เมื่อช่วงอาทิตย์ที่แล้ว เกม Destiny Child ที่พึ่งเปิดให้บริการกันมาไม่นานก็ได้มีการส่งอัพเดตใหญ่มาให้แฟนๆ ได้เล่นกันด้วยครับกับระบบที่มีชื่อเรียกว่า Ragna Break ถ้าให้เทียบง่ายๆ มันก็เหมือนกับการตีบอสใหญ่ประจำเกมของเกมอื่นนั่นแหละครับ แต่ว่า Ragna Break จะมีจุดเด่นเพิ่มเติมแตกต่างออกมาด้วย ส่วนจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยจ้า
Ragna Break เป็น 1 ในโหมดของเกมที่จะถูกจัดเป็นฤดูกาลครับ (น่าจะประมาณครึ่งเดือนต่อ 1 ฤดูกาล) โดยในโหมดนี้ก็จะเป็นภารกิจการตีบอสใหญ่นั่นเอง มีจำกัดจำนวนลงไว้ทั้งหมด 10 ครั้ง และจะฟื้นฟู 1 ครั้งทุกๆ 30 นาทีโดยประมาณ เจ้าบอสนี้จะสุ่มเกิดก็ต่อเมื่อเราเล่นเนื้อเรื่องไปเรื่อยๆ ยิ่งด่านที่ใช้ค่าสตามิน่าเยอะ ก็จะมีโอกาสเกิดสูงขึ้นครับ ที่สำคัญก็คือบอสนี้สามารถเรียกเพื่อนใน Friend List มาช่วยโจมตีได้ รวมไปถึงถ้าเพื่อนเรามีบอสเกิด เราก็สามารถเข้าร่วมการโจมตีได้เช่นกันจ้า
นอกจากนี้ก็จะมีดันเจี้ยนที่เป็นเนื้อเรื่องของ Ragna Break ของรอบนั้นๆ ด้วย ซึ่งจะก็จะมีโอกาสสุ่มเกิดบอสด้วยเช่นกัน แต่ว่าตอนแรกจะปลดไว้แค่ด่านเดียว ซึ่งเราจะต้องใช้เหรียญแร็กน่าในการปลดดันเจี้ยนต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งในดันเจี้ยนเนื้อเรื่อง Ragna Break เองก็จะมีของรางวัลตอบแทนเมื่อผ่านด่าน รวมไปถึงอีเว้นท์กิจกรรมที่จะไปเกี่ยวโยงกับภารกิจแร็กนา ที่ให้ของรางวัลเป็นตั๋วการันตีตัวละคร 5 ดาวด้วยครับ
ตัวบอสเองเริ่มต้นจะเกิดมาด้วยเลเวล 1 เราสามารถอัพระดับเลเวลบอสได้ด้วยการเป็นคนที่มีส่วนร่วมในการโจมตีบอสของตัวเองจำนวนหนึ่ง เมื่อบอสตายแล้วเกิดใหม่ก็จะมีเลเวลเพิ่มขึ้น 1 ครับ และทุกๆ 10 เลเวล บอสก็จะเปลี่ยนตัวละครไปเรื่อยๆ และมีเลเวลสูงสุดที่ 40 ครับ อย่าง Ragna Break ตอนนี้ตัวสุดท้ายก็จะเป็น แครมบัส ที่เป็นตัวหน้าปกนั่นเอง
สำหรับของรางวัลในการเล่น Ragna Break ก็คือ เหรียญแร็กนา หลักๆ ก็จะเอาไว้ใช้ทำอยู่ 2 อย่างก็คือ เปิดดันเจี้ยนเนื้อเรื่อง Ragna Break กับการนำไปซื้อของในร้านค้าแร็กนาครับ แล้วก็จะมีรางวัลสุ่มอื่นๆ รวมไปถึงกล่องบอสที่จะสุ่มได้ตามระดับเลเวลของบอสด้วย ส่วนเรื่องการซื้อของในร้านค้าแร็กนาจะซื้ออะไรดีบ้าง อย่างแรกที่แนะนำให้ซื้อทุกวันเลยก็คือ ตั๋วการเรียกเรด ครับ ตั๋วนี้จะทำให้เราสามารถเรียกบอสออกมาได้เลย สามารถซื้อได้วันละ 5 ครั้ง และฟรีด้วย! ต่อมาก็น่าจะเป็นตัวละครพิเศษที่อยู่ขวาสุดของแถวแรกครับ ซึ่งเราจะสามารถซื้อได้ก็ต่อเมื่อเราซื้อของในแถวนั้นทั้งหมดก่อน เมื่อซื้อแล้วก็จะปลดตัวใหม่ออกมาให้ซื้อเรื่อยๆ ก็จะเป็นบอสที่เราเจอใน Ragna Break นั่นแหละครับ แน่นอนว่าตัวสุดท้ายที่ซื้อได้ก็คือ แครมบัส นั่นเอง และก็ยังมีการจัดอันดับแร็กนาที่จะเป็นคะแนนในโหมดนี้สำหรับคนที่ได้คะแนนสูงๆ ก็จะมีของรางวัลให้เมื่อจบฤดูกาลนั่นเอง
