ตอนสร้างตัว จะเลือกอาชีพได้ 8 แบบ แทนตัวละครหลักของเรา ซึ่งถ้าตัวละครหลักโดนกำจัด จะทำให้ทีมแพ้ทันที แต่ละอาชีพจะมีค่า Status พื้นฐาน, รูปแบบการโจมตี และอาวุธที่ใช้แตกต่างกัน ไม่ต้องกังวลว่าจะมีอาชีพไหนอ่อนนะครับ ชอบแบบไหนเลือกได้เลย ใช้สู้มอนสเตอร์และ PVP ได้ทั้งนั้น อีกทั้งตัวแปรหลักจะอยู่ที่ Mercenary อีก 8 ตัวมากกว่า เลือกอาชีพให้ตรงกับเราดีกว่า ในตอนนี้เรามาดูที่ Mercenary ที่ใช้ได้และหาแนวทางจัดทีมดีกว่าครับ
Mercenary ระดับ D
Swordsman
ประเภท : Melee
อาวุธหลัก / อาวุธรอง : Sword / Shield
เงื่อนไขการได้รับ : จากเควสต์เริ่มต้น, จ้างได้ที่ NPC Jang Gil San (ใกล้ Pyongyang), Ou Yang Feng (ใกล้ Harbin), Shuichi (ใกล้ Sapporo) หรือ NPC ที่เดินไปมา
เป็นอาชีพที่อึดมาก ถือโล่ได้ จึงเป็น Mercenary ระดับ D ที่สามารถป้องกันมอนสเตอร์ได้ดีกว่าทหารทุกตัวในระดับ D มีพลังโจมตีที่รุนแรง ถึง Flame Sword จะเป็นสกิลโจมตีตรงๆ ที่ไม่มีลูกเล่นพิเศษ แต่มีสกิล Dark Seed ที่สร้างปัญหาแก่ศัตรูได้เช่นกัน
ข้อเสียคือ โจมตีศัตรูได้ทีละตัวเท่านั้น ทำให้ไม่ค่อยมีบทบาทนักใน PVP แต่ถ้าคุณต้องการ Mercenary ที่เป็นตัว Tank จริงๆ Swordsman ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี
Spearman
ประเภท : Melee
อาวุธหลัก / อาวุธรอง : Spear / Guardian Stone (เลเวล 80 ขึ้นไป)
เงื่อนไขการได้รับ : จากเควสต์เริ่มต้น, จ้างได้ที่ NPC หรือ NPC ที่เดินไปมา
เป็น Mercenary ที่สมดุลทั้งการรุกและรับ ความสามารถโดยรวมใกล้เคียงกับ Swordsman แต่มีข้อดีกว่าตรงที่สามารถโจมตีได้ทีละ 2 เป้าหมายเป็นเส้นตรง ทำให้แทงทะลุแถวกลางได้ไม่ยาก แล้วยังมีสกิลลด AP ที่เป็นเส้นตรง ซึ่งมีประโยชน์มากเพราะศัตรูอาจทำอะไรไม่ได้ใน Turn นั้น เนื่องจากความทนทานยังเป็นรอง Viking และ Swordsman ทำให้ทนการโจมตีในแถวหน้าได้ไม่ดีนัก จึงต้องคอยรักษาชีวิตของ Spearman ให้ดีโดยเฉพาะใน PVP
Archer
ประเภท : Long Range
อาวุธหลัก / อาวุธรอง : Bow / Arrow
เงื่อนไขการได้รับ : จากเควสต์เริ่มต้น, จ้างได้ที่ NPC Jang Gil San (ใกล้ Pyongyang), Ou Yang Feng (ใกล้ Harbin), Shuichi (ใกล้ Sapporo) หรือ NPC ที่เดินไปมา
อาชีพสายยิงไกล ถึงจะเล็งเพียงเป้าหมายเดียว แต่ก็เล็งศัตรูในตำแหน่งใดก็ได้ แล้วยังมีพลังโจมตีสูงกว่าสายยิงไกลในระดับ D ด้วยกัน สามารถสังหารเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย อาชีพนี้ยังมีทีเด็ดตรงสกิล Silence ที่สามารถหยุดการใช้สกิลของศัตรูได้เป็นแถว มีผลกับมอนสเตอร์ที่ใช้เวทมนตร์โหดๆ แล้วยังใช้งานใน PVP ได้ จึงถือเป็น Mercenary อีกตัวที่น่าสนใจ
