วันนี้ซีรีส์ The Last of Us ของ HBO ก็ได้ฤกษ์ฉายตอนที่ 4 แล้วนะครับ และเนื้อหาอันเข้มข้นในตอนนี้ก็ยังคงมีการอิงจากเกมมาไม่น้อย รวมถึงส่วนที่มีการบิดหรือดัดแปลงด้วยเหตุผลการดำเนินเรื่องในรูปแบบซีรีส์ด้วย โดยทางทีมงาน Online Station ก็มีบทเจาะลึกและคัดเลือกคัดภาพมาเปรียบเทียบกันระหว่างซีนในเกมกับซีนในซีรีส์ (เฉพาะช็อตที่สำคัญ) มาฝากกันเหมือนกัน เรามาชมกันเลยดีกว่าครับว่ามีอะไรเด็ด ๆ บ้าง
ซีรีส์ The Last of Us ตอนที่ 4
***บทความนี้มีการสปอยล์เนื้อหาเกมและซีรีส์ The Last of Us***
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
- เริ่มมาจะเป็นฉากที่เอลลี่ซ้อมถือปืนหน้ากระจกในห้องน้ำ โดยฉากนี้จะมีความคล้ายคลึงกับฉากซ้อมถือปืนหน้ากระจกของตัวละครทราวิส บิกเคิล (Travis Bickle) ที่แสดงโดยโรเบิร์ต เดอ นีโร (Robert De Niro) จากภาพยนตร์เรื่อง Taxi Driver ที่ฉายเมื่อปี 1976 ครับ ซึ่งก็ไม่อาจทราบได้ว่าทีมงานได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่องนี้หรือไม่
- หลังเอลลี่ออกมาจากปั๊มน้ำมันร้าง ก็พบกับโจลที่กำลังสูบน้ำมันจากรถคันอื่นอยู่ ซึ่งในซีรีส์จะไม่มีบอกไว้ครับว่าโจลได้สายสูบน้ำมันมาตอนไหน แต่ก็คือเดาได้กลาย ๆ ว่าเป็นตอนที่โจลมาบ้านบิลนั่นแหละ โดยในเกมจะมีฉากที่บิลให้สายสูบน้ำมันกับโจลไว้ก่อนจะแยกทางกัน พร้อมกับบอกว่าระหว่างทางที่โจลขับรถไปก็น่าจะเจอรถบางคันที่มีน้ำมันหลงเหลือพอให้สูบมาใช้ได้ครับ
- ระหว่างที่โจลยังสูบน้ำมันไม่เสร็จ เอลลี่ก็หยิบเอาหนังสือมุกตลกที่ชื่อ No Pun Intended ซึ่งแต่งโดยวิล ลิฟวิงสตัน (Will Livingston) มาอ่านมุกให้โจลฟัง ตรงนี้หากใครเคยเล่นเกม The Last of Us Part 1 ที่เป็นเวอร์ชั่นรีเมคของเกมภาคแรก ตัวเกมจะมีซับไทยและทำการแปลชื่อหนังสือเล่มนี้ไว้ว่า “ไม่ได้ตั้งใจจะฝืด” ครับ
- พอขับรถเดินทางกันต่อ เอลลี่ก็หยิบเทปคาสเซ็ตของนักร้องที่ชื่อแฮงค์ วิลเลียมส์ (Hank Williams) มาให้โจลเปิดฟัง โดยเพลงที่เปิดมีชื่อว่า Alone and Forsaken ที่วางแผงครั้งแรกในช่วงปี 1951 ซึ่งคำว่า Alone and Forsaken เป็นชื่อแชปเตอร์หนึ่งในเกม The Last of Us ภาคแรก ช่วงที่โจลกับเอลลี่เดินทางไปยังเมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ขณะที่ประโยคหนึ่งในเนื้อร้องของเพลงนี้จะมีระบุว่า Please hold to my hand ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับชื่อตอนที่ 4 ของซีรีส์ด้วย
- เพื่อน ๆ ลองฟังเพลง Alone and Forsaken จากช่องออฟฟิเชียลของ Hank Williams ได้ที่ลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=Y79f-DZLaNc