เรื่องของการจัดทีมลง Ragna Break คงจะไม่พูดถึงเลเวลแรกๆ เพราะว่ามันผ่านค่อนข้างง่ายอยู่แล้ว ก็จะขอข้ามไปพูดถึงเลเวล 40 ที่จะเป็นแครมบัสโผล่ออกมาตัวเดียวละกันครับ หลักๆ ในการจัดก็จะมีดังนี้
1. หาสายโจมตีก่อน เนื่องจากแครมบัสเป็นธาตุไม้ สายโจมตีธาตุไฟอย่าง เฮสเทีย และเมดบ์ ก็จะดูมีภาษีขึ้นมาทันที รวมไปถึงตัวละครที่มี Slide Skill โจมตีหลายฮิตก็จะมีผลดีเพราะที่เลเวล 40 จะมีบอสในฉากแค่ตัวเดียวเลย ทุกฮิตที่โจมตีก็จะเข้าสู่บอสทั้งหมดครับ ส่วนใครที่ไม่มี 2 ตัวด้านบนจริงๆ ก็สามารถใช้ ดาบิ อัพให้ถึง 5 ดาวก็สามารถใช้ได้เหมือนกันครับ
2. หาสายป้องกันมายืน หากยืนไม่ไหวให้หาสายฮีลเพิ่มเติม แน่นอนว่าสายป้องกันระดับท๊อปเทียร์ตลอดกาลอย่าง ดาน่า คือตัวแรกที่จะถูกเลือกเข้าทีมเนื่องจากว่าบอสตัวนี้มีไดรฟ์สกิลที่รุนแรงมาก เลือดปลอมและการป้องกันไดร์ฟสกิลของดาน่า จะช่วยให้ทีมรอดตายได้มากขึ้น ถ้าไม่มีก็อาจจะหาสายป้องกันธาตุไฟตัวอื่นมาใช้ไปแทนก่อนอย่างพวก ฮาเดส หรือเอล โดราโด ก็ได้ครับ แต่ถ้าเลเวลทีมของเราค่อนข้างน้อยและยังยืนไม่ไหว ก็อาจจะหาตัวฮีลเลอร์เข้ามาเสริมทัพอีกตัวหนึ่ง ที่แนะนำก็จะเป็น มาอัต ที่สามารถชุบชีวิตได้ หรือเมทิสกับไซริงส์ ที่ช่วยป้องกันดูดความเสียหายกับทีมได้ดีครับ
3. หาสายบัฟที่เน้นการเร่งเกจ เพื่อการเร่งดาเมจให้ปิดบอสไวขึ้น ตัวละครที่มีความสามารถในการเร่งเกจระดับท๊อปเทียร์ก็ไม่พ้น โคกะ แน่นอนครับ ทั้งเร่งเกจและลดคูลดาวน์สไลด์สกิล หรือถ้ารองมาหน่อยก็อาจจะเป็นมายาฮวลกับควิรินัสครับ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นธาตุน้ำ ก็อาจจะต้องใช้เลเวลที่สูง ปลุกพลังระดับสูงหน่อยเพื่อที่จะไม่ให้โดนไดรฟ์ทีเดียวตายครับ
4. หาตัวเติมช่องที่เหลือ อาจจะเป็นพวกสายบัฟอีกตัวที่เอาไว้คอยบัฟดาเมจกับคริติคอลเพิ่มให้กับตัวดาเมจอย่างพวก แพนธีออน เฮอร์มีส หรือตัวดีบัฟที่คอยลดหรือถอดความสามารถฝ่ายตรงข้ามให้อ่อนแอลงอย่างพวก จูปิเตอร์ หรือไมดาส นั่นเองครับ ซึ่งก็จะครบ 5 ตัวพอดี
ทั้งหมดนี้ก็คือ Ragna Break ระบบใหม่ที่พึ่งอัพเดตเข้ามาในเกม Destiny Child ครับผม ซึ่งหลังจากหมดฤดูกาลแรกไปแล้ว Ragna Break เองก็จะมีบอสตัวใหม่สลับหมุนเวียนเข้ามาให้สู้กันเรื่อยๆ เราก็จะต้องคอยเปลี่ยนทีมเพื่อให้เข้ากับการต่อสู้กับบอสตัวนั้นๆ เราจึงต้องปั้นตัวละครไว้ค่อนข้างหลายตัวเลยทีเดียว บางตัวที่ตอนนี้ไม่มีประโยชน์ก็อาจจะกลับมามีประโยชน์ใน Ragna Break ครั้งหน้าได้ครับ แล้วเจอกันในเกมจ้า