ซีรีส์ The Last of Us ตอนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ LGBTQ+ เป็นตอนที่ได้คะแนนรีวิวต่ำสุด

จบกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับซีรีส์ The Last of Us ที่ออกฉายทาง HBO และเนื่องในโอกาสที่ซีซั่นแรกเพิ่งจะจบไป ทางเว็บไซต์ IMDB จึงได้นำคะแนนรีวิวในแต่ละตอนมาโพสต์ให้ชมกัน แต่กลายเป็นว่าตอนที่ได้คะแนนต่ำที่สุดดันกลายเป็นตอนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ LGBTQ+ เสียอย่างนั้น ซึ่งก็คือตอนที่ 3 และตอนที่ 7 นั่นเอง

The Last of Us

กลายเป็นตอนที่คะแนนต่ำสุดแบบงง ๆ

โดยหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ตอนทั้งสองมีคะแนนต่ำกว่าใครก็หนีไม่พ้นการรีวิวบอมบ์ หรือก็คือการที่มีผู้ชมเข้ามารุมถล่มด้วยการกดคะแนน 0 หรือ 1 ให้อย่างหนัก สาเหตุก็เนื่องมาจากความไม่พอใจที่ในเนื้อเรื่องมีเนื้อหาเกี่ยวกับ LGBTQ+ ด้วย โดยเฉพาะซีรีส์ตอนที่ 7 “Left Behind” ที่ได้คะแนนรีวิวไปเพียงแค่ 7.4 เท่านั้น ทำให้ตอนที่ว่านี้กลายเป็นตอนที่มีคะแนนต่ำที่สุดในจำนวนตอนทั้งหมด 9 ตอนค่ะ

สำหรับเนื้อหาในตอนที่ 7 นี้จะเล่าถึงเรื่องราวชีวิตในอดีตของเอลลี่กับไรลีย์ เพื่อนซี้ที่ไม่ใช่แค่เพื่อนของเธอ และถึงแม้เนื้อหาในซีรีส์จะถอดแบบมาจาก DLC Left Behind ชนิดแทบเหมือนเป๊ะ แต่มันก็ยังทำให้ผู้ชมหลายคนไม่พอใจถึงขั้นที่หาว่าแย่กว่าตอนที่ 3 เสียอีก แต่เมื่อดูจากผลคะแนนแล้ว ตอนที่ 3 ซึ่งเป็นตอนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ LGBTQ+ ไม่ต่างกันก็ได้คะแนนรีวิวไปที่ 8 จาก 10 คะแนนเท่านั้น จึงได้อันดับรองบ๊วยไปครองค่ะ

The Last of Us

ด้านเหตุผลหลัก ๆ ที่ชาวเน็ตหลายคนมักจะหยิบยกมาอ้างกันก็คือการที่ตอนทั้งสองนี้มันดูคล้ายหนังดราม่ารัก ๆ ใคร่ ๆ แทนที่จะเป็นหนังเกี่ยวกับชีวิตหลังโลกล่มสลาย แต่ถึงจะโดนรีวิวบอมบ์ไปหนักแค่ไหน เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าซีรีส์ The Last of Us เป็นซีรีส์จากเกมที่ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามได้อยู่ดี ดั่งที่จะเห็นได้จากคะแนนในแต่ละตอนที่เฉลี่ยแล้วก็สูงกว่า 8 แทบทั้งนั้นค่ะ

แปลและเรียบเรียงจาก
https://www.unilad.com/film-and-tv/the-last-of-us-episodes-attacked-by-review-bombers-cop-lowest-scores-407289-20230315


ติดตามข่าวภาพยนตร์อื่น ๆ ได้ที่ https://www.online-station.net

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้