>> เปิดโปงชีวิตลุงสเน็ค!! ตอนที่ 1 เรื่องราวซีรีส์เกม Metal Gear Solid ก่อนจะเป็นภาค 4 <<
สเน็คเผชิญหน้ากับลิขวิด ซึ่งลิขวิดได้เปิดเผยความจริงให้ฟังว่า เขาเป็นพี่น้องกับสเน็ค แต่ไม่ใช่พี่น้องธรรมดาๆ แต่เป็นพี่น้องฝาแฝดที่ผูกพันจากยีนต้องสาปนั่นคือยีนของบิ๊กบอส! ลิขวิดได้เล่าต่อว่า สเน็คถูกพวกเพนตากอนหลอกใช้ แผนการของเพนตากอนคือต้องการที่จะฆ่าพวกเราทั้งหมด และนำเมทัลเกียร์กลับไปในสภาพสมบูรณ์ ลิขวิดบอกว่าเขามีสายลับในเพนตากอนทำให้รู้ว่า สเน็คถูกส่งมาให้เป็นตัวแพร่เชื้อไวรัส FoxDie สเน็คได้ยินเช่นนั้นเขาแทบไม่อยากจะเชื่อ ลิขวิดเล่าต่อว่า ไวรัส FoxDie นั้นได้ฆ่าออคโตปัสและเบเกอร์ไป ส่วนแมนทิสนั้นสวมหน้ากากกันแก๊สเลยไม่ติดเชื้อ แต่ทั้งนี้เพราะนาโอมิแอบแก้ไขโปรแกรมบางอย่างของ FoxDie ทำให้ทั้งเขาและสเน็ครวมไปถึงโอเซล็อตไม่เป็นอะไร อาจเป็นได้ว่าเกิดจากความผิดพลาดหรือบั๊กของโปรแกรม เรื่องนี้ใครจะไปรู้ แต่ว่าตอนนี้เมทัลเกียร์พร้อมที่จะยิงนิวเคลียร์ทำให้เขามีอำนาจที่จะข่มขู่รัฐบาลเพื่อเอาวัคซีนป้องกันไวรัส FoxDie ได้ จากนั้นลิขวิดจึงขับเมทัลเกียร์มาสู้กับสเน็ค
สเน็คเผชิญหน้ากับ เมทัลเกียร์ REX !!
สเน็คได้ถามโอตาค่อนเพื่อหาวิธีสู้กับเมทัลเกียร์ โอตาค่อนบอกสเน็คว่าเกราะของ REX นั้นแข็งแกร่งมาก ไม่สามารถทำลายได้ แต่จะมีกลไกตรวจจับการเคลื่อนไหวและควบคุมเรียกว่าเรโดม ถ้าทำลายส่วนนี้ได้ คนขับต้องเปิดที่นั่งบังคับขึ้นมาเพื่อควบคุมตัวเองโดยตรง และส่วนที่เปิดออกนี้จะเป็นโอกาสดีที่จะทำลาย สเน็คจึงใช้เครื่องยิงจรวดทำลายเรโดม ซึ่งระหว่างนั้นเอง นินจาหรือเกรย์ฟ๊อกซ์ได้ปรากฏตัวออกมาช่วยสเน็ค
เกรย์ฟ๊อกซ์ได้เล่าว่า เขากลับมาที่นี่เพื่อให้สเน็คปลดปล่อยเขาให้เป็นอิสระ สเน็คพยายามบอกว่าเกรย์ฟ๊อกซ์คือคนเดียวที่จะหยุดนาโอมิได้ แต่เกรย์ฟ๊อกซ์ปฏิเสธและเล่าความจริงว่า จริงๆ แล้วเขาเป็นคนฆ่าพ่อแม่ของนาโอมิ และตอนนั้นเขาตัดใจฆ่านาโอมิไม่ได้ จึงได้พาเธอมาคอยดูแลเหมือนน้องสาวแท้ๆ แต่ทุกครั้งที่เขามองเธอ เขารู้สึกเห็นพ่อแม่เธอคอยจ้องมาทำให้ไม่อาจที่จะสู้หน้าเธอได้ จากนั้นเกรย์ฟ๊อกซ์ ได้วิ่งออกจากจุดที่หลบ และทำลายเรโดมให้กับสเน็ค แต่นั่นก็ต้องแลกกับชีวิตของเขา เกรย์ฟ๊อกซ์ถูก REX เหยียบ ก่อนตายเกรย์ฟ๊อกซ์ได้บอกสเน็คว่า พวกเราไม่ใช่เครื่องมือของรัฐบาล จงเชื่อในสิ่งที่เราเป็นและต่อสู้เพื่อสิ่งนั้น จากนั้นเกรย์ฟ๊อกซ์ได้ขาดใจตาย สเน็คจึงเข้าต่อสู้กับเมทัลเกียร์และลิขวิดอีกครั้ง
เกรย์ฟ๊อกซ์ช่วยทำลายเรโดมของเมทัลเกียร์
