ข่าวสุดฮอตที่เป็นประมาณทอล์คออฟเดาะทาวน์ในหมู่สาวกน้อง X ขณะนี้คงจะหนีไม่พ้นสองเรื่องนี้ คือเรื่องบอร์ดในรหัสชื่อว่า Jasper ที่เป็นบอร์ดรุ่นล่าสุด และหัวอ่านแบบใหม่ที่มาต่อจากหัวอ่านแบบ Benq นั่นคือ หัวอ่านแบบ Lite-On นั่นเอง ถึงแม้จะเป็นคนละชิ้นส่วนแต่ก็เกี่ยวข้องกันอย่างแยกไม่ออกเหมือนกัน
ก็ไม่รู้จะเริ่มเรื่องไหนก่อนดีเหมือนกันครับ แต่เอาเป็นว่าเริ่มจากเรื่องง่ายๆ ชิวๆ สบายอารมณ์เกี่ยวกับบอร์ดแบบ Jasper กันก่อนดีกว่า Jasper เป็นชื่อรหัสที่ใช้เรียกบอร์ดแบบใหม่ที่มาต่อจากบอร์ดแบบ Falcon โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงจาก Falcon เล็กน้อย ตรงที่ตัว GPU จะใช้ขนาดของวงจรที่เล็กลง คือย่อจาก 90nm ในบอร์ดแบบ Falcon ไปเป็น 65nm นั่นเอง ซึ่งในแง่ดีสำหรับผู้ใช้คือ เครื่องจะมีความร้อนน้อยลง และกินไฟน้อยลงตามไปด้วย แต่ในแง่ของผู้ผลิตเครื่องจะถือเป็นการลดต้นทุนได้วิธีหนึ่ง ทำให้เครื่องมีต้นทุนในการผลิตลดลงไปได้อีกส่วนหนึ่งนั่นเอง จริงๆ แล้วบอร์ดแบบ Jasper นี้มีข่าวลือว่าจะออกมาตั้งแต่ปีที่แล้วได้ แต่ก็เพิ่งจะมีข่าวที่มีมูลเมื่อประมาณเดือนสองเดือนที่แล้วนี่เอง ข่าวที่ว่าคือไมโครซอฟท์ได้ว่าจ้างบริษัทออกแบบชิพเพื่อที่จะออกแบบตัว GPU ขนาด 65nm และคาดว่าจะได้เห็นตัวเป็นๆ ในประมาณเดือน 8-9 ในปีนี้ ซึ่งก็น่าจะมาถึงเมืองไทยในประมาณเดือน 10 ได้ โดยในขณะนี้ยังไม่ปรากฏว่ารุ่น Jasper ดังกล่าวมีจำหน่ายแล้ว ถ้ามีคงมีภาพหรือคนลือกันให้แซดเต็มอินเตอร์เน็ตไปเรียบร้อยแล้วล่ะครับ ถ้าสาวกท่านใดสนใจบอร์ดตัวนี้ ก็คงจะต้องรอไปอีกประมาณ 2-3 เดือนได้ อ่ะ แต่ช้าก่อน อย่าเพิ่งหยุดอ่านตอนนี้ล่ะ มีทีเด็ดตอนท้ายที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ดังนั้นขอย้ำว่าอ่านซะให้จบบทความนี้ไม่งั้นอาจจะมีอาการเสียใจในภายหลัง
เอาล่ะทีนี้ก็มาถึงพระเอกของเรา นั่นคือหัวอ่านแบบใหม่ที่อาจจะทำให้คนบางกลุ่มเกิดอาการหัวเสียได้ง่ายๆ ถ้าบังเอิญไปซื้อมาครอบครองโดยหวังว่าจะแปลงให้เล่นแผ่นก๊อบได้ จริงๆ แล้วหัวอ่านแบบใหม่ที่มีนามว่า Lite-On ซึ่งเป็นยี่ห้อหัวอ่านที่รู้จักกันดีในหมู่ชาวคอมพิวเตอร์นั้นไม่ได้เป็นหัวอ่านแบบใหม่หมดจรดซะทีเดียว คือถ้าเราเอามาเทียบกับหัวอ่านแบบรุ่นที่แล้วคือ BenQ แทบจะมองไม่เห็นความแตกต่างเลยทีเดียวครับ ก็จะให้มันต่างได้ยังไงล่ะในเมื่อ Lite-On กับ BenQ มันก็คลอดออกมาจากโรงงานเดียวกันนั่นแหละ เพราะ Lite-On เป็นบริษัทที่ผลิตหัวอ่าน BenQ ด้วยนั่นเอง
มาถึงทีเด็ดของงานนี้นั่นคือ จุดที่ต่างกันระหว่าง BenQ กับ Lite-On มันอยู่บนบอร์ดควบคุมหัวอ่านครับ หรือที่ฝรั่งเขาเรียกกันว่า Controller Board ซึ่งตัวควบคุมหัวอ่านของ BenQ นั้นได้ถูกแฮ็กให้สามารถเล่นแผ่นก๊อบปี้ได้ หลังจากที่ออกมาได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น เหมือนกับหัวอ่านตัวแรกของ Xbox 360 ซึ่งก็คือ Hitachi ที่ถูกแฮ็กได้ในเวลาประมาณ 6 เดือนเช่นกัน แปลกนะทำไมมักจะ 6 เดือน สงสัยจะเป็นเลขอาถรรพ์เหมือน The Omen หุหุ
