ด้วยความที่ The Lords of the Rings เป็นหนึ่งในวรรณกรรมที่ได้รับความนิยมและถูกยกให้เป็นผลงานที่มีคุณค่าสูงที่สุดเรื่องหนึ่งของโลก ตามมาด้วยการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์โดยผู้กำกับ Peter Jackson ภายใต้สังกัด Warner Bros. ก็ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของคำวิจารณ์และรายได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ความพยายามดัดแปลงมาเป็นซีรีส์ของ Amazon ในชื่อ The Lord of the Rings: The Rings of Power จะถูกจับตามอง และทางค่ายเองก็รับรู้ถึงความนิยมอันล้นหลามนี้ จึงได้กล้าทุ่มงบถึง 465 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสร้างมันออกมา แต่จากข้อมูลที่ถูกเปิดเผยออกมาล่าสุด ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของซีรีส์ดังกล่าวน่าจะไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่ เพราะในสหรัฐอเมริกา จำนวนผู้ที่ดู The Rings of Power ไปจนถึงตอนสุดท้ายมีเพียง 37% ของผู้ที่เริ่มดูตอนแรกเท่านั้น
ขณะเดียวกัน แม้ยอดผู้ชมจนจบจะอยู่ที่ 45% เมื่อรวมเข้ากับสถิติจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่ Prime Video ของ Amazon เปิดให้บริการ แต่นั่นก็ไม่ผ่านเกณฑ์ที่ทางบริษัทเคยตั้งไว้ว่า จำนวนยอดผู้ชมจนจบที่พอจะรับได้ต้องถึง 50% เป็นอย่างน้อยอยู่ดี ประกอบกับทุนสร้างที่ทำสถิติเป็นซีรีส์ที่แพงที่สุดในโลก จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะมองว่า The Rings of Power เป็นซีรีส์ที่ค่อนข้างน่าผิดหวังในด้านของกระแสความนิยมแม้จะยังไม่เอาไปเทียบกับฉบับภาพยนตร์ของ Warner Bros. ก็ตาม และถึง Prime Video จะยังมีซีรีส์ที่พอจะเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอยู่บ้างอย่าง The Boys, Jack Ryan, Jack Reacher, และ The Terminal List แต่ซีรีส์เหล่านี้ก็ยังเทียบไม่ได้กับความสำเร็จของหลาย ๆ เรื่องจากแพลตฟอร์มคู่แข่งอย่าง Netflix หรือ HBO
นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า 10 อันดับซีรีส์ที่คนดูใช้เวลาอยู่กับมันนานที่สุดในปี 2022 ล้วนเป็นซีรีส์จาก Netflix ทั้ง 10 อันดับ ขณะที่ The Boys และ The Rings of Power จาก Amazon ตามมาที่อันดับ 11 และ 15 หรือถ้าจะให้ย้อนกลับไปที่ปี 2021 ก็ไม่มีซีรีส์ใดจาก Amazon ที่ติดอยู่ใน 15 อันดับแรกเลยด้วยซ้ำ แต่หากถามว่าถ้านอกเหนือจาก Netflix แล้ว มีซีรีส์ของแพลตฟอร์มไหนบ้างที่ประสบความสำเร็จ ตัวอย่างเร็ว ๆ นี้ที่น่าจะเห็นได้ชัดที่สุดก็คงไม่พ้น House of the Dragon ที่มียอดคนดูถล่มทลาย และ The Last of Us ที่มีสถิติที่น่าสนใจก็คือมีคนดูเปิดตัวเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ตอนที่ออกฉายตั้งแต่ต้นจนถึงตอนจบซีซั่นแรก อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น The Rings of Power ถูกวางไว้ให้มีเนื้อเรื่องอยู่ที่ห้าซีซั่น โดยซีซั่นที่สองจะออกฉายภายในปี 2024 ส่วนอีกสามซีซั่นที่เหลือยังไม่มีการยืนยันในตอนนี้
ที่มา: The Hollywood Reporter
ติดตามข่าวสารวงภาพยนตร์ได้ที่เว็บไซต์ online-station.net