เมื่อสเน็คชนะได้ แรงระเบิดของ REX กระแทกสเน็คจนสลบ เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาก็พบว่าลิขวิดได้มัดสเน็คเอาไว้ ลิขวิดได้เล่าให้ฟังว่าในโลกปัจจุบันนั้นไม่ใช่ที่สำหรับคนอย่างพวกเรา เพราะทั้งสเน็คและลิขวิดนั้นมีชีวิตอยู่เพื่อเป็นเครื่องมือของสงครามเท่านั้น ซึ่งทั้งเขาและสเน็คนั้นเกิดมาในโครงการโคลนนิ่งบิ๊กบอส เรียกว่า ลาอองฟองเทอริเบิ้ล (Les Enfant Terribles) เพื่อต้องการที่สร้างทหารในตำนานอย่างบิ๊กบอส โดยทำการโคลนออกมาแปดคน ซึ่งหกคนนอกจากเขาและสเน็คนั้นต้องเสียสละเพื่อให้เขาและสเน็คนั้นสมบูรณ์ แต่ว่า เมื่อเหลือลิขวิดกับสเน็คแล้วพวกเขากลับใช้ลิขวิดเป็นหนูทดลอง โดยการถ่ายเทยีนเด่นทั้งหมดให้กับสเน็ค ส่วนลิขวิดได้ยีนด้อยไปทั้งหมด ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่เขาเกลียดสเน็ค
ลิขวิดได้ให้นำตัวเมอริลที่หมดสติอยู่มา และบอกว่านี่จะเป็นการตัดสินครั้งสุดท้าย เพราะเวลาใกล้จะหมดลงแล้ว ไม่ได้หมายถึงเพราะ FoxDie แต่เพราะเพนตากอนรู้แล้วว่าเมทัลเกียร์ถูกทำลาย ตอนนี้คงกำลังส่งเครื่องบินมาทำลายที่นี่ ผู้พันแคมป์เบลติดต่อมาและบอกสเน็คว่าเขาจะพยายามถ่วงเวลาพวกเพนตากอนให้สเน็คได้มีโอกาสหนี แต่ไม่ทันที่จะพูดจบ ผู้พันก็ถูกจับกุมโดย จิม เฮาส์แมน (Jim Houseman) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เขาบอกสเน็คว่าผู้พันแคมป์เบลถูกต้องสงสัยว่าก่อการกบฏ สเน็คไม่เชื่อและบอกให้ปล่อยตัวผู้พัน จิมบอกว่าเขาสั่งการให้เครื่องบินไปทิ้งนิวเคลียร์ที่นั่นเพื่อทำลายหลักฐานทั้งหมด แต่ว่าถ้ายอมส่งแผ่นดิสก์ที่บรรจุข้อมูลการทดลองเขาอาจะเปลี่ยนใจ แผ่นดิสก์ที่เบเกอร์ให้มานั้นโดนโอเซล็อตเอาไปแล้ว สเน็คจึงบอกว่าเขาไม่มี ทำให้จิมเลิกสนใจและตัดสายไป
ศึกสุดท้ายของสองพี่น้อง
ลิขวิดแก้เชือกให้สเน็คและตัดสินกันครั้งสุดท้าย สเน็คสามารถเอาชนะลิขวิดได้ ลิขวิดกระเด็นตกเมทัลเกียร์ไป ส่วนสเน็คนั้นได้ไปช่วยเมอริล และรีบพาเมอริลหนีออกไป โอตาค่อนได้ติดต่อมายังสเน็คเขาบอกว่าให้สเน็คขับรถจี๊ปหนีออกไปโดยเขาจะปลดล็อกประตูทางออกให้ สเน็คแย้งว่าที่นี่กำลังจะถูกทิ้งระเบิดโอตาค่อนต้องหนีมาด้วยกัน แต่โอตาค่อนปฏิเสธและบอกว่าการแก้ล็อกประตูรักษาความปลอดภัยเป็นงานยาก มีแต่เขาที่ทำได้ เขายืนกรานที่จะอยู่ที่นี่เพื่อช่วยให้สเน็คหนีไป สเน็คได้แต่อวยพรให้โอตาค่อนเอาตัวรอดให้ได้
สเน็คเอาชนะลิขวิดและสามารถช่วยเมอริลไว้ได้
ระหว่างที่ขับหนีออกมาลิขวิดได้ขับรถจี๊ปไล่ตามมาทางด้านหลัง เขายังไม่ตายและพยายามขับไล่ตามมา เมื่อถึงทางออกลิขวิดไล่ทันและเข้ามาปาดหน้า ทำให้เกิดการชนกัน สเน็คและเมอริลติดอยู่ใต้รถ แต่ว่าลิขวิดไม่ได้โชคร้ายอย่างสเน็ค เขาลุกขึ้นมาและหยิบปืนขึ้นมาจะยิง แต่ในตอนที่จะยิงนั้นไวรัส FoxDie เกิดทำงานขึ้นมาลิขวิดจึงตายต่อหน้าสเน็คและเมอริล