- สักพักเอลลี่ก็จะหยิบนิตยสารแนวชายรักชายขึ้นมาดูบนรถ ตรงจุดนี้ในเกมก็จะมีคัตซีนแบบเดียวกันให้ชมด้วย พร้อมกับมุกทะลึ่งที่เอลลี่แหย่โจลว่าทำไมบางหน้ามันติดกันเป็นปึกแบบนี้ก็ยังมีแถมมาให้
- ช่วงที่รถกำลังแล่น จะมีอยู่ซีนหนึ่งที่เห็นป้ายของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ที่มีโลโก้ของร้านอาร์บีส์ (Arby’s) อยู่ด้านล่าง (ในวงกลมสีแดง) หากเพื่อน ๆ ยังจำซีรีส์ตอนที่ 3 ได้ ฉากที่บิลดึงแฟรงค์ขึ้นมาจากหลุม บิลจะพูดบอกให้แฟรงค์ไปหาอาหารฟรีกินจากร้านอาร์บีส์เอาเอง แล้วแฟรงค์จะตอบกลับไปว่าอาร์บีส์เป็นร้านขายอาหารนะ ไม่ใช่สถานที่แจกอาหาร ซึ่งน่าจะมีความเชื่อมโยงกันแบบอ้อม ๆ อย่างที่กล่าวมาครับ
- มีอีกช็อตหนึ่งที่เอลลี่ทักโจลว่ากาแฟไม่เห็นจะมีกลิ่นน่าดื่มเลย แล้วโจลก็เลยซดกาแฟให้ดูเป็นการบอกว่าตนเองมีความชอบต่อกาแฟมากแค่ไหน ซึ่งในเกมจะมีบอกอยู่นิดหน่อยครับว่าโจลนั้นโหยหากาแฟเป็นอย่างมาก ขนาดที่ว่าตัวเองไปเจอเครื่องทำกาแฟในโรงแรมแล้วเกิดบทสนทนาขึ้นมาเลยว่าเจ้าตัวคิดถึงกาแฟจริง ๆ
- ช่วงท้ายของการซีนนั่งรถ โจลจะถามเอลลี่ว่าทำไมไม่นอนหลับเอาแรง เอลลี่เลยบอกว่านางยังไม่เหนื่อย สุดท้ายภาพตัดมาอีกทีคือเอลลี่อยู่ในสภาพหลับปุ๋ย โดยเฉพาะเวอร์ชั่นซีรีส์นี้จะเห็นเอลลี่นอนอิ่มอร่อยเลย
- คราวนี้มาถึงจุดที่เวอร์ชั่นซีรีส์มีความแตกต่างจากเกมบ้างครับ โดยเวอร์ชั่นเกมนั้นโจลกับเอลลี่ได้นั่งรถจากรัฐแมสซาชูเซ็ตส์มายังเมืองพิตต์สเบิร์กที่อยู่ในรัฐเพนซิลเวเนีย (เขต Northeast / วงกลมสีน้ำเงิน) แต่ในเวอร์ชั่นซีรีส์มีการเปลี่ยนโลเคชั่นว่าทั้งคู่เดินทางมาถึงเมืองแคนซัสซิตี้ที่ตั้งอยู่ในรัฐมิสซูรีแทน (เขต Midwest / วงกลมสีแดง) ซึ่งเรียกว่าเดินทางมาไกลกว่าเวอร์ชั่นเกมพอสมควร เป้าหมายของทั้งคู่ที่จะไปหาทอมมี่ยังคงเป็นสถานที่เดียวกันคือรัฐไวโอมิ่ง (วงกลมสีส้ม)
- ตอนเดินทางเข้าเมืองแคนซัสซิตี้ จะมีอยู่ช็อตหนึ่งที่กล้องจะแพนมาทางกองซากศพที่ถูกเผา ทำให้เรารู้ว่าเมืองนี้น่าจะมีผู้คนอาศัยอยู่ ซึ่งในเวอร์ชั่นเกมก็จะมีบริเวณที่โจลกับเอลลี่พบกองซากศพที่ถูกกลุ่มฮันเตอร์เผาด้วยเช่นกัน หลังจากมาถึงพิตต์สเบิร์กได้ไม่นาน (รูปขวา / วงกลมสีแดง)
- เมื่อมาถึงแคนซัสซิตี้ โจลกับเอลลี่พบว่าเขตกักกันของเมืองดังกล่าวไม่เหลือสภาพของเขตกักกันแล้ว ทันใดนั้นก็มีชายคนหนึ่งโผล่มาด้านหน้ารถพร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งโจลรู้ดีว่านั่นเป็นแผนดักปล้นของพวกโจร โดยในเวอร์ชั่นเกมก็มีฉากที่ว่านี้เช่นกัน
- ทันทีที่โดนซุ่มโจมตี รถที่โจลกับเอลลี่นั่งมาก็โดนวางเรือใบจนเสียหลักไปชนกับร้านตู้ซักผ้าหยอดเหรียญเข้า ซึ่งในเวอร์ชั่นเกมนั้นร้านที่โจลกับเอลลี่ขับรถพุ่งไปชนจะเป็นร้านขายของชำแทน ส่วนร้านตู้ซักผ้าหยอดเหรียญจะไปปรากฏตั้งแต่เนื้อเรื่องตอนเจอบิลครับ
