[ไกด์เกม] Seven Knights Re:BIRTH - Team Guide ฮาวทู จัดทีม 101

Seven Knights Re:BIRTH เกมกาชา Turn-Based ภาคใหม่ล่าสุดของแฟรนไชส์สุดเปรี้ยงอย่าง Seven Knight ที่ทำเอาทั้งแฟนหน้าเก่า และแฟนหน้าใหม่สนใจอย่างมาก ซึ่งในภาคนี้ก็แน่นอนว่ามีคอนเทนต์ที่คล้ายกับภาคดั้งเดิม ซึ่งบอกได้แค่ว่าเยอะมาก แถมตัวละครก็ยกทัพคนหน้าคุ้นมาทั้งโขยง แต่ว่าไปนะ ตัวละครเยอะขนาดนี้ ต้องมีคนมึนกับการจัดทีมแน่ ๆ วันนี้ในบทความ Seven Knights Rebirth Team Guide นี้ เราจะมาพูดถึงแนวทางการจัดทีมให้เพื่อน ๆ ได้รู้กัน!?

เทคนิคการจัดทีม

Team Formation

การจัดทีมจะมีส่วนประกอบหลัก 5 อย่าง คือ ฮีโร่, สัตว์เลี้ยง, Formation, ลำดับการใช้สกิล และ อุปกรณ์ ซึ่งในช่วงแรกเราจะใช้การจัดทีมแบบออโต้ก็ได้ไม่มีปัญหา แต่พอเล่นไปเรื่อย ๆ ลองจัดทีมเองดูก็ไม่เสียหายนะ บางทีอาจได้แนวทางการจัดทีมใหม่ ๆ เจ๋ง ๆ มาก็ได้

จัดทีมให้อัศวินแต่ละประเภทมีความสมดุล

ประเภท	จุดเด่น	จำนวนที่แนะนำ
สายโจมตี	มีพลังโจมตีกายภาพสูง แต่มี HP และพลังป้องกันต่ำ	0-3 คน
สายเวท	มีพลังโจมตีเวทสูง แต่มี HP และพลังป้องกันต่ำ	0-3 คน
สายป้องกัน	มี HP และพลังป้องกันสูง แต่พลังโจมตีต่ำ	1 คน
สายสนับสนุน	ตัวซัพพอร์ตที่มี HP และพลังป้องกันค่อนข้างสูง แต่พลังโจมตีต่ำ	1 คน
สายสมดุล	มีความสมดุลระหว่างพลังโจมตีและพลังป้องกัน	0-3 คน

ตัวละครอัศวินมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติที่ต่างกันไป และในการจัดทีมอาจจะปรับเปลี่ยนบ้างตามลักษณะคอนเทนต์ที่ลง แต่พื้นฐานเลยก็คือ ในทีมควรมีตัวละครสายป้องกัน (Defense) และสายสนับสนุน (Support) อย่างละ 1 ตัว ส่วนตำแหน่งที่เหลือก็ใส่ตามความเหมาะสม โดยเราสามารถดูประเภทของอัศวินได้จากไอคอนเล็ก ๆ ข้างดาว (Rank) 

ในช่วงต้นเกมให้เน้นสัตว์เลี้ยงระดับแรร์

สัตว์เลี้ยงแข็งแกร่งตามระดับความหายาก เพราะฉะนั้นช่วงแรก ๆ ให้เน้นใช้ตัวที่หายากไว้ก่อน แต่พอเล่นไปจนเก่งแล้ว ก็ลองจัดทีมโดยเลือกสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มพลังโจมตีกายภาพ/เวทมนตร์/ทั้งหมด, พลังป้องกัน หรือเพิ่มค่าคริติคอลตามลักษณะของคอนเทนต์ที่เราจะลงดูนะ