ผู้พันแคมป์เบลติดต่อมายังสเน็คอีกครั้งพร้อมข่าวดี จิมถูกจับกุมตัวโดยประธานาธิบดีสั่งการตรงมาและบอกว่าจิมนั้นกระทำไปโดยฝ่ายเดียว ตอนนี้เครื่องบินทิ้งระเบิดถูกสั่งยกเลิกและกลับฐานไปแล้ว สเน็คบอกผู้พันแคมป์เบลว่า เมอริลปลอดภัยดี ซึ่งผู้พันเองก็ขอบคุณสเน็คและเล่าให้ฟังว่า จริงๆ แล้วเมอริลคือลูกสาวของเขาเอง สเน็คถามเรื่องไวรัส FoxDie ที่ฆ่าลิขวิด แคมป์เบลจึงให้นาโอมิมาอธิบายแทน นาโอมิได้บอกว่าเธอแก้ไขข้อมูลไวรัส FoxDie ที่ฉีดให้สเน็ค สเน็คถามว่าแล้วเวลาของเขาเหลือเท่าไหร่ นาโอมิได้บอกว่านั่นไม่สำคัญ คนเราทุกคนเมื่อถึงเวลาก็ต้องตาย สำหรับสเน็คนั้นขึ้นอยู่กับว่าจะใช้เวลาที่เหลืออย่างไรแค่นั้น สเน็คได้บอกให้ผู้พันแคมป์เบลส่งคนเข้าไปรับโอตาค่อนด้วย หลังจากนั้นสเน็คและเมอริลก็เดินทางออกจากที่นี่ไป
เสียงสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างโอเซล็อตไปยังใครบางคน โอเซล็อตนั้นเปิดเผยตัวว่าไม่ได้ทำงานให้ลิขวิดตั้งแต่แรก แต่ได้รับคำสั่งจากคนที่เขากำลังคุยอยู่ให้มาแสร้งทำเป็นช่วยลิขวิด เขาได้ข้อมูลการทดสอบของ REX มา ไม่มีใครรู้สถานะที่แท้จริงของเขา ยกเว้นดาร์พาชีฟ ซึ่งโอเซล็อตแกล้งทำเป็นพลั้งมือทรมานหนักเพื่อฆ่าปิดปากแล้ว และคนที่โอเซล็อตคุยด้วยนั้นคือประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานั่นเอง!!
Metal Gear Solid 2: Sons of Liberty
ปี 2007
ณ สะพานจอร์จวอชิงตัน เมืองนิวยอร์ก สเน็คได้กระโดดจากสะพานลงไปยังเรือขนส่งน้ำมันของนาวิกโยธินสหรัฐฯ ในครั้งนี้เขาร่วมมือกับโอตาค่อนซึ่งได้แหล่งข่าวว่ามีการสร้างโมเดลของเมทัลเกียร์แบบใหม่ หลังจากเหตุการณ์บนเกาะชาโดวโมเสสนั้นโอเซล็อตได้นำแปลนของเมทัลเกียร์ไปขายในตลาดมืด ทำให้บางกลุ่มหรือองค์กรสามารถสร้างเมทัลเกียร์ในแบบของตัวเอง ทางนาวิกโยธินสหรัฐฯ จึงได้ทำการพัฒนาเมทัลเกียร์โมเดลใหม่เพื่อไว้ทำลายเมทัลเกียร์ตัวอื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งเป็นรุ่นต่อต้านเมทัลเกียร์ (anti-Metal Gear) มีความสามารถสะเทินน้ำสะเทินบกได้ สเน็คและโอตาค่อนซึ่งได้ก่อตั้งองค์กรต่อต้านเมทัลเกียร์ ฟิแลนโทรปี (Philanthropy) จึงมีแผนที่จะเปิดเผยการสร้างเมทัลเกียร์รุ่นใหม่นี้ต่อสื่อมวลชน เพื่อที่จะได้ระงับการสร้างเมทัลเกียร์
แต่แล้วเหตุการณ์ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด เมื่อมีกองกำลังทำทหารไม่ทราบสัญชาติบุกเรือลำนี้ สเน็คจึงต้องระวังในภารกิจนี้มากขึ้นกว่าเดิม สเน็คได้ขึ้นไปยังดาดฟ้าของเรือและพบทหารสาวชาวรัสเซียคนหนึ่งกำลังติดต่อใครบางคนทางวิทยุ เมื่อเธอคุยเสร็จสเน็คได้จ่อปืนไปด้านหลังเธอและบอกให้เธอแสดงตัว แต่ทหารสาวคนนั้นขัดขืน และเกิดการสู้กัน เมื่อชนะแล้ว โอตาค่อนได้ติดต่อมาว่าเขารู้ตัวผู้นำของกองทหารที่บุกเรือลำนี้แล้ว เขาคือ เซอร์เก้ กุลุคโกวิค (Sergei Gurlukovich) ทหารรัสเซียหุ้นส่วนเก่าของลิขวิดและโอเซล็อต ที่ให้ความร่วมมือด้านกำลังทหารเมื่อเหตุการณ์บนเกาะชาโดวโมเสส ซึ่งดูท่าว่าพวกนี้เองก็ต้องการเมทัลเกียร์เช่นกัน ส่วนทหารสาวคนนั้นคือ ออลก้า กุลุคโกวิค (Olga Gurlukovich) ลูกสาวของเซอร์เก้
โอเซล็อตกลับมาอีกครั้งหลังจากเหตุการณ์เกาะชาโดวโมเสส