- แคธลีน (Kathleen) เป็นตัวละครใหม่ที่ปรากฏตัวครั้งแรกในเวอร์ชั่นซีรีส์ รับบทโดยเมลานี ลินสคีย์ (Melanie Lynskey) โดยแคธลีนเป็นผู้นำของกลุ่มกบฎที่ไม่พอใจการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐฯ ในเขตกักกันของเมืองแคนซัสซิตี้ จนปลุกระดมผู้คนและทำการยึดอำนาจมาได้สำเร็จ
- ถัดมาเป็นตัวละครที่มีชื่อว่า เพอร์รี่ (Perry) ที่แสดงโดยเจฟฟรีย์ เพียร์ซ (Jeffry Pierce) ซึ่งเจฟฟรีย์คนนี้คือนักพากย์เสียงตัวละครทอมมี่ (Tommy) น้องชายของโจลในเกม The Last of Us ทั้งสองภาคนั่นเอง สำหรับเพอร์รี่นั้นมีความสำคัญเป็นสมุนมือขวาของแคธลีนครับ
- ไม่นานนัก เพอร์รี่ก็เรียกแคธลีนเข้ามาดูรอยแตกบริเวณชั้นใต้ดินของอาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าพวกผู้ติดเชื้อที่อยู่เบื้องล่างเตรียมจะแห่ขึ้นมาในอีกไม่นานนี้ ตรงนี้ก็พอเดาได้กลาย ๆ ว่าในบรรดาพวกผู้ติดเชื้อที่เตรียมโผล่มาเซอร์ไพรส์น่าจะมีโบลตเตอร์ (Bloater) ผู้ติดเชื้อระยะที่ 4 ที่ได้รับเชื้อราเข้าสู่ร่างกายมานานหลายปีอยู่ด้วยค่อนข้างแน่นอน
- ช่วงที่โจลกับเอลลี่หนีการตามล่าของแคธลีนและกลุ่มกบฎของนาง โจลได้สอนวิธีจับปืนพกให้กับเอลลี่ เพื่อใช้ในการป้องกันตัวยามคับขัน ซึ่งคล้ายกับฉากโจลสอนเอลลี่ยิงปืนไรเฟิลในเกม ตอนที่โจลจะลงไปบู๊กับพวกกลุ่มฮันเตอร์ด้านล่าง โดยให้เอลลี่คอยยิงคุ้มกันให้
- ช่วงท้ายของตอนที่ 4 จะมีอยู่ซีนหนึ่งที่เอลลี่ถามโจลว่าเขาเคยสังหารผู้บริสุทธิ์ไปบ้างหรือเปล่า ทว่าโจลเลือกที่จะไม่ตอบอะไร และในเวอร์ชั่นเกม โจลก็ไม่ได้ตอบคำถามนี้เหมือนกัน เอลลี่เลยขอเข้าใจว่าโจลน่าจะเคยฆ่าคนบริสุทธิ์มาก่อน โจลเลยบอกว่าจะคิดยังไงก็แล้วแต่เธอเลย
- ท้ายสุดของตอนที่ 4 นี้จะเป็นซีนที่เฮนรี่กับแซมลอบเข้ามาเอาปืนจ่อโจลกับเอลลี่ขณะนอนหลับ ซึ่งโจลพลาดท่าไม่รู้ตัวเลยเพราะตัวเองดันนอนทับหูข้างซ้ายอยู่ ส่วนหูขวาของโจลนั้นมีปัญหาเรื่องการได้ยิน เนื่องจากผ่านการยิงปืนต่อสู้เอาชีวิตรอดมาเป็นเวลานาน จนหูข้างขวาไม่ดีเหมือนคนปกติทั่วไป
- นอกจากนั้นแล้ว เนื้อหาในซีรีส์ยังมีการปรับเปลี่ยนที่มาที่ไปของเฮนรี่กับแซมเช่นกัน โดยในเกมแซมจะเล่าว่าตนเองกับเฮนรี่มาจากกลุ่มผู้รอดชีวิตกลุ่มหนึ่ง แต่กระจัดกระจายกันจนเหลือเพียงแค่สองพี่น้อง เลยคิดว่าคนอื่นน่าจะตายหมดแล้ว ขณะที่ในซีรีส์จะปูเรื่องมาประมาณว่าทั้งคู่หลบหนีมาจากกลุ่มกบฎที่ยึดพื้นที่เมืองแคนซัสซิตี้แทน
ติดตามข่าวภาพยนตร์อื่น ๆ ได้ที่ https://www.online-station.net/movies/