เจาะประเด็นน่าสนใจหลังดูซีรีส์ The Last of Us ตอนที่ 9 (จบซีซั่นแรก)

จบไปแล้วเรียบร้อยนะครับกับซีรีส์ The Last of Us ซีซั่นแรกทาง HBO ซึ่งก็ครอบคลุมเนื้อหาของเกมภาคแรกจนครบ แต่จะมีเนื้อหาบางประเด็นที่เล่าหรือนำเสนอในรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากเวอร์ชั่นเกมอยู่ และเนื่องจากที่ทาง Naughty Dog กับ HBO ได้เคยออกมายืนยันตั้งแต่ซีรีส์เริ่มฉายใหม่ ๆ แล้วว่าจะมีการทำซีซั่น 2 แน่นอน ทางเราก็เลยขอนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ที่น่าจะเชื่อมโยงไปยังซีซั่น 2 กันสักหน่อย มาชมกันเลยดีกว่าครับ

เพื่อน ๆ สามารถชมคอนเทนต์พูดคุยเกี่ยวกับอีสเตอร์เอ้กต่าง ๆ ในซีรีส์ The Last of Us ตอนที่ 9 (จบซีซั่นแรก) ได้ที่คลิปด้านล่างครับ

บทความนี้มีการสปอยล์เนื้อหาซีรีส์ The Last of Us และเกม The Last of Us ทั้งสองภาค

ตอนที่เอลลี่ถูกกลุ่มไฟร์ฟลายนำตัวไปขึ้นเตียงผ่าตัด เพื่อสกัดเอาเนื้อเยื่อในสมองมาทำวัคซีนต้านเชื้อรา ประเด็นนี้ในเกมจะมีการเล่าที่ต่างจากซีรีส์ครับ โดยในเกมนั้นเอลลี่จะถูกพาตัวมาในสภาพหมดสติ เนื่องจากจมน้ำมา ต่างจากในซีรีส์เอลลี่จะไม่หมดสติ (สังเกตจากคำพูดของมาร์ลีนที่บอกว่าเอลลี่แสดงความเป็นห่วงโจลด้วย)

จากที่กล่าวไปข้างต้น ความต่างตรงนี้มันเลยทำให้ความชอบธรรมของกลุ่มไฟร์ฟลายกับโจลดูแตกต่างกันไปด้วยครับ เพราะในเวอร์ชั่นเกมนั้นไฟร์ฟลายจะไม่มีการถามความสมัครใจของเอลลี่เลยว่าเธอยินยอมจะสละชีวิตตัวเองเพื่อแลกมาซึ่งโอกาสในการทำวัคซีนหรือไม่ (เพราะเอลลี่หมดสติอยู่แต่แรกแล้ว) ดังนั้นพอโจลบุกไปชิงตัวเอลลี่มา น้ำหนักของคนเล่นเลยเอียงไปทางโจลที่ไม่อยากเสียเอลลี่ที่ตัวเองรักเหมือนลูกสาวมากกว่า

ขณะที่ในเวอร์ชั่นซีรีส์จะมีการเล่าให้คนดูเข้าใจว่าเอลลี่น่าจะยินยอมที่จะเข้ารับการผ่าตัดเอง ส่วนหนึ่งก็เพราะเอลลี่ไม่ได้หมดสติ ซึ่งในซีรีส์จะมีการปูเรื่องมาตลอดว่าเอลลี่มีความรู้สึกผิดในฐานะที่ตัวเองเป็นผู้ที่มีภูมิคุ้มกัน และต้องเห็นคนรอบตัวตายไปทีละคน ไม่ว่าจะเป็นไรลีย์ เทส แซม และเฮนรี่ ฯลฯ เธอจึงมีความคิดว่าถ้าภูมิคุ้มกันของเธอทำประโยชน์ให้มนุษยชาติได้ เธอก็ยินดีที่จะทำ พอเรื่องราวมาทรงนี้ ไฟร์ฟลายก็เลยดูมีความชอบธรรมมากขึ้น สวนทางกับฝั่งโจลที่พอเข้าใจแล้วว่าเอลลี่ยินดีที่จะตายจากไป แต่ก็ทำใจไม่ได้ และไม่อยากเสียเอลลี่ไป เลยบุกไปชิงตัวมา พร้อมกับยอมสาบานกับเอลลี่ ทั้ง ๆ ที่เอลลี่รู้ดีว่าโจลโกหก แม้ว่าสิ่งที่โจลทำไปอาจจะพอเข้าใจได้ แต่ถ้ามองในมุมของเอลลี่ เธอเองก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ความชอบธรรมของฝั่งโจลก็เลยดูลดลงตามไปด้วยนั่นเอง