ข้อเสียของ Archer คือ ร่างกายบอบบางกว่า Mercenary ประเภท Long Range ด้วยกัน แล้วยังมีข้อจำกัดเรื่องการโจมตีเพียงเป้าหมายเดียว
Gunner
ประเภท : Long Range
อาวุธหลัก / อาวุธรอง : Gun / Bullet
เงื่อนไขการได้รับ : จากเควสต์เริ่มต้น, จ้างได้ที่ NPC Jang Gil San (ใกล้ Pyongyang), Ou Yang Feng (ใกล้ Harbin), Shuichi (ใกล้ Sapporo) หรือ NPC ที่เดินไปมา
จุดเด่นสำคัญ คือ สามารถโจมตีศัตรูได้เป็นเส้นตรงถึง 3 เป้าหมายพร้อมกัน ถึงความเสียหายในแถวกลางและหลังจะเบาลง แต่ก็ถือว่ามีประโยชน์ในการตอด หรือเก็บศัตรูที่หลบไปแถวหลัง
ข้อเสียอย่างหนึ่งของ Gunner คือ สกิลยิงที่ไม่มีประสิทธิภาพมากนัก ไม่ได้สร้างสถานะผิดปกติเหมือนอาชีพอื่น
Shaman
ประเภท : Magic
อาวุธหลัก / อาวุธรอง : Staff / Orb
เงื่อนไขการได้รับ : จ้างได้ที่ NPC Jang Gil San (ใกล้ Pyongyang), Ou Yang Feng (ใกล้ Harbin), Shuichi (ใกล้ Sapporo) หรือ NPC ที่เดินไปมา
อาชีพสาย Healer ที่มีหน้าที่สนับสนุนพวกพ้องเป็นหลัก ซึ่งฟื้นฟู HP ได้ดีกว่า Monk มาก เป็นอาชีพที่จำเป็นมากในช่วงต้นเกมที่ไว้คอยสนับสนุนทีม นอกจากการฟื้นพลังแล้ว ยังมีสกิลบัฟที่เพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตีอย่างหนักให้ใช้
Monk
ประเภท : Magic
อาวุธหลัก / อาวุธรอง : Staff / Orb
เงื่อนไขการได้รับ : เริ่มเควสต์ที่ NPC Huike ตอนเลเวล 16 ใกล้ Beijing หรือ จ้างจาก NPC ที่เดินไปมา
อาชีพสายสนับสนุนเต็มตัว ไม่มีสกิลโจมตีเลย และพลังโจมตีไม่สูงเท่าอาชีพสาย Magic ด้วยกัน แต่ Monk ก็ถือเป็น Mercenary ที่ป่วนใน PVP มากที่สุด เพราะมีทั้งความสามารถในการป้องกันสกิลทุกชนิด (Holy Guard) และความสามารถแก้ Stun กับลด Combo สะสม (Awakening) แล้วยังมีสกิล Protect ตัวละครหลัก แม้แต่ในการเก็บเลเวลช่วงหลัง Monk ก็มีประโยชน์มากในการป้องกันสกิลแรงๆ จากมอนสเตอร์ระดับบอส
Viking
ประเภท : Melee
อาวุธหลัก / อาวุธรอง : Axe / Guardian Stone (เลเวล 80 ขึ้นไป)
เงื่อนไขการได้รับ : ได้จากเควสต์เนื้อเรื่องช่วงแรก, จ้างจาก NPC ที่เดินไปมา
นักรบไวกิ้งที่มีพลังชีวิตสูงมาก รับการโจมตีได้ดีพอๆ กับ Swordsman การโจมตีก็เป็นลักษณะฟันกวาด 3 ตัวในแถวเดียวกัน แล้วยังมีสกิลโดดเด่นที่ต่างจาก Mercenary ตัวอื่น คือ แช่แข็งศัตรูได้ 1 แถว จึงนำมาใช้งานได้ดีทั้งในการเก็บเลเวล และ PVP
