สวัสดีครับเหล่าจอมยุทธ D9 เทพศาสตรา ศึกผู้กล้า 9 มังกรทั้งหลาย ในคราวก่อนๆ ที่ผ่านมาผมได้แนะนำถึงประวัติของสำนักต่างๆ ใน D9 ที่มีอยู่จริงให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันไปแล้ว มาวันนี้ผมขอนำเสนออีก 1 เรื่องที่ขาดไม่ได้เลย สำหรับเกมแนวกำลังภายในอย่างนี้ นั่นคือประวัติของผู้ให้กำเนิดนวนิยายจีนกำลังภายใน ซึ่งก่อให้เกิดแรงบันดาลใจของทีมงาน Indy21 ให้สร้างเกม 9Dragons หรือ D9 นั่นเองครับ เอาล่ะเราก็เกริ่นนำกันมาพอสมควรแล้ว เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมกันเลยดีกว่าว่า โกวเล้งนั้นมีชีวประวัติอย่างไรบ้างครับ
ชีวประวัติโกวเล้ง
โกวเล้ง มีชื่อจริงว่า เอี้ยวฮั้ว แซ่ฮิ้ม เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2481 ที่ฮ่องกง และจบการศึกษาชั้นประถมที่ฮ่องกงนี่เอง เมื่อโกวเล้งอายุได้ 14 ปีก็ได้ย้ายสถานที่เรียนไปเรียนต่อที่ไต้หวัน และพออายุ 18 ปีโกวเล้งก็ได้ขาดการติดต่อจากครอบครัวที่ยังคงอาศัยอยู่ที่ฮ่องกง ต้องตกระกำลำบาก หาเลี้ยงตัวเองแบบปากกัดตีนถีบหาเลี้ยงประทังชีวิตไปวันๆ มีงานทำเพียงแค่ชั่วคราวจนเก็บเงินได้พอที่ส่งเสียตัวเองเรียนจบคณะอักษรศาสตร์ แผนกภาษาต่างประเทศ มหาวิทยาลัยก้าตัง
ชีวิตการงานของโกวเล้ง
เริ่มแรกเลยนั้นโกวเล้งได้เข้าทำงานเป็นบรรณารักษ์ประจำห้องสมุดของคณะที่ปรึกษาทหารอเมริกาในกรุงไทเป ซึ่งทำให้เขาได้มีโอกาสเก็บเกี่ยวความรู้ทางด้านวรรณกรรมและนวนิยายตะวันตกได้มากขึ้น จนมาถึงปี พ.ศ. 2502 โกวเล้งก็ได้เริ่มต้นเขียนนิยายกำลังภายในเรื่องแรกที่มีชื่อว่า “ชังเกียงซึ้งเกี่ยม” หรือแปลเป็นไทยว่า “เทพกระบี่โพยม” ซึ่งเป็นนวนิยายแนวบู๊ล้างผลาญแก้แค้นกันไปๆ มาๆ ธรรมดา ทำให้หนังสือเล่มนี้ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร และนิยายส่วนใหญ่ในฉบับแรกๆ นั้นจะไม่มีแปลเป็นภาษาไทยครับ
หลังจากนั้นอีก 4 ปี โกวเล้งก็ได้เขียนเรื่อง “พิฆาตทรชน” ซึ่งหนังสือเล่มนี้ก็ได้รับการตอบรับจากคอนวนิยายมากขึ้น ทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียงในวงการหนังสือและเป็นการเริ่มต้นใช้นามปากกาที่มีชื่อว่า “โกวเล้ง” อย่างจริงจังเรื่อยมา ต่อมาในปีพ.ศ. 2509 โกวเล้งได้สร้างแนวการเขียนแบบใหม่ขึ้นมา ซึ่งแนวเขียนแบบใหม่นี้จะเน้นไปทางด้านความรู้สึก ความขัดแย้งทางด้านจิตใจและความคิดของตัวละครมากขึ้น ซึ่งในแต่ละบทนั้นโกวเล้งได้สอดแทรกคติเตือนใจ ปรัชญาชีวิตแบบเน้นคุณธรรมน้ำมิตร เอาไว้ภายในตัวอักษรเหล่านั้นด้วย รวมถึงการเดินเรื่องแบบบทภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ศึกสายเลือด นักสู้ผู้พิชิต ศึกศรสวาท ธวัชล้ำฟ้า หรือราชายุทธจักร เป็นต้น