เมื่อมีตัวละครมากขึ้นก็เปลี่ยนรูปแบบ Formation

Formation	Lv. 20 Effect
	แถวหน้า (2 คน) : พลังป้องกัน +13% แถวหลัง (3 คน) : พลังโจมตี +8% ใช้รูปแบบนี้จนกว่าจะมีตัวละครเก่ง ๆ ได้มากพอ ใช้เมื่อมีตัวละครโจมตี 3 คน
	แถวหน้า (3 คน) : พลังป้องกัน +8% แถวหลัง (2 คน) : พลังโจมตี +13% ใช้รูปแบบนี้จนกว่าจะมีตัวละครเก่ง ๆ ได้มากพอ ใช้เมื่อต้องการเพิ่มดาเมจให้ตัวโจมตีมากกว่าเดิม
	แถวหน้า (1 คน) : พลังป้องกัน +26% แถวหลัง (4 คน) : พลังโจมตี +6.5% ใช้เมื่อมีตัวละครครบมากขึ้นแล้ว เมื่อมีตัวสายป้องกัน 1 ตัว ที่สามารถรับความเสียหายทั้งหมดได้ฃ เหมาะกับการจัดทีมที่มีตัวโจมตีเยอะ ๆ เมื่อคุณต้องการทำความเสียหายสูงสุด (เช่น Castle Rush)
	แถวหน้า (4 คน) : พลังป้องกัน +6.5% แถวหลัง (1 คน) : พลังโจมตี +26% ใช้เมื่อมีตัวละครครบมากขึ้นแล้ว สำหรับการฟาร์ม ให้วางฮีโร่ที่มีสกิลโจมตีหมู่ (AoE) ไว้แถวหลัง ใช้เมื่อต้องการให้ตัวโจมตีตัวใดตัวหนึ่งทำดาเมจแรงเป็นพิเศษ เหมาะกับการจัดทีมที่มีตัวซัพพอร์ตเยอะ ๆ

ในเรื่องของรูปแบบ Formation ตัวละครที่ยืนอยู่แถวหน้ามักจะโดนโจมตีบ่อยกว่าตัวอื่น ดังนั้นในช่วงแรกจึงแนะนำให้ใช้ Formation พื้นฐาน หรือ สมดุล เพราะใช้งานง่าย แต่เมื่อเล่นไปสักพักและเริ่มมีตัวละครเยอะแล้ว ให้ลองเปลี่ยน Formation เป็น โจมตี และป้องกันดูสิ!?

ประเภท	ตำแหน่งการวางที่แนะนำ
สายโจมตี	แถวหลัง
สายเวท	แถวหลัง
สายป้องกัน	แถวหน้า
สายสนับสนุน	แถวหน้า / แถวหลัง
สายสมดุล	แถวหน้า / แถวหลัง

โดยทั่วไปแล้ว ตัวโจมตี (Attack) และ ตัวเวทมนตร์ (Magic) แนะนำให้วางไว้แถวหลัง (Back Row) ส่วนตัวป้องกัน (Defense) ให้วางไว้แถวหน้า (Front Row) ส่วนตัว Universal ให้จัดวางตามความเหมาะสม สำหรับตัวซัพพอร์ต (Support) ที่มีพลังป้องกันสูงแต่พลังโจมตีต่ำ พวกเขาเหมาะจะอยู่แถวหน้า แต่บางครั้งก็มีการวางไว้แถวหลังเพื่อป้องกันไม่ให้ตายง่าย จะได้สามารถทำหน้าที่สนับสนุนทีมได้ต่อเนื่องเช่นกัน

จัดลำดับสกิลก่อนต่อสู้

เราสามารถจัดลำดับสกิลล่วงหน้าได้สูงสุด 3 สกิล ซึ่งขอแนะนำให้ใช้ "สกิลป้องกัน" หรือที่ทำให้ศัตรูขยับไม่ได้ก่อน เช่น Stun (มึนงง) หรือ Freeze (แช่แข็ง) และแนะนำให้ใช้สกิลดาเมจแรง ๆ และ AoE เพื่อจัดการในทีเดียว

ใส่ของแรงค์สูงไว้ก่อน

ประเภท		เอฟเฟกต์ที่แนะนำ
สายโจมตี		เพิ่มพลังโจมตีกายภาพ เพิ่มพลังโจมตีทั้งหมด เพิ่มอัตราคริ เพิ่มคริดาเมจ
สายเวท		เพิ่มพลังโจมตีเวท เพิ่มพลังโจมตีทั้งหมด เพิ่มอัตราคริ เพิ่มคริดาเมจ
สายป้องกัน	สายสนับสนุน	เพิ่ม HP เพิ่มพลังป้องกัน เพิ่มอัตราบล็อก
สายสมดุล		ถ้าเป็นสายโจมตี แนะนำให้ใส่อุปกรณ์สาย Attack/Magic ถ้าเป็นตัวซัพ แนะนำให้ใส่อุปกรณ์สาย Defense/Support

อุปกรณ์ (Equipment) จะต้องติดตั้งจากหน้าจอ Hero information ไม่ใช่หน้าจอจัดทีม เพราะงั้นอย่าลืมใส่ก่อนสู้ละ โดยอุปกรณ์ที่มี Rank สูงมักจะทรงพลังมากกว่า จึงแนะนำให้เน้นสวมใส่ของระดับสูงๆ ไว้ก่อน แต่ในช่วงแรก ๆ การใช้ระบบ Equip Recommended ก็สะดวกและใช้ได้ดีเช่นกัน พอหลังจากมีของระดับหนึ่งแล้วก็เริ่มเลือกใส่ตามความเหมาะสมได้เลย

