RO : เปิดตำรา Scholar สายปืนกล

     จะเกิดอะไรขึ้น !! ถ้าหากอาชีพ Scholar ที่หลายๆ คนมองว่าเป็นเพียงอาชีพที่เน้นการเล่นสนับสนุน ก่อกวนฝ่ายตรงข้าม ไม่สามารถฆ่าใครตายได้ จะกวัดแกว่งหนังสือขอท้าลุยใน PVP และ Guild War กับเขาบ้าง ด้วยแนวการเล่น Scholar สายปืนกล

เปิดตำรา Scholar สายปืนกล

ปั้ง ปั้ง ปั้ง

จุดกำเนิด

     1. ด้วยผลของสกิล Auto Spell ที่ทำให้เมื่อคุณโจมตีทางกายภาพ จะทำให้มีโอกาสออกเวทย์ที่คุณเลือกสูงสุดเลเวล 3 ที่ 25%
     2. ด้วยผลของสกิล Soul of Sage ของ Soul Linker ทำให้เวทย์ที่ออกด้วยผลของสกิล Auto Spell ออกเป็นเลเวล 10 แทน
     3. ด้วยผลของสกิล Lucky Cast ทำให้มีโอกาส 90%ของเวทย์สาย Bolt ที่ออกจากผล Autrospell ออกกลายเป็น 2 ครั้งพร้อมกัน
     4. ผลของสกิล Auto Spell นั้นจะออกบ่อยครั้งขึ้นอยู่กับความเร็วในการโจมตี (Aspd) ของเรา ดังนั้นถ้าหากตัวละครของเรามี Aspd สูงเท่าไร โอกาสออกก็จะถี่มากเท่านั้น

ค่า Status

     AGI : เพื่อเพิ่มความเร็วในการโจมตี (ASPD) ยิ่งโจมตีได้ไวเท่าไรก็ทำให้มีโอกาสออกเวทย์ Auto Spell มากเท่านั้น และนอกจากนั้นยังเพิ่มอัตราการหลบหลีก (Flee) อีกด้วย
     INT : สำหรับเพิ่มความแรงของเวทมนตร์ (MATK) ทำให้เวทย์ที่ออกมาด้วยผลของสกิล Auto Spell นั้นมีความรุนแรงขึ้น
     STR : เพิ่มความสามารถในการแบกน้ำหนัก (Max Weight) และสำหรับคนที่ใช้ Sage’s Diary เป็นอาวุธ ถ้าหากตัวละครมีค่า STR ตัวหน้ามากกว่า 50 จะเพิ่ม ASPD 5%
     DEX : ไม่มีความจำเป็นต่อ Scholar สายนี้เพราะสกิลแบบ Autospell นั้นไม่ต้องร่าย และถึงแม้จะโจมตีพลาดผลของ Auto Spell ก็ออกอยู่ดี
     VIT : ลดโอกาสติดสถานะบางอย่างเช่น Stun, เพิ่ม Max HP แต่ถ้าอัพมากจนเกินไปอาจจะทำให้โดนสกิล AD ของ Biochemist ตายไวขึ้น
     LUK : ไม่มีความจำเป็นต่อ Scholar สายนี้เลย

     ดังนั้นการเล่น Scholar สายนี้ ค่า INT (เพื่อเพิ่มความแรงของเวทย์ที่ออกมา) กับค่า AGI (เพื่อค่า Aspd ทำให้โจมตีได้ไวขึ้น) คือค่า Status หลัก ส่วนค่า DEX ไม่มีความจำเป็นกับการเล่น Scholar สายนี้เลย เพราะว่าเวทย์แบบ Auto Spell นั้นจะไม่มีระยะเวลาในการร่าย และถ้าโจมตีพลาด (Miss) หรือเป้าหมายเป็นธาตุวิญญาณ ยังไงผลของเวทย์ Auto Spell ก็ออกมาอยู่ดี

 

 INT 99-AGI 99

 

