นั่นมัน Hotline Miami ใช่มั้ยใน John Wick: Chapter 4?

John Wick Hotline Miami

ก่อนอื่นคงต้องขอแจ้งก่อนว่า บทความนี้จะกล่าวถึงรูปแบบการนำเสนอบางช่วงของ John Wick: Chapter 4 โดยที่จะไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญด้านเนื้อเรื่อง หากจะบอกว่านี่เป็นการสปอยล์ ก็คงเป็นการสปอยล์ที่เล็กน้อยเท่านั้น แต่เราก็แนะนำว่ายังไงคุณก็ควรไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้มาก่อน เพื่อให้เข้าใจในการสื่อสารของบทความนี้มากที่สุด นี่ยังไม่นับว่ามันเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมจากคำยืนยันของทั้งนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วไปด้วยนะ

ภาพจากเกม Hotline Miami

ในช่วงครึ่งหลังของเรื่องที่ John Wick ต้องสู้กับศัตรูมากมายในอาคารแห่งหนึ่ง นอกจากที่คุณ Chad Stahelski อดีตสตันต์แมนที่ผันตัวมาเป็นผู้กำกับจะสามารถถ่ายทอดฉากบู๊ในมุมมองบุคคลที่สามออกมาได้อย่างเข้มข้นและดุเดือดได้เหมือนเคยแล้ว สิ่งที่เขาเลือกถ่ายทอดในซีเควนซ์นี้ยังมีบางช่วงที่อาจทำให้เกมเมอร์หลายคนถึงกับตะโกนในใจ (แน่นอน คุณไม่ควรส่งเสียงในโรงภาพยนตร์) ว่า “เฮ่ย! นี่มัน Hotline Miami นี่หว่า!!” เมื่อมุมกล้องค่อย ๆ เลื่อนจากมุมมองบุคคลที่สามในระนาบเดียวกับตัวละคร ขึ้นมาอยู่ด้านบนจนเป็นมุมมองแบบ Bird’s-eye View เหมือนกับใน Hotline Miami ยังไงยังงั้น

ไม่เพียงแต่มุมกล้อง สิ่งที่ซีเควนซ์ดังกล่าวใน John Wick: Chapter 4 มีเหมือนกับ Hotline Miami ก็คือดนตรีประกอบที่เร้าใจ ฉากบู๊ที่ดุดัน และตัวเอกที่ลุยเดี่ยวสาดกระสุนใส่ฝูงศัตรูที่กรูกันเข้ามาไม่หยุดหย่อน แน่นอนว่าอาจมีบางคนคิดว่าซีรีส์ John Wick และ Hotline Miami มันมีส่วนคล้ายกันมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว อันจะเห็นได้ว่ามีผู้ที่ม็อดเนื้อหาของ John Wick เข้าไปในเกม Hotline Miami 2: Wrong Number เมื่อกว่าห้าปีก่อน แต่จากการให้สัมภาษณ์ของคุณ Stahelski ผู้กำกับ เขาบอกว่า แรงบันดาลใจในการใส่ซีเควนซ์มุมมองด้านบนดังกล่าวนั้นมาจากเกมที่มีชื่อว่า The Hong Kong Massacre ที่ออกมาเมื่อราวสี่ปีก่อน เพราะเขาชอบที่ตัวเกมใช้เอฟเฟกต์ประกายไฟจากปากกระบอกปืนที่ใหญ่ และเห็นชัดจากมุมมองด้านบน เลยกำกับซีเควนซ์ในหนังให้ออกมาเป็นเหมือนในเกม แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า The Hong Kong Massacre ก็น่าจะได้อิทธิพลมาจาก Hotline Miami ที่ออกมาก่อนหน้าถึงเจ็ดปีไม่มากก็น้อยเช่นกัน

เกมเพลย์ของ The Hong Kong Massacre

อย่างไรก็ตาม นี่อาจเป็นการหยิบองค์ประกอบบางอย่างจากวิดีโอเกมมาใส่ในหนังเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ผลงานการกำกับในอนาคตของคุณ Stahelski ยังไงก็เกี่ยวกับวิดีโอเกมเต็ม ๆ แน่นอน เพราะมันก็คือการดัดแปลงเกม Ghost of Tsushima ของ Sony ให้ออกมาในรูปแบบของภาพยนตร์ตามที่ได้ประกาศไปเมื่อช่วงต้นปี 2021 รวมถึง Rainbow Six ของ Ubisoft ด้วย หากแต่ภาพยนตร์ดัดแปลงจากเกมทั้งสองเรื่องยังไม่มีกำหนดเข้าฉายที่แน่ชัดในตอนนี้


ติดตามข่าวหนังอื่น ๆ ได้ที่ online-station.net

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้