ช่วงต่อมานั้นนับว่าเป็นยุคทองของโกวเล้ง เขาได้แสดงถึงความเป็นอัจฉริยภาพ ในด้านการแต่งนิยายแนวกำลังภายใน และหนังสือที่ทำให้เขาถูกเรื่องว่าอัจฉริยะนั้นคือเรื่อง เซียวฮื่อยี้ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจนเขากลายเป็นนักเขียนมือหนึ่งของไต้หวัน และผลงานที่โดดเด่นที่สุดในช่วงนั้นก็คือหนังสือเรื่อง ฤทธิ์มีดสั้น ครับ
และในช่วงปีพ.ศ. 2513 โกวเล้งมีงานเขียนออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ชอลิ้วเฮียง, เล็กเซียวหงส์, อินทรีย์ผงาดฟ้า, ดาวตก ผีเสื้อ กระบี่, จอมดาบหิมะแดง ฯลฯ อีกทั้งผลงานของโกวเล้งยังได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ที่โด่งดังไปทั่วโลกอีกมากมายครับ
แม้ว่าโกวเล้งจะออกตัวถึงแรงดลใจที่ทำให้เขาเขียนนิยายแนวกำลังภายใน ไม่ใช่หลักการเลิศหรูแตู่ประการใด “เพียงแต่ต้องการหาเงินกินข้าวเท่านั้น” แต่โกวเล้งก็เห้นว่า “นิยายกำลังภายในก็เป็นรูปแบบหนึ่งขอนวนิยาย ที่มันสามารถดำรงอยู่ในปัจจุบัน แน่นอนว่าย่อมต้องมีคุณค่าของการดำรงอยู่ของมัน” ซึ่งโกวเล้งรู้สึกขมขื่นกับการเป็นนักเขียนนิยายกำลังภายในของตนเองอยู่ตลอดเวลา เพราะในสายตาของคนส่วนใหญ่ นวนิยายกำลังภายในมิเพียงมิใช่แต่วรรณกรรม กระทั่งไม่อาจนับเป็นนวนิยายด้วย โกวเล้งกล่าวว่า “เขียนนวนิยายมา 20 ปีแล้ว นวนิยายที่เขียนเป็นเช่นไร? นวนิยายกำลังภายใน คือ นวนิยายชนิดหนึ่งที่ไม่ใช่นวนิยายในสายตาผู้อื่น”
แต่โกวเล้งก็ยังให้ความหวังแก่นักเขียนรุ่นใหม่ว่า “ความสำเร็จในอนาคตของพวกเขา ย่อมจะสูงกว่าข้าพเจ้าอย่างแน่นอน สูงกว่าสามหมื่นหกพันแปดสิบเท่า ขอเพียงพวกเขาสามารถจดจำถ้อยคำหนึ่งไว้ได้ เป้าหมายสูงสุดของการเขียนหนังสือคือ การสร้างสรรค์จากการเปลี่ยนแปลง”
หลังจากปี 2515 เหมือนเป็นขาลงของโกวเล้ง งานเขียนของเขาแย่ลงไปมาก รูปแบบสไตล์การเขียนของเขาถูกลอกเลียนแบบโดยนักเขียนรุ่นใหม่ เมื่อสไตล์การเขียนแบบโกวเล้งเสื่อมถอยหมดความนิยม ทำให้ความนิยมของนวนิยายแนวกำลังภายในลดลงไปด้วย
บั้นปลายชีวิตของโกวเล้ง
ในชีวิตของโกวเล้งนั้น เขามีภรรยา 3 คนและบุตรอีก 2 คน โกวเล้งนับเป็นคนที่มีคุณธรรมน้ำมิตร คบหาคนทุกระดับไม่เกี่ยงว่าคนที่เขาคบด้วยจะเป็นคนยากคนจนหรือคนรวยมาจากไหน และสิ่งที่โกวเล้งนิยมชมชอบมีอยู่ 3 อย่างด้วยกัน คือ เพื่อน สุรา และนารี ถึงแม้เขาจะมีรายได้และทรัพย์สินมหาศาลจากการเขียนหนังสือก็ตาม แต่เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยมีทรัพย์สินติดตัวที่มั่นคงนัก ซึ่งสันนิษฐานกันว่าเขาใช้เงินที่ได้มาหมดไปกับการเที่ยวราตรี ดื่มสุรา และเคล้านารี