สเน็คได้ลอบเข้าไปยังห้องเก็บเมทัลเกียร์ ซึ่งสก็อต ดอล์ฟ (Scott Dolph) ผู้บัญชาการนาวิกโยธินได้บรรยายเนื้อหาของเมทัลเกียร์รุ่นใหม่นั่นคือเมทัลเกียร์เรย์ (Metal Gear RAY) ให้กับเหล่าทหารนาวิกโยธิน สเน็คจึงอาศัยจังหวะนี้ ถ่ายรูปเมทัลเกียร์เพื่อส่งให้โอตาค่อน เมื่อเสร็จภารกิจ สเน็คเตรียมหนีออกจากที่นี่ แต่แล้วโอเซล็อตได้ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับเซอร์เก้ และนำกำลังทหารรัสเซียมาล้อมเหล่าทหารนาวิกโยธิน และขู่จะระเบิดเรือลำนี้ โอเซล็อตเปิดเผยว่าเขามาที่นี่เพื่อนำเมทัลเกียร์กลับไปไม่ใช่เพื่อรัสเซีย แต่เพื่อแพทริออต (The Patriots) หรืออีกชื่อคือ ละ-ลิ-ลุ-เละ-โละ (The La-li-lu-le-lo) ซึ่งที่จริงแล้วเขาหลอกใช้กองทหารของเซอร์เก้เพื่อเข้ายึดเมทัลเกียร์เรย์อีกที เซอร์เก้ได้ยินดังนั้นจึงเริ่มแตกคอกับโอเซล็อต โอเซล็อตได้ฆ่าเซอร์เก้และสก็อต จากนั้นเขาได้กดระเบิดที่วางไว้ในเรือนี้ และขึ้นไปขับ RAY
เมทัลเกียร์ RAY เริ่มขับเคลื่อน
ก่อนที่จะหนีไปได้นั้นสเน็คปรากฏตัวมาต่อหน้าโอเซล็อต และจู่ๆ แขนขวาของโอเซล็อตมีปฏิกริยาอะไรบางอย่าง ทำให้เขาแสดงอีกบุคลิกออกมา นั่นคือลิขวิด!! โอเซล็อตได้นำแขนของลิขวิดที่ตายไปมาต่อกับแขนของเขาที่ขาด ทำให้ลิขวิดควบคุมร่างของโอเซล็อตและได้คุยกับสเน็คว่าเขากลับมาอีกครั้งโดยอาศัยอยู่ในมือข้างนี้ จากนั้นเขาก็ขับ RAY ออกจากเรือลำนี้ไป สเน็คพยายามหาทางหนีออกจากเรือที่กำลังจะจมเต็มที หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ก็พบว่าสเน็คหายสาบสูญไป
29 เมษายน 2009
เกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อการร้ายเรียกตัวเองว่า บุตรแห่งเสรีภาพ (Sons of Liberty) เข้าบุกยึดโรงงานบำบัดมลพิษกลางทะเลบิ๊กเชล (Big Shell) หลังจากเหตุการณ์เรือขนส่งน้ำมันจม ทำให้เกิดคราบน้ำมันดิบตกค้างในทะเล จึงมีการสร้างบิ๊กเชลกลางทะเลเพื่อบำบัดคราบน้ำมันดิบที่เกิดจากเรือจมในครั้งนั้น กลุ่มผู้ก่อการร้ายนำโดยหน่วยปราบจลาจลพิเศษชื่อว่าเดดเซล (Dead Cell) และกลุ่มกองทหารรัสเซียที่ไม่ได้ขึ้นตรงต่อรัฐบาลรัสเซียนำโดยออลก้า ในวันที่พวกเขาบุกบิ๊กเชลนั้นเป็นวันเดียวกับที่ประธานาธิบดี เจมส์ จอห์นสัน (James Johnson) ไปเยี่ยมบิ๊กเชล ทำให้ประธานาธิบดีและแขก VIP โดนจับเป็นตัวประกัน ข้อเรียกร้องของพวกเขาคือเงินจำนวน 30,000 ล้านดอลลาร์
ทหารหน่วย FOXHOUND หน้าใหม่โค้ดเนมว่าสเน็ค ซึ่งผ่านการฝึกซ้อมภารกิจเสมือนจริง (VR Training) มานับครั้งไม่ถ้วนได้รับภารกิจจากผู้พันรอย แคมป์เบล ให้ช่วยเหลือประธานาธิบดีและตัวประกัน รวมไปถึงจัดการกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายถ้าเป็นไปได้ สเน็คได้ดำน้ำไปขึ้นบิ๊กเชลโดยลอบเข้าไปจากทางด้านล่างของเชลหนึ่ง ระหว่างนั้นผู้พันแคมป์เบลได้บอกให้เปลี่ยนโค้ดเนมใหม่เป็นไรเดน (Raiden) เพราะผู้นำของผู้ก่อการร้ายนั้นอ้างตัวว่าเป็น โซลิด สเน็ค ซึ่งน่าจะตายไปในเหตุการณ์เรือจมเมื่อสองปีก่อนแล้ว