โจมตีใส่ Ghostring Miss ตลอด แต่ผลของสกิล Auto Spell ก็ออกมาอีกแหละ

แนวทางการอัพสกิล

     ในตอนที่เป็น Mage จะเน้นหนักที่การเก็บเลเวล และ PVP เป็นหลัก จึงอัพสกิล Bolt ทั้ง 3 สายเต็มเลเวล 10 คือ Fire, Cold กับ Lightning Bolt และไม่อัพสกิล Fire Wall เพราะ Scholar สายนี้มีค่า Flee หลบได้สบาย จึงไม่ต้องใช้สกิล Firewall ป้องกันเหมือนสาย INT-DEX (แต่ในช่วงแรกๆ ตอนที่เลเวลยังไม่สูงอาจจะเก็บเลเวลลำบากหน่อย) และให้เลือกที่จะอัพสกิล Safety Wall เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ใน PVP และกิลด์วอร์ได้มากกว่า สุดท้ายอัพสกิล SP Recovery เลเวล 1 เพื่อเป็นทางผ่านของสกิล Indulge ตอนเป็น Scholar
พอเปลี่ยนเป็น Scholar ต้องอัพสกิล Auto Spell และ Lucky Cast ทันที (จะได้เล่นสายปืนกลกันเสียที!!) แล้วสกิลที่แนะนำต่อมาก็คือสกิล Fiber Lock หรือสกิล Blinding Mist สำหรับสกิล Dragonology ก็แล้วแต่ชอบว่าจะอัพหรือไม่ (เลเวล 4 +2INT, เลเวล 5 +3INT) นอกนั้นให้ความสำคัญกับสกิล Exhale กับ Indulge เพื่อที่จะแบ่ง SP ให้เพื่อนได้ทั้งตอนเก็บเลเวล และกิลด์วอร์ (ใช่สิ!! อาชีพนี้มันถัง SP เดินได้นิ T-T) ที่เหลือเลือกที่จะอัพสกิล Dispell เต็ม เพราะน่าจะเอาไปใช้ประโยชน์ได้มากกว่า แต่ถ้าใครไม่ชอบก็เลือกอัพสกิล Foresight แทนก็ได้นะ ส่วนสกิล Land Protector นั้น ไม่เหมาะกับ Scholar สายนี้เพราะไม่มีค่า DEX ทำให้ร่ายช้ามากๆ และมาถึงตอนนี้ก็จะมีจ็อบประมาณ 65-66 แล้ว ถ้าใครขยันเก็บจ็อบ 70 ก็สามารถไปอัพ Safetywall ให้เต็มเลเวล 10 หรือจะอัพสกิลสาย Foresight ก็ได้ แล้วแต่ชอบเลยจ้า ^^v

     TiP : อาชีพ Scholar สายปืนกลมีค่า DEX ที่ต่ำมาก ทำให้ร่ายสกิลที่มีระยะเวลาการร่ายอย่าง Safety Wall หรือ Land Protector ได้ช้า จึงควรคิดให้หนักว่าถ้าอัพสกิลที่มีระยะเวลาร่ายแล้วจะคุ้มหรือไม่?
 

อุปกรณ์ที่สำคัญ

     อุปกรณ์หลักของ Scholar สายนี้ก็คือการ์ด Cecil Damon ที่มีคุณสมบัติเพิ่มค่า ASPD ของตัวละคร (จริงๆ แล้วการ์ด Doppleganger จะเพิ่มค่า ASPD มากกว่า แต่เนื่องจากราคาแพง และหายากคนส่วนใหญ่จึงนิยมใช้ Cecil Damon ที่ราคาถูกกว่า และหาได้ง่ายตามท้องตลาด) และอาวุธที่นิยมใช้เป็นอันดับต้นๆ ก็คือหนังสือ Death Note[2]ที่ตีบวกสูงๆ หรือไม่ก็หนังสือ Sage’s Diary (อาวุธประเภทหนังสือมีจุดเด่นในเรื่องเพิ่มค่า MATK ทำให้ใช้เวทย์โจมตีได้แรงขึ้น)

     อุปกรณ์ต่อไปที่แนะนำก็คือความสามารถแบบเป็นชุดของโล่ Thorn Shield กับเครื่องประดับ Bison Horn ที่เมื่อใช้คู่กันแล้วจะเพิ่มค่า ASPD ขึ้นอีกประมาณ 3 หน่วย

     รองลงมาก็คือการ์ด Imp (เพิ่มความเสียหายสกิล Fire Bolt ขึ้น 25%) หรือ การ์ด Siroma (เพิ่มความเสียหายสกิล Cold Bolt ขึ้น 25%) ที่ใส่ในเครื่องประดับ เพื่อทำความเสียหายได้รุนแรงขึ้น

     โดยรวมแล้วอุปกรณ์หลักๆ ของการเล่น Scholar สายนี้ก็มีเพียงแค่นี้เท่านั้นล่ะค่ะ นอกจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์ และแนวการเล่นของแต่ละคนว่าจะปรับไปใช้งานให้เหมาะสมกับแนวทางการเล่นของตัวเองให้ดีที่สุด แต่ถ้ามีแต่ตัวเปล่า ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ เลย แค่มีสกิล Soul of Sage ก็ยังสามารถนำไป PVP ได้สบายๆ นะคะ ^^"

ไอเทมและสกิลสนับสนุน

     สำคัญที่สุดของการเล่น Scholar สายนี้ก็คือสกิล Soul of Sage ที่ได้รับมาจากอาชีพสาย Soul Linker เพราะสกิล Bolt ที่ออกมาจากผลของสกิล Auto Spell จะออกมาแค่เลเวล 3 แต่ถ้าได้รับสกิล Soul of Sage จะทำให้สกิล Bolt ที่ออกมาจากผลของสกิล Auto Spell เป็นเลเวล 10 ทันที!! (คนที่เล่น Scholar สายปืนกล นิยมปั้น Soul Linker อีกไอดีเพื่อคอยมาใช้สกิล Soul of Sage กันเลยทีเดียว)