ข้อเสียของ Viking คือ ความสามารถในการต้านทานเวทมนตร์ที่ต่ำมาก ซึ่งสกิลทั้งหมดในเกมนี้ ก็ล้วนเป็นเวทมนตร์ทั้งนั้น และอัตราฟื้น AP น้อยกว่าทุกอาชีพ
Artilleryman
ประเภท : Long Range
อาวุธหลัก / อาวุธรอง : Cannon / Bullet
เงื่อนไขการได้รับ : จ้างจาก NPC ที่เดินไปมาตอนเลเวล 30
Artilleryman จะมีความสามารถในการโจมตีเป้าหมาย และเป้าหมายโดยรอบในแนวตั้งกับแนวนอน เหมือนรูปกากบาท จึงถือเป็น Mercenary ที่เล่นงานศัตรูได้จำนวนพร้อมกันมากที่สุด โอกาสทำ Combo 1 – 3 เพื่อให้ศัตรู Stun ก็มากที่สุดด้วย นอกจากนี้ สกิล Deep Insight ก็ถือเป็นสกิลลดความสามารถที่มีประสิทธิภาพสูง
ข้อเสียของอาวุธประเภทนี้ คือ ปืนใหญ่ไม่สามารถยิงพวกตัวบินได้ แล้วยังมีพลังโจมตีที่เบากว่าสายยิงไกลทุกตัว
Wandering Mercenaries
Mercenary Grade D ทั่วไปจะเดินไปมาอยู่ทั่วโลก เราจะชักชวนพวกเขาได้เมื่อตัวละครหลักเลเวลถึง 30 แต่อย่าลืมเว้นที่ว่างไว้ในทีม เพื่อให้พวกนั้นเข้ามาร่วมทีมกับเราได้
สามารถให้เงินพวกเขา เพื่อชักชวนมาเข้าร่วมทีมได้ โดยใช้ค่า Will 100% ในการคุย นิยมให้ก้อนละ 10,000 Gold – 20,000 Gold จำนวน 2 - 3 รอบ (กดจ่ายครั้งที่สองได้ทันที โดยไม่ต้องรอค่า Will) สังเกตค่าความชอบด้วย
ส่วนใหญ่การ Greeting จะทำให้ค่า Dislike เพิ่มขึ้น พยายามจ่ายเงินเป็นของขวัญให้พวกเขาดีกว่า
Mercenary ระดับ C (ถึงเลเวล 80)
Beast Trainer
ประเภท : Melee
อาวุธหลัก / อาวุธรอง : Axe / Summon หรือ Guardian Stone (เลเวล 80 ขึ้นไป)
เงื่อนไขการได้รับ : เลเวลตัวละครหลักตั้งแต่ 44 ขึ้นไป เริ่มเควสต์ที่ Beast Trainer Nari ใกล้เมือง New Dehli
Mercenary ระดับ C ตัวแรกที่สามารถทำเควสต์ได้ ถือเป็น Tanker อีกตัวที่ทนทานกว่า Viking แล้วมี Defend มากไม่แพ้ Swordsman ทำให้ปราบได้ลำบาก สกิลเด็ดของ Beast Trainer เป็นการโจมตีศัตรูทั้งหมดอีกด้วย ซึ่งส่งผลดีทั้งการเก็บเลเวล และการ PVP ในช่วงเลเวล 50 – 80 จึงจัดว่าเป็นตัวที่น่าใช้พอตัว
Witch
ประเภท : Magic
อาวุธหลัก / อาวุธรอง : Staff / Orb
เงื่อนไขการได้รับ : เลเวลตัวละครหลักตั้งแต่ 51 ขึ้นไป เริ่มเควสต์ที่ Vivian ใกล้เมือง Vienna
Mercenary สายเวทมนตร์โจมตีโดยตรง ที่ใช้สกิลโจมตีเป็นกลุ่มที่ทรงพลังอย่าง Meteor Strike ที่โจมตีศัตรูทุกตัว มีสกิลเด่นสำหรับการเก็บเลเวล แบบ Mana Recharge ที่ใช้เพิ่ม MP ตัวเองและเพื่อน หรือ Mana Drain ที่ใช้ดูด MP ศัตรูโดยตรง แล้วยังมีจุดเด่นที่มีค่า AP สุ่มที่สูง, อัตราหลบหลีกที่ดี แล้วยังเป็น Mercenary เพียงตัวเดียว ที่ถือว่าเป็นตัวบิน ทำให้ศัตรูที่โจมตีระยะประชิดไม่สามารถทำอันตรายได้ (ยกเว้นใช้สกิลโจมตี)