ไรเดนทหารหน้าใหม่ของ FOXHOUND
ทีมสนับสนุนของไรเดนนอกจากผู้พันแคมป์เบลแล้วยังมีโรสแมรี่ (Rosemary) แฟนสาวของไรเดนซึ่งเธอเรียกไรเดนว่าแจ็ค (Jack) มาเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ภารกิจให้ด้วย ผู้พันแคมป์เบลได้บอกไรเดนว่า ตอนนี้หน่วยซีลได้ส่งกำลังมาทางเฮลิคอปเตอร์เพื่อช่วยเหลือประธานาธิบดี ให้ไปที่จุดนั้น ระหว่างทางไรเดนพบกับศพของหน่วยซีลมากมายซึ่งไรเดนพบชายปริศนากำลังดูดเลือดทหารหน่วยซีลคนหนึ่ง ไรเดนสู้กับเขาและพบว่า ชายคนนี้ว่องไวเกินกว่ามนุษย์ปกติ ระหว่างนั้นมีทหารหน่วยซีลอีกคนโผล่ออกมา ไรเดนร่วมมือกับทหารซีลสู้ชายปริศนาคนนั้นแต่ชายคนนั้นก็ถอนตัวไปเนื่องจากมีพรรคพวกวิทยุเรียกตัวไว้ ไรเดนคุยกับซีลคนนั้นและรู้ชื่อว่าเขาคือ อิโรควิส ปลิสกิ้น (Iroquois Pliskin) และได้เล่ารายละเอียดของชายปริศนาที่สู้ก่อนหน้านี้ เขาคือแวมป์ (Vamp) หนึ่งในสมาชิกหน่วยเดดเซล
ปลิสกิ้น หน่วยซีลที่เหลือรอด
ปลิสกิ้นเห็นชุดเครื่องแบบของไรเดนและรู้ว่าเป็นเครื่องแบบของ FOXHOUND และได้บอกไรเดนว่า FOXHOUND ถูกยุบไปตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อน ระหว่างที่คุยอยู่หน่วยซีลทีมอื่นได้แจ้งมาว่าประธานาธิบดีกำลังถูกศัตรูพาตัวไปได้ ไรเดนจึงรีบไปที่นั่นทันที เมื่อไปถึงไรเดนพบกับหน่วยซีลกำลังสู้กับหญิงสาวคนหนึ่ง น่าแปลกที่กระสุนนั้นเบนออกจากตัวเธอหมดเลย ผู้หญิงคนนั้นเธอชื่อฟอร์จูน (Fortune) หนึ่งในสมาชิกของหน่วยเดดเซล เธอได้ใช้เรลกันยิงใส่หน่วยซีล ซึ่งทำให้สะพานทางเชื่อมไปยังเชลคอร์ (Shell Core) หนึ่งถูกทำลาย ไรเดนไม่อาจจะไล่ตามไปช่วยประธานาธิบดีได้ นอกจากนี้ไรเดนสังเกตเห็นกระเป๋าสีดำถูกนำไปพร้อมกับประธานาธิบดีด้วย ผู้พันแคมป์เบลได้บอกไรเดนว่าตอนนี้พวกผู้ก่อการร้ายนั้นได้วางระเบิดไว้ ซึ่งให้ไรเดนออกตามหาเจ้าหน้าที่พิเศษด้านการกู้ระเบิดที่มาพร้อมกับหน่วยซีล เพื่อหยุดยั้งระเบิดที่วางไว้ในบิ๊กเชลก่อน
ไรเดนตามหาเจ้าหน้าที่กู้ระเบิดเจอ เขาชื่อ ปีเตอร์ สตีลแมน (Peter Stillman) ซึ่งเล่าสถานการณ์ให้ฟังว่าตอนนี้ระเบิดถูกวางอยู่รอบๆ บิ๊กเชล ซึ่งคนที่วางนั้นคือแฟทแมน (Fatman) อดีตลูกศิษย์ของเขาซึ่งเขาเคยสอนทุกสิ่งเกี่ยวกับระเบิดให้ และตอนนี้เขาเป็นสมาชิกหน่วยเดดเซลและได้วางระเบิดไว้ทั่วบิ๊กเชล ปลิสกิ้นจะแนะนำให้สตีลแมนสอนวิธีการกู้ระเบิด จากนั้นเขาและไรเดนจะไปจัดการให้เอง จากนั้นไรเดนและปลิสกิ้นจึงแยกย้ายกันไปกู้ระเบิด