     สำหรับขา PVP หรือกิลด์วอร์ที่อยากให้ความแรงออกมาแบบเต็มสูบนั้น จะขาดเสียไม่ได้เลยกับอาหารเพิ่ม Status ทั้ง 3 อย่างคือ 


Dragon Breath Cocktail(+10 INTเป็นเวลา 30 นาที)


Steamed Scorpion (+10 AGI เป็นเวลา 30 นาที)


Oiental Pastry (+10 MATK เป็นเวลา 30 นาที)

     หรือจะใช้ไอเมที่เพิ่มค่า AGI อย่างตราม้า Authorized Badge ก็ได้นะ แต่… ถ้าใครที่มีงบน้อยๆ ในส่วนนี้ก็ไม่ค่อยจำเป็นสักเท่าไรนะค่ะ
     Awakening Potion เป็นไอเทมที่อาชีพสาย Mage จะมองข้ามกันไป แต่สำหรับ Scholar สายปืนกลนั้นไม่ควรพลาด เพราะยาเขียวนั้นจะเพิ่มค่า ASPD ให้อีก แถมราคาถูกอีกต่างหาก

     และยังมีสกิล Adrenaline All ของ Blacksmith (หลังได้รับสกิล Soul of Blacksmith) ที่จะทำให้อาวุธทุกชนิดได้รับผลของสกิล Adrenaline Rush กับ สกิล Berserk Pitcher ของ Alchemist (หลังได้รับสกิล Soul of Alchemist) ที่จะทำให้ Alchemist สามารถปา Berserk Potion ไปใส่เป้าหมายที่มีเลเวลมากกว่า 85 ได้ แต่ทั้ง 2 สกิลนี้ค่อนข้างวุ่นวายเพราะต้องใช้คนมาก แต่ถ้าทำได้ ASPD 190 ก็ถึงอยู่นะ ^0^

จุดด้อย

     1. สกิลสาย Bolt ที่ออกมาจากผลของสกิล Autospell ก็ยังคงเป็นเวทมนตร์อยู่ดี ดังนั้นการ์ดเทพอย่างแมงทอง Golden Thiefbug ก็สามารถป้องกันการโจมตีของ Scholar สายนี้ได้ทั้งหมด

เจอแมงมองเข้าไป Missssss

      2. สกิลหรืออุปกรณ์ที่มีผลสะท้อนเวทย์ เช่น สกิล Kaite ของ Soul Linker, การ์ด Maya หรือโล่ Platinum Shield ซึ่งมีผลให้เวทย์สะท้อนกลับมาหาตัว Scholar เอง อันนี้กว่าเราจะรู้ตัวอีกทีเราก็กลับจุดเซฟเรียบร้อยซะแล้ว – -"

สะท้อนกลับมาทำไม T-T

     3. Scholar สายนี้ใช้สกิลประเภทติดตัวทั้งหมด ดังนั้นแล้วถ้าหากโดนสกิล Dispell เข้าไปละก็… จะไม่ต่างอะไรกับ Novice น้อยที่มี ASPD 190 เลย

      แต่ใช่ว่าพอบอกจุดด้อยไปแล้ว จะทำให้เสน่ห์ของ Scholar สายปืนกลนั้นหมองไปนะคะ จุดเด่นของเขาก็มีเยอะค่ะ เช่น มีค่า VIT น้อยทำให้โดน Biochemist ปายาใส่เบามาก หรือมีค่า AGI เยอะ ทำให้อาชีพนักฆ่าอย่าง Assassin Cross ฆ่าเราได้ลำบากมาก หรือจะเป็นแนวทางการเล่นที่แปลกใหม่ น่าสนใจ แสนประหยัด (ถึงแม้จะไม่มีอุปกรณ์ใดๆ เลย ขอแค่มีสกิล Soul of Sage ก็สามารถลุยใน PVP ได้สบายๆ)
     และในปัจจุบัน Scholar สายนี้ มีแนวทางการเล่นที่ปรับลดค่า AGI และ INT ลงมาเพื่อเพิ่มให้กับค่า DEX ทำให้สามารถร่ายเวทย์ป้องกันอย่าง Safety Wall ได้ไวขึ้นนั่นเอง

     สำหรับท่านใดต้องการหาข้อมูลของอาชีพสายนี้เพิ่มสามารถดูบทความ หรือถามคำถามได้ที่ www.dvd-ro.com/scholar ได้เลยนะคะ

คลิปการเล่นของ Scholar สายปืนกล

http://video.google.com/videoplay?docid=-8404698814778859661&hl=en

http://www.dvd-ro.com/forums/index.php?showtopic=10896
 

 

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้