แต่เจ้าบอร์ดควบคุมหัวอ่านของ Lite-On มีแววว่าอาจจะต้องใช้เวลามากกว่า 6 เดือนซะแล้วล่ะครับ หรืออาจจะถึงขนาดว่าแปลงให้เล่นแผ่นก๊อบปี้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เพราะบอร์ดควบคุมตัวนี้มันถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการแฮ็กมาแบบเต็มๆ คือ ทำกันในระดับฮาร์ดแวร์เลยทีเดียว โดยคราวนี้มันไม่ใช่การนำชิ้นส่วนของคอมพิวเตอร์มาทำการปรับแต่งให้ใช้กับเครื่องเล่นเกมอีกต่อไปแล้ว แต่ออกแบบมาเพื่อเครื่องเล่นเกมที่ต้องการการป้องกันการแปลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจุดที่เห็นได้ชัดคือจากปกติที่บอร์ดควบคุมของตัวที่ผ่านๆ มาจะมีหน่วยความจำแบบที่เอาไว้เก็บเฟิร์มแวร์ของหัวอ่านแยกออกมาต่างหาก จากตัวชิพควบคุม โดยตัวชิพควบคุมจะสื่อสารกับหน่วยความจำดังกล่าวโดยผ่านคำสั่งต่างๆ ส่งผ่านไปผ่านมาบนวงจร ซึ่งโดยปกติพวกแฮ็กเกอร์จะสามารถถอดชิพหน่วยความจำดังกล่าวออกมา เพื่ออ่านทั้งข้อมูลและชุดคำสั่งเพื่อทำการศึกษาในการแฮ็กได้ไม่ยาก เพราะมันเป็นชิพที่ถ้าไม่มีคำสั่งให้อ่านออกมาได้ก็สามารถถอดชิพความจำดังกล่าวออกมาอ่านโดยใช้เครื่องอ่านข้างนอกได้ แต่เจ้าบอร์ดควบคุมตัวดีของ Lite-On ตัวนี้ดันออกแบบเอาหน่วยความจำของเฟิร์มแวร์ดังกล่าวฝังไว้ในตัว Controller Chip เลยทีเดียว ซ้ำร้ายยังมีระบบป้องกันแถมมาให้อีกดอก คือจะทำให้ไม่สามารถอ่านเฟิร์มแวร์ออกมาได้ แต่กลับอนุญาตให้มีการเขียนเฟิร์มแวร์ได้ แปลกดีไหมล่ะงานนี้ โดยสาเหตุที่เขาทำให้เขียนได้อย่างเดียวก็เพื่อที่จะให้มีโอกาสได้อัพเดตเฟิร์มแวร์ที่เป็นตัวต้นฉบับเท่านั้น ไม่ใช่เฟิร์มแวร์ที่ได้รับการแก้ไขจากการที่อ่านออกมา
ถึงตรงนี้บางคนอาจจะท้วงว่า อ้าว ถ้าในเมื่อมันสามารถเขียนเฟิร์มแวร์เข้าไปได้ก็สบายล่ะสิ มันก็ไม่สบายอย่างที่คิดหรอกครับ คือว่าก่อนที่เราจะเขียนเฟิร์มแวร์แบบแก้ให้เล่นก๊อบได้นั้น เราจะต้องอ่านค่า Drive-Key ที่จะแตกต่างกันทุกเครื่อง คือ เครื่องหนึ่งจะมี Drive-Key ชุดหนึ่ง ดังนั้นการที่เฟิร์มแวร์ตัวใหม่ไม่สามารถอ่านออกมาได้ ทำให้ไม่สามารถดึง Drive-Key ออกมาได้นั่นเอง งานนี้หินแน่ๆ ซึ่งแม้กระทั่งเทพในวงการแฮ็กนาม C4E ยังเอ่ยปากออกมาเลยว่างานนี้หิน อาจจะแก้ไม่ได้เลย
จากสองเรื่องที่เล่ามาทำให้เกิดความสับสนเล็กน้อย ตรงที่ว่ามีหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเครื่องที่มีหัวอ่านแบบ Lite-On จะเป็นบอร์ดแบบ Jasper ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครเจอบอร์ดไหนในโลกที่เป็น Jasper เลยสักตัว ส่วนเรื่องที่สอง เครื่องที่ผลิตตั้งแต่เดือน 4 ปีนี้เป็นต้นไปจะมีหัวอ่านเป็นแบบของ Lite-On ทั้งหมดซึ่งยังไม่สามารถดัดแปลงให้เล่นก๊อบได้ เลยทำให้เครื่องที่มีหัวอ่านแบบ BenQ ขาดตลาดอย่างหนัก ทำให้ราคาสูงกว่าปกติ โดยจะมีราคาสูงกว่าเครื่องใหม่ๆ ที่มีหัวอ่านแบบ Lite-On นั่นเอง ซึ่งตอนนี้เครื่องที่มีหัวอ่านแบบ BenQ เริ่มมีน้อยลงเรื่อยๆ แล้วด้วยครับ
เรื่องโดย D’Tehmujin gamezaap.com
[email protected] 08-6664-4242