ในที่สุดวันนี้ (23 มกราคม) ก็เป็นวันที่ทาง HBO ได้ฉายซีรีส์ The Last of Us ตอนที่ 2 แล้วนะครับ ซึ่งเนื้อหาสำหรับตอนนี้จะมีส่วนที่อิงจากเกมมาเพียบ รวมถึงส่วนที่มีการบิดหรือดัดแปลงด้วยเหตุผลการดำเนินเรื่องในรูปแบบซีรีส์ด้วย โดยทางทีมงาน Online Station ก็มีบทเจาะลึกและคัดเลือกคัดภาพมาเปรียบเทียบกันระหว่างซีนในเกมกับซีนในซีรีส์ (เฉพาะช็อตที่สำคัญ) เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้เห็นภาพชัดขึ้น ว่าแล้วเรามาชมกันเลยดีกว่าครับว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
**อัปเดต - มีเป็นเวอร์ชั่นคลิปรายการ OS Update แล้วนะครับ**
ซีรีส์ The Last of Us ตอนที่ 2
***บทความนี้มีการสปอยล์เนื้อหาเกมและซีรีส์ The Last of Us***
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
- ในช่วงแรกที่ รัตนา ผู้เชี่ยวชาญด้านเชื้อราวิทยาจากอินโดนีเซียที่ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเชิญมาตรวจสอบเชื้อที่พบในร่างกายของมนุษย์ หลังจากเธอส่องกล้องดูก็พบว่ามันคือเชื้อราโอฟิโอคอร์ดิเซปส์ (Ophiocordyceps) ซึ่งเป็นเชื้อราตระกูลเดียวกับที่มักงอกในร่างกายแมลงคลาน จำพวกหนอนหรือมด จากนั้นก็เติบโตจนเข้าควบคุมการเคลื่อนไหวของแมลงที่เป็นร่างพาหะแบบเบ็ดเสร็จ

- ฉากในประเทศอินโดนีเซียนั้นเป็นฉากที่เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชั่นซีรีส์ ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมทีมงานถึงเลือกใช้อินโดนีเซียเป็นโลเคชั่นในการเล่าเหตุการณ์ช่วงวันเกิดเหตุแพร่ระบาดของเชื้อใน EP.2 ตรงนี้ "คาดว่า" อาจจะเพราะอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีที่ตั้งอยู่แถบเส้นศูนย์สูตร และมีภูมิอากาศร้อนชื้นเป็นส่วนใหญ่ สอดคล้องกับคำพูดของ ดร. นิวแมน (Dr. Neuman) ที่ออกรายการทอล์คโชว์ในตอนต้นของ EP.1 ซึ่งเจ้าตัวกล่าวว่าหากโลกเรามีอุณหภูมิสูงขึ้นจากภาวะโลกร้อน การที่เชื้อราจะไปโตในร่างกายมนุษย์ก็อาจมีความเป็นไปได้ ดังนั้นอินโดนีเซียจึงน่าจะเป็นหนึ่งในประเทศที่เชื้อรามรณะนี้สามารถกลายพันธุ์มาโตในร่างมนุษย์ได้ก่อนเพื่อนนั่นเอง
- หลังจากที่รัตนาทำการชันสูตรศพผู้ติดเชื้อเสร็จ ก็รับทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ว่าหญิงสาวคนดังกล่าวทำงานอยู่ในโรงงานแป้งและธัญพืช และนึกได้ว่าสองสิ่งนี้เป็นอาหารเพาะเลี้ยงเชื้อราชั้นเยี่ยม โดยในช็อตนี้ขอให้เพื่อน ๆ นึกย้อนไปใน EP.1 ตอนที่ซาราห์ (ลูกสาวของโจล) แวะไปเยี่ยมคุณป้าข้างบ้านครับ และป้าข้างบ้านมีพูดว่าเขากำลังจะทำคุกกี้ไส้ลูกเกด ซึ่งคุกกี้เป็นขนมที่มีส่วนผสมของแป้ง อีกทั้งลูกเกดก็เป็นธัญพืชชนิดหนึ่ง กอปรกับคุณยายของบ้านนั้นก็ต้องเข้าเมืองไปรับการตรวจอยู่เป็นระยะ เมื่อนำองค์ประกอบปลีกย่อยเหล่านี้มาปะติดปะต่อกัน เลยน่าจะมีความเป็นไปได้อย่างแรกว่าคุณยายอาจจะเริ่มติดเชื้อมาจากในเมือง และมีคุกกี้ที่กินเข้าไปเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา หรือในความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ คุณยายอาจจะติดเชื้อจากการกินคุกกี้ครับ