Exorcist
ประเภท : Melee
อาวุธหลัก / อาวุธรอง : Sword / Guardian Stone (เลเวล 80 ขึ้นไป)
เงื่อนไขการได้รับ : เลเวลตัวละครหลักตั้งแต่ 57 ขึ้นไป เริ่มเควสต์ที่ Iris ใกล้เมือง Devil’s Forest
ในด้านการเก็บเลเวล จัดว่าเป็นอาชีพที่ไร้สาระที่สุดก็ว่าได้ เพราะสกิลแทบจะไม่มีประโยชน์เอาเสียเลย โล่ก็ถือไม่ได้ พลังโดยรวมก็ถือว่าเปราะบางกว่าสาย Melee ด้วยกัน
แต่ในด้าน PVP กลับตรงกันข้าม กลายเป็นตัวละครที่ “ต้องมี” ในทีมที่ต้องการ PVP ด้วยเหตุผลที่ว่ามีสกิล Mana Seal สำหรับหยุดการใช้สกิลพวกสาย Magic ของฝ่ายตรงข้ามได้พร้อมกันทั้งหมด แล้วยังมี Speed Cast ที่ช่วยสาย Magic ฝ่ายเดียวกัน
Princess
ประเภท : Magic
อาวุธหลัก / อาวุธรอง : Staff / Orb
เงื่อนไขการได้รับ : เลเวลตัวละครหลักตั้งแต่ 63 ขึ้นไป เริ่มเควสต์ที่ Eva ใกล้เมือง Athens
อาชีพสนับสนุนสายยิงไกลฝ่ายเราให้ทนทานยิ่งกว่า และลดความสามารถของพวก Long Range ฝ่ายตรงข้ามได้ดี ไม่ว่าจะธนู, ปืน หรือปืนใหญ่ ก็หยุดได้ง่าย แล้วมีผลต่อศัตรูทั้งหมด จนทำให้ยิงเบาอย่างเห็นได้ชัด
การใช้งาน Princess เหมาะกับทีมที่ใช้พวก Long Range หลายตัว เพื่อปกป้องพวกนั้นจากการสังหารของฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะทีมธนูที่ตั้งใจมาสังหารพวกใช้ปืนกับปืนใหญ่ในทีมต่างๆ
Prophet
ประเภท : Long Range
อาวุธหลัก / อาวุธรอง : Bow / Arrow
เงื่อนไขการได้รับ : เลเวลตัวละครหลักตั้งแต่ 70 ขึ้นไป เริ่มเควสต์ที่ Hecuba ใกล้เมือง Baghdad
ความสามารถตรงข้ามกับ Princess คือ ช่วยเพิ่มพลังโจมตีให้พวก Melee แล้วลดความสามารถพวกโจมตีระยะประชิดจากฝ่ายตรงข้าม ถึงจะคล้าย Princess แต่ตัว Prophet เป็นสายธนูที่ยิงศัตรูตำแหน่งใดก็ได้ แล้วยังคอยฟื้นพลังชีวิตด้วยสกิลบัฟติดตัวให้แก่ฝ่าย Melee ของเรา รวมทั้งบัฟเพิ่มพลังโจมตี โดยไม่ต้องร่ายสกิลเอง แม้จะติด Stun หรือ Silence ก็ยังใช้สกิลได้ (แน่นอนว่า HP พวกโจมตีใกล้ มักจะลดทุกเทิร์น)
Oracle
ประเภท : Magic
อาวุธหลัก / อาวุธรอง : Staff / Orb
เงื่อนไขการได้รับ : เลเวลตัวละครหลักตั้งแต่ 74 ขึ้นไป เริ่มเควสต์ที่ Nefertiti ใกล้ Valley of the Kings
สายฟื้นพลังที่มีความสามารถทั้งด้าน Status และเวทมนตร์ดีกว่า Shaman ประสิทธิภาพการ Healing, ใช้ Vortex โจมตีศัตรูก็แรง รวมทั้ง Seth’s Will ยังมีประสิทธิภาพที่เด่นชัดกว่า Shaman สิ่งเดียวที่ Shaman ดีกว่า มีเพียงสกิล Noble Sacrifice เท่านั้น ที่ใช้ฟื้นพลังทั้งปาร์ตี้ต่อเนื่อง 2 ครั้งโดยการสละชีพ ซึ่งปกติก็หาโอกาสได้ใช้ยากอยู่ดี ทำให้ Oracle ถือเป็น Healer ที่ใช้กันแทบทุกทีมในช่วงหลัง
