ผู้กำกับ Simon Kinberg ได้ออกมาย้ำความมั่นใจให้กับแฟนๆ แล้วว่าหนัง Dark Phoenix หรือ X-Men ภาคต่อจะมีความซื่อตรงต่อต้นฉบับหนังสือการ์ตูน X-Men เป็นอย่างมาก ซึ่งนั่นหมายความว่ามันจะเป็นเรื่องราวที่อิงกับ “Dark Phoenix Saga” หนึ่งในอีเวนต์ที่สำคัญและเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ มากที่สุด เป็นอย่างมากนั่นเอง
และในครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่สองแล้วที่ทางค่ายหนังอย่าง Fox ได้นำเอาเรื่องราวของตัวละคร Jean Gray หรือ Phoenix มีเป็นตัวชูโรงของหนัง และมันอาจจะเป็นภาพสุดท้ายแล้วที่เราอาจจะได้เห็นตัวละครใน X-Men ชุดนี้อันเนื่องด้วยการเข้าซื้อและควบรวมกิจการของทาง Fox และ Disney ที่เป็นไปได้ว่าทาง Disney เจ้าของคนใหม่จะนำเอาแฟรนไชส์ X-Men ซึ่งเป็นหนึ่งในชุดตัวละครหลักของ Marvel กลับมา Reboot เพื่อให้มันผูกรวมเข้ากับจักรวาล Marvel Cinematic Universe ที่เป็นจักรวาลหนังฮีโร่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตอนนี้
(ภาพจาก: Empire)
แต่สำหรับ Dark Phoenix มันก็ยังคงจะเป็นการสานต่อเรื่องราวจากภาพยนตร์ X-men ในภาคก่อนๆ ซึ่งดาราสาวนักแสดงนำอย่าง Sophie Turner ผู้รับบท Jean Grey ได้เผยออกมาว่าตัวภาพยนตร์เรื่องนี้จะเรียกได้ว่าเป็นการ “ปฏิวัติ” วงการหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่นเดียวกับ Tye Sheridan นักแสดงผู้รับบทเป็น Cyclops ก็ได้เผยออกมาอีกด้วยว่าตัวหนังนั้นจะมีความดราม่ามากกว่าหนังฮีโร่ทั่วไป ซึ่งมันก็ทำให้แฟนๆ หนังสือการ์ตูนหลายคนต่างก็เริ่มกังวลกันว่าทางค่ายหนังจะนำเอาอีเวนต์แสนรักของพวกเขามาตีความใหม่โดยไม่อิงกับเนื้อหาเดิมจากต้นฉบับของหนังสือการ์ตูนอยู่หรือเปล่า
ซึ่งล่าสุดทางผู้กำกับ Simon Kinberg ก็ได้ออกมายืนยันในงาน CCXP ในการให้สัมภาษณ์กับทาง เว็บไซต์ Omelete ว่าเขาจะพยายามให้มันมีความซื่อตรงต่อเรื่องราวในหนังสือการ์ตูนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“มันมีความซื่อตรงอย่างมากในหนังเรื่องนี้ และเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ มันซื่อตรงมากๆ ต่อวัตถุดิบจากต้นฉบับ และความซื่อตรงนี้ก็คือใจกลางของเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของ Jean ที่ทำให้เธอเปลี่ยนจาก Phoenix ไปเป็น Dark Phoenix ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของเธอในครั้งนี้จะมีส่วนที่เกี่ยวโยงกับพลังคอสมิตที่มาจากอวกาศ และแน่นอนว่ามันจะมีตัวละครที่เป็นเอเลี่ยนด้วย ซึ่งในอีกทางหนึ่งผมเองก็ต้องการที่จะเจาะลึกและเน้นลงไปยังตัวละครจากหนังสือการ์ตูนให้มากขึ้น ซึ่งหมายถึงมันจะมีการขยายออกไปเป็นหนังที่มีเนื้อหามากกว่า 2 ชั่วโมง คุณไม่สามารถนำเอาทุกอย่างมาจาก Dark Phoenix Saga มาใส่รวมเข้าไปในหนังได้ ดังนั้นมันจึงต้องมีบางอย่างที่ไม่ได้อยู่ในตัวหนัง แต่ผมคิดว่าแฟนๆ คงจะได้เห็นว่าผมเป็นแฟนตัวยง และเป็นกีคที่ซื่อสัตย์ต่อสิ่งที่ผมอยากเห็นมันในภาพยนตร์เป็นอย่างมาก”
(ภาพจาก: USA Today)
ไอเดียแรกเริ่มของ Chris Claremont และ John Byrne ผู้แต่งเรื่อง Dark Phoenix Saga ในฉบับหนังสือการ์ตูนั้นจริงๆ แล้วมันไม่มีการเกี่ยวโยงกันของพลังคอสมิคที่ทำให้ Phoenix เปลี่ยนแปลงไป แต่เป็นพลังแฝงบางอย่างที่อยู่ในตัวของ Jean Grey ต่างหากที่ทำให้เธอกลายเป็น Dark Phoenix และ Claremont แต่เดิมแล้วเขาก็ค่อนข้างชอบไอเดียเรื่องราวนี้เป็นอย่างมาก และอยากที่จะให้เธอมีพลังเทียบเท่ากับ Thor หนึ่งในฮีโร่หัวหลักของ Marvel แต่การที่มันมีพลังคอสมิคเข้ามาเกี่ยวมันก็ทำให้สเกลของเรื่องราวมีความใหญ่โตมากขึ้น ซึ่งหนัง Dark Phoenix จะมีสเกลที่ใหญ่โตแค่ไหน เรื่องราวของมันจะมีความดาร์กสมชื่อหรือไม่ก็คงต้องไปรอลุ้นกันในวันที่หนังออกฉายใน เดือนมิถุนายน 2019 ที่กำลังจะถึง
ที่มา: Screen Rant