โกวเล้งเสียชีวิตลงในวันที่ 21 กันยายน 2528 ที่โรงพยาบาลซันจวิน กรุงไทเป ด้วยโรคตับแข็งเพราะการดื่มสุราอย่างหนักของเขา สิริอายุรวม 48 ปี และในงานศพของโกวเล้งนั้น ฉีเส้าเฉียน ดาราหนังชื่อดังในสมัยนั้น ซึ่งถือเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของโกวเล้งได้มาทำการเคารพศพของเขา พร้อมกับขนขวดเหล้ายี่ห้อดังที่โกวเล้งชอบดื่มมาใส่ในโลงศพของโกวเล้งถึง 49 ขวดเพื่อเป็นการคารวะและอำลานักเขียนผู้เป็นนักเขียนในดวงใจของเขาผู้นี้
ผลงานของโกวเล้งที่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยแล้ว
ชุด ชอลิ้วเฮียง
ศึกวังค้างคาว
พายุทะเลทราย (จอมโจรจอมใจ)
กลิ่นหอมกลางธารเลือด (จอมโจรจอมใจ)
ยืมศพคืนวิญญาณ (ใต้เงามัจจุราช)
กล้วยไม้เที่ยงคืน
ตำนานกระบี่หยก (ชอลิ้วเฮียง)
ดวงชะตาดอกท้อ (ราศีดอกท้อ)
ศึกวังน้ำทิพย์
ชุด ฤทธิ์มีดสั้น
เซียวลี้ปวยตอ (ฤทธิ์มีดสั้น)
เหยี่ยวทมิฬ (เหยี่ยวเดือนเก้า)
จอมเสเพลชายแดน (ดาบจอมภพ)
ขอบฟ้า จันทรา ดาบ (จอมดาบหิมะแดง)
มีดบินกรีดฟ้า
ชุด หงส์ผงาดฟ้า
หงส์ผงาดฟ้า
จอมโจรปักดอกไม้
สองนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่
บ่อนพนันเบ็ดเงิน
หมู่ตึกภูติพราย
เกาะมหาภัย
กระบี่พิโรธ
ชุด อาวุธของโกวเล้ง
กระบี่อมตะ
เดชขนนกยูง
ดาบมรกต
แค้นสั่งฟ้า
ตะขอจำพราก
ทวนทมิฬ
ยอดมือปราบ
ชุด บุตรที่สิบเอ็ด
เซียวจับอิดนึ้ง
ยอดขุนโจร
ชุด หกเรื่องสยองขวัญ
นกแก้วสยองขวัญ
(หมายเหตุ = เรื่องหลังในชุดนี้เป็นการร่วมแต่งกับบุคคลอื่นของโกวเล้งเอง)
นิยายเรื่องเดียว
ผู้ยิ่งใหญ่
ล่าสุดขีด
ศึกเสือหยกขาว (ยุทธจักรพยัคฆ์คำรณ)
วีรบุรุษสำราญ
ธวัชล้ำฟ้า
ดาวตก ผีเสื้อ กระบี่
พยัคฆ์ร้ายบู๊ลิ้ม
ศึกทะเลทราย
ดาวเดี่ยวไม่เดียวดาย
วีรบุรุษไร้น้ำตา (ไม่มีน้ำตาวีรบุรุษ)
นักสู้ผู้พิชิต
ลูกปลาน้อย (เซียวฮือยี้)
กระบี่กระจายหอม
ศึกศรสวาท
พญามังกรเจ็ดดาว
ซาเสี่ยวเอี้ย
ราชายุทธจักร
เทพบุตรมือสังหาร
เพลิงอาฆาต
และนี่คือต้นแบบของ D9 เทพศาสรา ศึกผู้กล้า 9 มังกรครับ เพื่อนๆ อย่าลืมนะครับ ว่าเรามีนัดกันในช่วง CBT วันที่ 22 มิถุนายน เวลา 14.00 น. ครับผม แล้วเราจะได้ประลองยุทธกันแน่นอนครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://th.wikipedia.org/
http://www.narak.com/webboard/show.php?No=16553http://article.kcnbrand.com/famous/artists/8640