าเป็นเม้าส์มือขวา คนถนัดซ้ายก็จะใช้ไม่ได้ หรือว่าเป็นเม้าส์มือซ้าย คนถนัดขวาก็จะใช้ไม่ได้) ตรงกันข้ามกับแบบ Standard ที่ถูกออกแบบมาในลักษณะสมมาตร ทำให้ใช้ได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา แต่จะทำให้จับไม่ค่อยกระชับเท่าแบบ Egornormic (แต่หลายคนถนัด Standard มากกว่า) ส่วนทางด้านของขนาดนั้นก็มีให้เลือกกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเล็ก, กลาง, ใหญ่ เพื่อให้เข้ากับขนาดของมือ ในส่วนนี้ผู้เขียนให้ความสำคัญที่สุดเพราะว่าต่อให้เม้าส์จะดีเทพโหดอย่างไร แต่ถ้าผู้ใช่จับไม่ถนัด มันก็ไม่มีค่าอะไร

เซ็นเซอร์
     เซ็นเซอร์นั้นก็ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของเม้าส์เลยทีเดียวที่จะให้ความแม่นยำในการควบคุม เม้าส์ดีหรือไม่ดีส่วนใหญ่จะวัดกันตรงนี้ Gaming mouse ส่วนใหญ่จะใช้เซ็นเซอร์แบบ Laser ที่สามารถให้ความแม่นยำและการตอบสนองในการควบคุมมากกว่าแบบ Optical แต่บางแบรนด์นั้นก็สามารถพัฒนา Optical ได้ใกล้เคียงกับแบบ Laser เลยทีเดียว เซ็นเซอร์แบบ Laser ของแต่ละแบรนด์นั่นส่วนใหญ่จะผลิตจากที่เดียวกัน แล้วแต่ละแบรนด์ก็จะนำมาพัฒนาให้มีความแตกต่างกันอีกทีหนึ่ง  ปัจจุบันนั้นได้มีเทคโนโลยี Dual Sensor ซึ่งจะมีเซ็นเซอร์ 2 ตัว (แบบ  Optical และ Laser) รวมอยู่ในเม้าส์ตัวเดียวกัน ทำให้มีความแม่นยำสูงและสามารถทำ DPI ได้สูงขึ้น

DPI

     DPI นั้นก็คือค่าความไวของตัวเมาส์นั่นเอง ทำให้เราสามารถควบคุมได้อย่างทั่วถึงในพื้นที่ๆ จำกัด ยิ่งเราใช้จอคอมพิวเตอร์ที่มีความละเอียดมากเท่าไหร่ เมาส์ก็ควรจะมีค่า DPI สูงขึ้นด้วย DPI ของ Gaming Mouse นั้น จะมีตั้งแต่ 1600 ไปจนถึง 6400 ซึ่ง DPI สูงๆ นั้นจะเหมาะกับผู้ที่มีพื้นที่จำกัดในการวางเม้าส์, บรรดาสิงปืนไว รวมถึงผู้ที่ต่อจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่มากกว่า 1 จอ หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า DPI สูงคือทำให้เม้าส์มีความละเอียดสูง พอปรับสุดปุ๊บ ไวจนเล่นกันไม่ได้เลยทีเดียว

Polling Rate

      Polling Rate คือค่าความไวในการส่งสัญญาณ ยิ่งมีค่ามากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ตอบสนองได้ไวขึ้นเท่านั้น Gaming Mouse นั้นจะมีค่า Polling Rate  1,000 hrz หรือ 1 Milli Second นั่นเอง และสามารถปรับได้หลายระดับอีกด้วย  สำหรับเกมเมอร์ชาว FPS ส่วนใหญ่นั้นจะตั้งไว้ตํ่าสุดที่ 125 hrz เพราะมันจะช่วยกันมือสั่นได้ด้วย

DPI และ Polling Rate สามารถปรับได้ที่ Driver ของเม้าส์ แต่บางตัวก็สามารถปรับได้ที่ตัวเม้าส์เลย

FPS

     FPS คือค่าความละเอียดของเม้าส์ของตัวเม้าส์นั่นเอง ยิ่งมีสูงขึ้นเท่าไหร่ ก็จะทำให้บังคับได้แม่นยำ และนิ่ง มากยิ่งขึ้น Gaming Mouse นั้นจะมีค่า FPS มากกว่า 5,000 ขึ้นไป บางตัวก็แตะในระดับ 12,000 เลยทีเดียวซึ่งถือว่านิ่งตัวพ่อมากๆ  (บางตัวมีค่า FPS ตํ่า แต่ก็นิ่งราวๆ กับตัวที่ FPS สูงๆ เลย)