แนวทางการจัด Formation เริ่มต้น
สมมุติว่าเราเลือกตัวละครหลักเป็น Bow ให้เลือก Spearman หรือ Swordsman ไว้ด้านหน้าเพื่อป้องกันมอนสเตอร์ จากนั้นพิจารณาใช้ Gunner หรือ Archer ไว้แถวกลาง หรือแถวหลัง
ตัวอย่างจัดทีม 4 ตัวละคร
แบบที่ 2
ควบคุม 5 ตัวละคร (เลเวล 10)
ตอนเลเวล 10 เราจะจ้าง Shaman เพิ่มได้อีก 1 ตัว จาก NPC ใกล้ๆ เมืองเกิด กรณีที่ตัวหลักไม่ได้เล่นสาย Staff แนะนำให้ซื้อไว้
ตัวอย่างจัดทีม 5 ตัวละคร
ควบคุม 6 ตัวละคร (เลเวล 20)
เราจะได้ Viking มาจากเควสต์หลัก ส่วน Monk จะทำเควสต์ระหว่างทางได้มาเช่นกัน ทั้งสองตัวนี้โดดเด่นมากโดยเฉพาะใน PVP ช่วงหลัง ถ้าอยากใช้ทั้งสองตัวจำเป็นต้องไล่ Mercenary ตัวใดตัวหนึ่งออก วิธีไล่ ให้กด Spacebar เพื่อเรียก Inventory ขึ้นมา กดเครื่องหมายรูปแว่นขยายที่ตัวละคร แล้วกด Fire ด้านล่าง แต่ต้องถอดของทุกอย่างมาไว้ที่ตัวละครอื่นก่อน และเราต้องเสียค่าใช้จ่ายในการไล่อีกเล็กน้อย
ตัวอย่างจัดทีม 6 ตัวละคร
1. เพิ่มทั้ง Viking และ Monk อาจให้ Swordsman หรือ Gunner ออก
2. เพิ่ม Monk แต่ไม่อยากเพิ่ม Viking
3. เพิ่ม Viking แต่ไม่อยากเพิ่ม Monk แบบนี้ตัวชนมอนสเตอร์จะมากขึ้น แต่ Monk จะมีประโยชน์ในช่วงหลัง ถ้าเล่นทีมนี้อาจต้องคิดให้ดีสักหน่อย
ควบคุม 7 ตัวละคร (เลเวล 30)
เราสามารถจ้าง Artilleryman ที่เดินไปมาตามสถานที่ต่างๆ ได้อีก แต่ถ้าต้องการหาตัว Tank เพิ่ม แนะนำให้ใช้ Spearman หรือไปจ้าง Viking เพิ่มอีก 1 ตัว (จาก NPC ที่เดินไปมา)
ตัวอย่างจัดทีม 7 ตัวละคร
กรณีเล่นแบบที่ 1 - 2 ในหัวข้อก่อน แนะนำให้หาตัวชนเพิ่ม แล้วค่อยย้อน กลับมาเอา Artilleryman ตอนเลเวล 40 - 50
ควบคุม 8 ตัวละคร (เลเวล 40)
ในช่วงเลเวล 44 จะทำเควสต์ Beast Trainer มาเป็นตัว Tank ได้อีกตัว ซึ่งเก่งกาจกว่า Mercenary Grade D ถ้าไม่ต้องการแนะนำให้เลือก Artilleryman มาแทน
ตัวอย่าง จัดทีม 8 ตัวละคร
ควบคุม 9 ตัวละคร (เลเวล 50)
ตอนเลเวล 51 และ 57 จะมีเควสต์ทหาร C Grade อีก ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวกว่า Mercenary ระดับ D
ตัวอย่าง ทีม 9 ตัวละคร
ทั้งนี้เป็นเพียงตัวอย่างการจัดทีมแบบขั้นต้นเพื่อเป็นแนวทางเท่านั้น การจัดทีมหลังจากช่วงเลเวล 50 จะมีทางเลือกอยู่หลายทาง ขึ้นกับว่าต้องการใช้งานตัวละครแบบใด และมีการวางแผนการเล่นอย่างไร