ระหว่างที่ทั้งสองไปกู้ระเบิด สตีลแมนสงสัยว่าจุดที่วางระเบิดนั้นมันไม่พอที่จะทำลายบิ๊กเชลได้ และเขาก็รู้ตัวว่าระเบิดพวกนี้เป็นกับดักเพราะทันทีที่ทั้งระเบิดถูกกู้ครบ มันจะเป็นชนวนให้ระเบิดอื่นทำงาน แต่ก็สายไปแล้วเพราะทั้งไรเดนและปลิสกิ้นได้กู้ระเบิดเสร็จก่อน ทำให้ระเบิดลูกใหญ่สุดได้เริ่มทำงาน สตีลแมนจึงได้บอกให้ไรเดนไปจัดการหยุดในส่วนของเชลคอร์หนึ่ง ส่วนเขาจะไปหยุดอีกลูกหนึ่งในส่วนของเชลคอร์สอง ไรเดนสามารถหยุดระเบิดได้แต่ว่าสตีลแมนนั้นโดนแฟทแมนล่อให้ไปติดกับ เพราะทันทีที่เขาเข้าใกล้ระเบิด ระเบิดก็เริ่มนับเวลา ทำให้เขาไม่อาจจะหนีได้ทันและถูกระเบิดตาย หลังจากไรเดนกู้ระเบิดเสร็จ ผู้พันแคมป์เบลได้บอกว่าแฟทแมนติดต่อมาโดยตรง ซึ่งเขาวางระเบิดไว้ที่ลานจอดเครื่องบิน เขาต้องการที่จะฆ่าไรเดน ซึ่งผู้พันแคมป์เบลบอกให้ไรเดนไปที่นั่นเพื่อหยุดระเบิด
ระหว่างทางไรเดนเผชิญหน้ากับฟอร์จูน พลังของเธอทำให้กระสุนที่ไรเดนยิงนั้นเบี่ยงออกไปหมด ไรเดนจึงได้แต่หลบการโจมตีของเธอ ระหว่างนั้นแวมป์ได้เข้ามาหาฟอร์จูน ไรเดนสบโอกาสจังหวะที่ฟอร์จูนเผลอจึงยิงใส่ แต่กระสุนเบี่ยงไปโดนกลางหน้าผากของแวมป์แทน ฟอร์จูนเสียใจมาก ไรเดนได้โอกาสจึงรีบหนีไป แต่ทว่าแวมป์กลับฟื้นขึ้นมาเขาบอกกับฟอร์จูนว่า เขาเคยตายไปแล้วครั้งหนึ่งดังนั้นเขาจะไม่ตายอีก
นินจา ชายปริศนาเสนอตัวที่จะช่วยไรเดน
ไรเดนเผชิญหน้ากับแฟทแมนและสามารถเอาชนะได้สำเร็จ จากนั้นเขาได้พบกับชายลึกลับซึ่งเขามีลักษณะเหมือนไซบอร์กนินจาเมื่อเหตุการณ์เกาะชาโดวโมเสส ไรเดนจึงถามว่าเขาคือใคร นินจาบอกว่าเขาเป็นผู้ส่งข่าวจาก ละ-ลิ-ลุ-เละ-โละ มาที่นี่เพื่อสนับสนุนไรเดน นินจาแนะนำให้ไรเดนปลอมตัวเป็นทหารศัตรูเพื่อเข้าไปยังที่ตัวประกันถูกจับไว้ และตามหา ริชาร์ด อาเมส (Richard Ames) ไรเดนค่อนข้างสงสัยในตัวของนินจาและบอกว่าเขาไม่จำเป็นต้องเชื่อที่นินจาพูด ซึ่งนินจาบอกว่านั่นก็ใช่แต่ว่านายก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากที่จะเชื่อ จากนั้นเขานินจาได้มอบชุดปลอมตัวและก่อนจากไปนินจาได้เปิดเผยว่าที่นี่เป็นที่เก็บเมทัลเกียร์อย่างลับๆ รายละเอียดให้ไปถามอาเมสเอาเอง ระหว่างนั้นโรสได้ติดต่อมาว่าเธอทำการตรวจสอบ DNA จากศพของ โซลิด สเน็ค ในเหตุการณ์เรือจมพบว่า DNA นั้นคือ โซลิด สเน็ค ตัวจริงแต่แขนขวาหายไป
ไรเดนลอบเข้าไปยังที่ซ่อนตัวประกัน เมื่อไรเดนเจออาเมสแล้ว อาเมสได้เล่าว่าเขาส่งมาจาก ละ-ลิ-ลุ-เละ-โละ เช่นเดียวกับไรเดน ไรเดนงงกับสิ่งที่เขาพูดแต่ไม่ได้ใส่ใจมากและได้ถามรายละเอียดไป อาเมสได้บอกที่อยู่ของประธานาธิบดี ไรเดนจึงถามถึงข้อเรียกร้องเป็นจำนวนเงิน 30,000 ล้านดอลลาร์ แค่อาเมสกลับไม่รู้เรื่อง เขาจึงเล่าให้ฟังว่าจุดประสงค์ของผู้ก่อการร้ายนี้ไม่ใช่เงิน แต่เป็นการยิงนิวเคลียร์!! ซึ่งเขาเล่าให้ฟังว่า