Glide

      Glide คือวัสดุคล้ายพลาสติกที่อยู่ใต้เม้าส์ มีลักษณะลื่นๆ ซึ่งจะทำให้เราบังคับเม้าส์ได้อย่างราบลื่น ไม่มีสะดุด Gaming Mouse นั้น ส่วน Glide จะใช้วัสดุเป็น Teflon คุณภาพดี ทำให้มีความลื่นไหลสูงและเม้าส์แต่ละตัวนั้น ก็จะมีขนาดของ Glide ไม่เท่ากัน ถ้า  Glide มีขนาดเล็ก ผิวสัมผัสก็จะน้อย ก็จะมีความลื่นมากกว่า Glide ที่มีขนาดใหญ่

ปุ่ม Shortcut ต่างๆ
     Gaming Mouse ส่วนใหญ่จะมีปุ่ม Shotcut อยู่บนตัวเม้าส์ บางรุ่นก็มี 2 บางรุ่นก็มี 4 และบางรุ่นก็มีถึง 14 ปุ่มเลยทีเดียว โดยปุ่มต่างๆ สามารถกำหนดได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นเปิดโปรแกรม แทนปุ่มบนคีย์บอร์ด หรือใช้ปรับแต่งตัวเม้าส์ ซึ่งสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้โดยเฉพาะ Gaming Mouse สำหรับเล่นเกม MMO นั้นจะมากับปุ่ม Short ไม่ตํ่ากว่า 10 ปุ่ม งานนี้เซ็ตสกิลกันสบายแฮ แทบไม่ต้องใช้คีย์บอร์ดกันเลยทีเดียว

ตุ้มถ่วงนํ้าหนัก

     สำหรับ Gaming Mouse บางรุ่นนั้นผู้ใช้สามารถเพิ่มหรอลกนํ้าหนักของตัวเม้าส์ได้ด้วย โดยการใส่ตุ้มถ่วงนํ้าหนักเพิ่มเข้าไป เพื่อที่จะทำให้ควบคุมเม้าส์ได้ถนัดมากยิ่งขึ้น

     ในการใช้งานโดยรวมของ Gaming Mouse นั้น จะสังเกตได้ว่ามีความแม่นยำในการควบคุมที่สูง ไม่มีอาการเม้าส์หลอน เมื่อเราหยุดเมาส์ก็จะหยุดทันที ไม่มีการเลื้อยออกไปอีก สามารถปรับ DPI ให้เม้าส์ไวได้สำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัด รวมถึงการเลื่อนเม้าส์ที่ลื่นไหลไม่สะดุด อ้อ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแผ่นรองเม้าส์ด้วยนะครับ ไว้จะมาเจาะลึกกันอีกทีหนึ่ง  ส่วนรูปทรงนั้นก็ต้องไปลองจับดูหลายๆ ตัว เพราะว่าแต่ละรุ่นก็มีรูปทรงที่ค่อนข้างแตกต่างกันออกไป จะเห็นผลอย่างมากเวลาที่เล่นเกมที่ต้องใช้ความแม่นยำของเม้าส์สูง เช่นเกม FPS หรือ RTS

     ผู้เขียนไม่ปฏิเสธว่า Gaming Mouse ทำให้เล่นเกมเก่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้เล่นด้วย ส่วนตัวผมให้อัตราส่วนของฝีมือและอุปกรณ์ไว้ที่ 7:3 ส่วน ถ้าไม่ฝึกฝนจนถึงระดับหนึ่งแล้ว จะแยกความสามารถของ Gaming Gear และ อุปกรณ์ต่อพ่วงไม่ค่อยออก

     สำหรับ Gaming Mouse นั้นปัจจุบันก็มีวางจำหน่ายกันอย่างแพร่หลายแล้ว ซึ่งก็มีหลายยี่ห้อ หลายรูปทรง และก็หลายราคาครับ ใครที่อยากลองประสบการณ์ใหม่ๆ ก็ลองหากันมาใช้ดูนะครับ แต่ถ้าต้องอดข้าวอดนํ้ามาซื้ออันนี้ก็ไม่แนะนำเด้อ สำหรับโอกาสหน้าผมจะมาแนะนำในส่วนของ Gaming Keyboard กันจ้า

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