- ระหว่างที่โจล เทส และเอลลี่ เดินเท้าไปจนเจอหลุมขนาดยักษ์ที่ทางการเคยทิ้งระเบิดไว้เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อรา หลังจากนั้นไม่นานจะมีช็อตที่ทั้งสามคนเดินผ่านรถคันหนึ่งที่มีตุ๊กตายีราฟวางอยู่บนพื้น โดยนี่คาดว่าเป็นอีสเตอร์เอ้ก (Easter Egg) ที่อ้างอิงถึงฉากสุดทัชใจที่อยู่ช่วงท้ายเกมภาคแรก ใครที่เคยเล่นเกมมาแล้วคงร้องอ๋อกันแน่นอน

- ใครที่เคยเล่นเกม The Last of Us มาก่อนคงพอทราบว่าฉากล็อบบี้โรงแรมที่มีน้ำท่วมขังนั้นจะอยู่ในช่วงที่โจลกับเอลลี่เดินทางมาถึงเมืองพิตส์เบิร์กแล้ว (เลยเนื้อเรื่องช่วงเจอบิลมาอีก) แต่ในเวอร์ชั่นซีรีส์มีการนำฉากโรงแรมมาใส่ไว้กันตั้งแต่โจล เทส และเอลลี่ยังไม่ออกจากเมืองบอสตันเลยด้วยซ้ำ


- ตอนที่โจลส่งเทสปีนขึ้นไปบนซาก เพื่อหาทางเปิดประตูจากอีกด้าน ระหว่างนั้นจะมีบทสนทนาระหว่างโจลกับเอลลี่ ซึ่งเอลลี่ถามโจลว่าพวกผู้ติดเชื้อนั้นมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน โจลก็ตอบว่าบางตัวอยู่ได้แค่ 1-2 เดือน ขณะที่บางตัวอยู่เพ่นพ่านได้นานเป็นปี ๆ โดยที่ไม่ตาย จุดนี้จะเป็นการเคลียร์ปมจากศพผู้ติดเชื้อตรงผนังใน EP.1 ที่โจลกับเทสไปเจอเข้า ก่อนที่จะปีนขึ้นไปพบกับมาร์ลีน เลยทำให้เรารู้ว่าผู้ติดเชื้อที่โจลไปเจอก็คือพวกอายุสั้นที่กลายเป็นซากคาผนังนั่นเอง


- ก่อนจะออกจากโรงแรมไปที่พิพิธภัณฑ์ เทสได้พาเอลลี่มาดูบรรดาผู้ติดเชื้อที่อยู่เบื้องล่าง เอลลี่สังเกตได้ว่าผู้ติดเชื้อที่นอนก่ายกองกันมีปฏิกิริยาเหมือน ๆ กันเวลาแสงแดดสาดส่องมาโดนตัว เทสเลยกล่าวเสริมว่าพวกผู้ติดเชื้อเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกันผ่านเชื้อราที่เติบโตในลักษณะโครงข่ายอยู่ใต้ดิน เพียงแค่หากใครเผลอไปเหยียบโดนเชื้อราจากจุดหนึ่งก็จะทำให้ผู้ติดเชื้อที่อยู่ระยะไกลรู้ตัวและพากันเคลื่อนที่มายังจุดที่มีคนเหยียบได้ในเวลาไม่นาน โดยนับว่าเป็นคุณสมบัติแบบใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในซีรีส์ ซึ่งเวอร์ชั่นเกมนั้นผู้ติดเชื้อเวลาพบตัวเราก็จะเป็นการ Alert ผู้ติดเชื้อคนอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงให้เข้ามารุมเราได้ แต่ไม่มีการเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายครับ

- พอเอาตัวรอดจากผู้ติดเชื้อมาได้ ซีนตอนออกจากพิพิธภัณฑ์ของเกมกับซีรีส์จะแตกต่างกันเล็กน้อยครับ โดยของเกมจะเป็นการออกนอกหน้าต่างแล้วขึ้นบันไดหนีไฟไปบนดาดฟ้า แต่ของซีรีส์จะออกหน้าต่างจากห้องใต้หลังคามาโผล่ดาดฟ้าเลย อย่างไรก็ตาม ฉากชมวิวที่เห็นยอดอาคารรัฐสภายังคงมีเหมือนกันทั้งสองเวอร์ชั่น




- ท้ายซีรีส์ EP.2 จะมีการเปลี่ยนพล็อตในช่วงที่โจล เทส และเอลลี่เดินทางมาถึงอาคารรัฐสภาของกรุงบอสตัน ซึ่งเป็นจุดนัดพบกับกลุ่มไฟร์ฟลายอยู่พอสมควรครับ อย่างแรกเลยก็คือในเกมนั้นทั้งสามคนจะพบว่ากลุ่มไฟร์ฟลายได้ถูกเจ้าหน้าที่จาก FEDRA บุกมาวิสามัญจนเกลี้ยง สวนทางกับเวอร์ชั่นซีรีส์ที่เล่าว่ากลุ่มไฟร์ฟลายมีคนติดเชื้อ และเกิดการต่อสู้กันเองกับสมาชิกคนที่เหลือที่ไม่ติดเชื้อ ทำให้เสียชีวิตทั้งหมด และเมื่อเทสเฉลยว่าตนเองเพิ่งจะติดเชื้อจากการต่อสู้กับคลิกเกอร์ในพิพิธภัณฑ์มา เป็นจังหวะไล่เลี่ยกับที่โจลสังหารคนของไฟร์ฟลายที่ติดเชื้อ และไปเหยียบถูกเส้นที่เป็นโครงข่ายข้างศพผู้ติดเชื้อเข้า จึงเป็นการไปสะกิดผู้ติดเชื้อคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบบริเวณให้พุ่งมายังอาคารรัฐสภาทันที
- ทางด้านเทสที่ตัดสินใจอยู่ถ่วงเวลาฝูงผู้ติดเชื้อเพื่อให้โจลกับเอลลี่หนีเอาตัวรอดแค่สองคน ก็จะมีการเพิ่มช็อตที่ผู้ติดเชื้อรายหนึ่งพยายามเข้ามากระตุ้นเชื้อในร่างกายเทส ก่อนที่เทสจะทำการระเบิดผู้ติดเชื้อทั้งหมดไปพร้อมเธอได้สำเร็จ ซึ่งในเกมจะมีช่วงที่โจลกับเอลลี่ต้องบุกฝ่ากองทัพของ FEDRA อีกเล็กน้อยก่อนออกนอกอาคารได้ แต่ในซีรีส์จะตัดจบในลักษณะที่โจลกับเอลลี่หนีมานอกอาคารก่อนระเบิดแทน ทั้งสองเวอร์ชั่นจะมีความอิมแพ็คกับความรู้สึกผู้ชม/ผู้เล่นคนละแบบ แต่ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กันเลย




- ช็อตที่เทสหยิบไฟแช็คขึ้นมาจุดเพื่อจะระเบิดฝูงผู้ติดเชื้อ หากใครสังเกตดี ๆ จะพบว่าด้านข้างของไฟแช็คจะมีสลักเป็นเลข 76 ซึ่งนี่เป็นอีสเตอร์เอ้กที่อ้างอิงถึงไฟแช็คอันเดียวกับที่แซม พี่ชายของเนธาน เดรคใช้ในเกม Uncharted 4: A Thief's End ครับ โดยล่าสุดทาง Naughty Dog ก็ออกมาเฉลยอีสเตอร์เอ้กนี้ผ่านช่องทางหลักของค่ายเกมแล้วด้วย

UNCHARTED fans: Did Tess's lighter from last night's episode of #TheLastOfUs look familiar? ? It was modeled after Sam Drake's lighter from UNCHARTED 4: A Thief's End! pic.twitter.com/kAlAc8t94Z
— Naughty Dog (@Naughty_Dog) January 23, 2023
ถ้าเพื่อน ๆ เจอช็อตไหนที่ทางเราอาจตกหล่นไปก็มาคอมเมนต์กันได้นะครับ
ติดตามข่าวภาพยนตร์อื่น ๆ ได้ที่ https://www.online-station.net