กระเป๋าที่เป็นสวิตช์ที่จะนำไปสู่การยิงอาวุธนิวเคลียร์นั้นถูกใส่รหัสป้องกันไว้ คนที่สามารถจะเปิดมันได้มีแต่ประธานาธิบดี การเปิดจะใช้รหัสทางกายภาพของประธานาธิบดี ชีพจร คลื่นสมอง และ DNA ซึ่งถ่ายทอดออกมาทางนาโนแมชชีนในตัว การขู่เข็ญประธานาธิบดีให้ใช้รหัสเหล่านั้นจะไม่มีผลเพราะความเครียด จะส่งผลให้แรงดัน คลื่นสมอง ชีพจรเปลี่ยนค่า ประธานาธิบดีต้องอยู่ในสภาวะปกติเท่านั้นถึงจะใช้ได้ ระหว่างที่คุยนั้น สเน็คได้เข้ามาคุยกับโอเซล็อต ไรเดนจึงแอบฟังพวกเขาคุยกัน ทำให้รู้ว่าตอนนี้รหัสได้ถูกใส่ลงกระเป๋าและรอเพียงแค่ประธานาธิบดียืนยันด้วยรหัสทางกายภาพอีกครั้ง ไรเดนได้ถามอาเมสเรื่องสเน็คที่เป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้าย ซึ่งตัวจริงน่าจะตายไปแล้ว อาเมสบอกว่ามีโอกาสเป็นไปได้ที่จะรอด ส่วนเรื่องรหัสที่ถูกใส่เข้าไปแล้วนั้นทำให้คิดได้ว่าประธานาธิบดียอมร่วมมือกับพวกสเน็คโดยตรง อาเมสบอกว่าอาจเป็นไปได้เพราะประธานาธิบดีคงเหนื่อยกับการเป็นหุ่นเชิด ไรเดนสงสัยกับคำว่าหุ่นเชิดที่พูด แต่อาเมสไม่มีเวลาอธิบายและได้เล่าว่าพวกนั้นตั้งใจจะยิงนิวเคลียร์ไปที่นิวยอร์ก ไม่ใช่จะทำลายเมือง แต่ต้องการที่จะยิงไปบนชั้นบรรยากาศแอสโมตสเฟีย ทำให้ก่อให้เกิด อีเอ็มพี (ElectroMagnetic Pulse) ซึ่งจะเป็นสนามแม่เหล็กแผ่รังสีแกมมา สร้างความเสียให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ระบบการสื่อสารแพทริออตล่มจนไม่สามารถควบคุมได้ แต่ทว่าระหว่างที่คุยนั้นโอเซล็อตได้เข้ามาพอดี โอเซล็อตได้พูดบางอย่างกับอาเมส แต่แล้วอาเมสก็หัวใจวายตาย ซึ่งก่อนตายเขาเหมือนจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับโอเซล็อตแต่นั่นมันก็สายไปแล้ว โอเซล็อตจับได้ว่าไรเดนปลอมตัว จึงสั่งทหารให้ล้อมยิง แต่นินจาได้โผล่ออกมาช่วยไรเดนให้หนีออกไปได้
ไรเดนได้รีบตรงไปยังที่ซึ่งประธานาธิบดีถูกจับตัว ก่อนที่จะมีการยืนยันรหัสกายภาพ แต่เมื่อจะข้ามไปยังฝั่งเชลคอร์สอง สเน็คได้โผล่ออกมาขัดขวาง แต่ปลิสกิ้นได้ปรากฏตัวออกมาว่านั่นไม่ใช่โซลิดสเน็ค โซลิดสเน็คคือตัวเขาเอง ทำให้สเน็คตัวปลอมเปิดเผยว่าเขาคือ โซลิดัส สเน็ค (Solidus Snake) จากนั้นแวมป์ได้ขับเครื่องบินแฮริเออร์มารับโซลิดัสและเข้าโจมตีไรเดน ปลิสกิ้นซึ่งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์จึงได้แต่สนับสนุนทางอากาศ หลังจากทำลายเครื่องแฮริเออร์ได้ แฮริเออร์ได้ร่วงลงน้ำแต่ทว่า RAY ได้พุ่งออกมาจากใต้น้ำมาคาบเครื่องแฮริเออร์ไว้ได้และหนีลงน้ำไป
โซลิดัส สเน็ค ชายที่อ้างตัวว่าเป็น โซลิด สเน็ค
สเน็คได้แนะนำให้ไรเดนรู้จักกับโอตาค่อนซึ่ง ไรเดนบอกสเน็คว่าเขานึกว่าสเน็คจะตายไปแล้ว ซึ่งสำหรับตัวเขาแล้วเขามาที่นี่เพราะภารกิจไม่ใช่เพราะต้องการจะมา ถ้าเลือกได้จะไม่มาอีกเป็นครั้งที่สอง แต่ทำไมคนอย่างสเน็คกลับเลือกที่จะมายังสนามรบเช่นที่นี่ สเน็คเล่าให้ฟังว่าเพื่อนของเขาเคยบอกไว้ว่า พวกเราไม่ใช่เครื่องมือของรัฐบาล แต่เราจะสู้เพื่อสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไรเดนถามถึง DNA ของศพที่ตรงกับสเน็ค ซึ่งสเน็คได้อธิบายว่าศพนั้นเป็นศพของลิขวิดเป็นโคลนเหมือนกับเขา ทำให้ DNA ตรงกัน