ช่วงที่โจลบุกชิงตัวเอลลี่ในโรงพยาบาลในตอนท้าย จะเห็นได้ว่ามีฉากหนึ่งที่มีตัวละครเด็กผู้หญิงวิ่งผ่านหน้ากล้องไป ซึ่งจุดที่น่าสนใจก็คือนอกจากเด็กผู้หญิงคนนั้นจะมีโครงสร้างร่างกายที่ค่อนข้างใหญ่แล้ว เธอยังมีผมเปียที่ถือเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของตัวละครแอ๊บบี้อีกด้วย (ลองชมได้ที่คลิปด้านล่าง) และถ้าหากเธอคนนี้คือแอ๊บบี้จริง เราอาจได้เห็นประเด็นใหม่ ๆ ที่ทีมงานพยายามนำเสนอเกี่ยวกับตัวละครนี้ หรืออาจจะมีการเปลี่ยนที่มาที่ไปของแอ๊บบี้เป็นอย่างอื่นที่ไม่เหมือนในเกมเลยก็ได้

Is that a braid hair? 😶
by u/renanzokk in thelastofus

เมื่อเร็ว ๆ นี้ทางทวิตเตอร์ของ DomTheBomb ก็ได้โพสต์ข้อความที่เป็นการรวมข้อมูลของซีรีส์ซีซั่น 2 เท่าที่มีการยืนยันจากทาง Naughty Dog หรือ HBO ในตอนนี้ โดยรายละเอียดมีดังนี้ครับ

The Last of Us Season 2:
– Will be different than the games
– Bella Ramsey will return as Ellie
– Will have much more infected
– Will cover The Last of Us Part 2 story
– Won’t cover the whole second game
– Filming could start later this year
– New kinds of infected are coming
-… https://t.co/o87700IEbL pic.twitter.com/MJPDZDyPtz
— DomTheBomb (@DomTheBombYT) March 13, 2023

ตัวซีซั่น 2 จะมีเนื้อหาแตกต่างไปจากเวอร์ชั่นเกม
น้องเบลล่า แรมซีย์ (Bella Ramsey) จะยังคงรับบทเป็นเอลลี่เหมือนเดิม
ซีซั่น 2 จะมีเหล่าผู้ติดเชื้อปรากฏตัวมากกว่าซีซั่นแรกมาก
เนื้อหาจะอิงเกมภาค 2 แต่ไม่ได้ครอบคลุมเนื้อหาเกมภาค 2 ทั้งหมด
จะเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำภายในปีนี้
จะมีผู้ติดเชื้อรูปแบบใหม่ปรากฏในซีซั่น 2 ด้วย
จะมีการขยายประเด็นเกี่ยวกับระบบโครงข่ายเชื้อราที่เชื่อมโยงกันของเหล่าผู้ติดเชื้อ ซึ่งเคยถูกพูดถึงมาก่อนในตอนที่ 2 ของซีซั่นแรก
ผู้ชมจะได้เห็นการผนวกหรือสอดประสานกันของพวกสปอร์ด้วยเช่นกัน
แอ๊บบี้และเอลลี่จะมีมุมมองหรือทัศนคติที่แตกต่างออกไปจากเกม
จะมีการนำเสนอเรื่องราวของตัวละครเสริมให้ชมกัน เหมือนที่ซีซั่นแรกเคยมีการเล่าเรื่องของบิลกับแฟรงค์กันมาแล้ว
กำหนดฉายอยู่ในช่วงปี 2024-2025
จะมีการเล่าขยาย หรือขยี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างโจลกับเอลลี่หลังจบซีซั่นแรกด้วย
มีการเล่าถึงบทหรือแง่มุมที่เอลลี่แสดงหรือใช้ความรุนแรงให้เห็น

แน่นอนครับว่าในซีซั่น 2 เราคงจะได้เห็นตัวละครดีน่ากันอีกครั้ง ซึ่งใครที่เคยเล่นเกมภาค 2 มาจะรู้ว่าเธอคนนี้เป็นคนรักของเอลลี่ และทั้งคู่ก็พบกันครั้งแรกในแจ็คสัน ซึ่งเป็นเมืองที่ ทอมมี่ น้องชายของโจลสร้างครอบครัวอยู่ที่นี่ และในเมื่อข้อมูลคอนเฟิร์มเกี่ยวกับซีซั่น 2 ที่บอกว่าซีรีส์จะมีเนื้อหาแตกต่างจากเกมด้วย ทำให้น่าคิดนะครับว่าบทบาทของดีน่าในซีซั่น 2 จะออกมาเป็นแบบไหนกันแน่

ขณะเดียวกัน สิ่งที่เราคาดว่าจะได้เห็นมากกว่านี้คือกลุ่มสังคมที่ปรากฏในเกมภาค 2 อย่าง WLF ที่เป็นกลุ่มที่แอ๊บบี้สังกัด และกลุ่มเซราไฟต์ (สการ์) ที่เป็นกลุ่มที่ยารากับเลฟเคยอยู่มาก่อนจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรให้ขยี้หรือเล่าขยายเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะปมประเด็นที่มาที่ไปของสองกลุ่มนี้ค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อย ไหนจะมีกลุ่มแรตเลอร์ที่เอลลี่ได้ไปเจอในเมืองซานต้าบาร์บาร่าช่วงท้ายเกมภาค 2 อีกต่างหาก