ไรเดนได้พบประธานาธิบดี และได้ถามยืนยันเรื่องที่ประธานาธิบดียอมร่วมมือเพื่อบอกรหัสให้กับผู้ก่อการร้าย ซึ่งประธานาธิบดีบอกว่านั่นเป็นเรื่องจริง ที่ทำไปเพราะว่าเขาต้องการที่จะมีอำนาจ ไรเดนบอกไปว่าท่านเป็นประธานาธิบดีท่านก็มีอำนาจอยู่แล้ว ประธานาธิบดีจึงเล่าให้ฟังว่าเขาเป็นแค่หุ่นเชิด อำนาจที่แท้จริงเบื้องหลังประเทศอเมริกานั้นเป็นของแพทริออต กลุ่มองค์กรที่ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าพวกเขาเป็นใคร สิ่งที่รู้อย่างเดียวคือพวกมันประกอบด้วยคน 12 คน เรียกว่าไวส์แมนคอมมิตตี้ ทั้งการเลือกประธานาธิบดีก็เลือกโดยพวกมันโดยจัดฉากให้เหมือนเลือกแบบประชาธิปไตย สำหรับประธานาธิบดีอย่างเขาเป็นแค่ตัวหมากที่เดินไปตามเกมที่แพทริออตได้วางไว้ ประธานาธิบดีได้บอกอีกว่าเขาต้องการที่จะใช้เมทัลเกียร์รุ่นใหม่ในการต่อรองจึงร่วมมือกับพวกโซลิดัส โซลิดัสนั้นต้องการที่จะท้าทายและทำลายแพทริออต ประธานาธิบดีได้เล่าว่า โซลิดัสเป็นหนึ่งในผลผลิตของโปรเจ็กต์ลาอองฟองเทอริเบิ้ล ที่เหลือรอดและได้รับยีนมาอย่างสมดุล แพทริออตเล็งเห็นจุดนี้จึงได้จัดให้โซลิดัสเป็นประธานาธิบดีของอเมริการู้จักกันในนามว่า จอร์จ เซียร์ (George Sears) หลังจากได้เป็นประธานาธิบดีโซลิดัสรู้ถึงพวกแพทริออตและพบว่าตัวเองเป็นประธานาธิบดีแค่ในนาม ในเหตุการณ์ชาโดวโมเสสโซลิดัสตัดสินใจส่งโอเซล็อตไปยุให้ลิขวิดนั้นขโมยเมทัลเกียร์ REX ขึ้นมา จากเหตุการณ์นั้นทำให้เขาได้รับข้อมูลการทดลอง REX และหัวรบนิวเคลียร์ แต่นั่นได้สร้างความโกรธให้กับพวกแพทริออตมาก จึงตัดสินใจปลดโซลิดัสออกจากประธานาธิบดี และได้เลือกเขา เจมส์ จอห์นสัน ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป
แพทริออต กลุ่มคนเบื้องหลังกุมอำนาจที่แท้จริงของอเมริกา
พวกแพทริออตต้องการที่จะกำจัดโซลิดัส แต่โซลิดัสนั้นได้หนีออกมา และด้วยความช่วยเหลือของโอเซล็อต เขาได้รวบรวมหน่วยเดดเซลและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับแพทริออต โดยวางแผนที่จะขโมยเมทัลเกียร์รุ่นใหม่ของแพทริออต ซึ่งเหตุการณ์เรือจมและการสร้างบิ๊กเชลนั่นก็ถูกจัดฉากโดยแพทริออต การขจัดคราบน้ำมันอะไรนั่นเป็นเรื่องเหลวไหลที่แต่งขึ้นมาเพื่อบังหน้า บิ๊กเชลสร้างเพื่อซ่อนเมทัลเกียร์รุ่นใหม่ ซึ่งเมทัลเกียร์รุ่นใหม่นั่นไม่ใช่ RAY แต่มันคืออาร์เซนอลเกียร์ (Arsenal Gear)
อาร์เซนอลเกียร์เป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ซึ่งบรรทุกมิสไซล์นับพันรวมไปถึงหัวรบนิวเคลียร์ และถูกปกป้องโดย เมทัลเกียร์ RAY ซึ่งเดิมที RAY นั้นทางนาวิกโยธินสร้างขึ้นเพื่อทำลายเมทัลเกียร์โมเดลอื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งแพทริออตได้นำ RAY มาปรับปรุงใหม่ เอาไว้ปกป้องอาร์เซนอลเกียร์
ติดตามต่อได้ที่ >> เปิดโปงชีวิตลุงสเน็ค!! ตอนจบ เรื่องราวซีรีส์เกม Metal Gear Solid ก่อนจะเป็นภาค 4 <<