การจัดทีมตาม Formation

รูปแบบพื้นฐาน Basic Formation 

แถวหน้า	แถวหน้า	แถวหลัง	แถวหลัง	แถวหลัง
Evan	Karin	Snipper	Ariel	Rachel
แทงค์	ตัวฮีล	โจมตีกายภาพ	โจมตีเวท	โจมตีกายภาพ

รูปแบบพื้นฐาน Basic Formation จะมีประสิทธิภาพเมื่อมีตัวโจมตีในทีม 3 ตัว และเหมาะที่จะใช้เป็นหลักไปก่อน จนกว่าคุณจะรวบรวมตัวละครดี ๆ ได้ครบ

รูปแบบสมดุล Balance Formation

แถวหน้า	แถวหน้า	แถวหน้า	แถวหลัง	แถวหลัง
Evan	Karin	Snipper	Ariel	Rachel
แทงค์	ตัวฮีล	โจมตีกายภาพ Sub DPS	โจมตีเวท Main DPS	โจมตีกายภาพ Main DPS

รูปแบบสมดุล Balance Formation จะมีประสิทธิภาพเมื่อคุณต้องการกระจายการโจมตีให้ทั่วถึงมากขึ้น เช่น เวลาที่ตัวแทงก์หรือฮีลเลอร์ในทีมตาย นอกจากนี้ เนื่องจากรูปแบบ Balance จะเพิ่มพลังโจมตีให้ฮีโร่แถวหลังได้มากกว่ารูปแบบ Basic จึงเป็นตัวเลือกที่ดีถ้าหากคุณได้ตัวละครที่ทำดาเมจสูง ๆ ตั้งแต่ช่วงต้นเกม

รูปแบบโจมตี Attack Formation

แถวหน้า	แถวหลัง	แถวหลัง	แถวหลัง	แถวหลัง
Evan	Karin	Snipper	Ariel	Rachel
แทงค์	ตัวฮีล	โจมตีกายภาพ	โจมตีเวท	โจมตีกายภาพ

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า รูปแบบโจมตี Attack Formation ซึ่งเน้นการบุกเป็นหลัก การจัดทีมแบบนี้จะเหมาะเวลาที่คุณมีตัวแทงก์ที่อึดและเลเวลสูง ๆ หรือเวลาที่ต้องการเพิ่มพลังโจมตีให้ปาร์ตี้สูงสุด เช่น ในโหมด Castle Rush

รูปแบบป้องกัน Defense Formation

แถวหน้า	แถวหน้า	แถวหน้า	แถวหน้า	แถวหลัง
Evan	Karin	Snipper	Ariel	Rachel
แทงค์	ตัวฮีล	โจมตีกายภาพ Sub DPS	โจมตีเวท Sub DPS	โจมตีกายภาพ Main DPS

รูปแบบป้องกัน Defense Formation จะช่วยให้ตัวละคร 4 ตัวมีพลังป้องกันเพิ่มขึ้นและกระจายรับการโจมตีที่เข้ามา ทำให้ตายยากขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับการสู้กับบอสที่คุณต้องการให้ตัวโจมตีตัวเดียวเก่งขึ้นเป็นพิเศษ หรือเมื่อต้องการเน้นความอึดของทีมเป็นหลัก

ทั้งนี้เวลาที่เราจัดทีมฟาร์มรูบี้เพื่อเก็บเวล สามารถใช้รูปแบบป้องกัน Defense Formation โดยวางตัวโจมตีที่ทำดาเมจสูง ๆ ไว้แถวหลัง และในแถวหน้า 4 ตัวให้วางตัวที่เราจะเพิ่มเวลไว้

การจัดทีมเพื่อรับมือกับสถานะผิดปกติ

ทีมกันไหม้ (Fire Dungeon)

แถวหน้า	แถวหลัง	แถวหลัง	แถวหลัง	แถวหลัง
Evan	Yui	Ariel	Lania	Spike
แทงค์	ตัวฮีล กันไหม้	โจมตีเวท กันไหม้	โจมตีเวท ทำให้แข็ง	โจมตีกายภาพ ทำให้แข็ง

สำหรับทีมที่ต้องการภูมิคุ้มกันสถานะ Burn (ไฟไหม้) แนะนำให้ใส่ Yui หรือ Ariel เข้าไปในทีม ซึ่งจะเลือกใส่แค่ตัวใดตัวหนึ่งก็ได้ แล้วอีกสล็อตก็ใส่ตัวโจมตีตัวอื่น เพื่อให้ผ่านได้ง่ายขึ้น

ทีมกันแข็ง (Water Dungeon)

แถวหน้า	แถวหลัง	แถวหลัง	แถวหลัง	แถวหลัง
Evan	Yui	Lania	Chloe	Rei
แทงค์	ตัวฮีล	โจมตีเวท กันแข็ง	โจมตีเวท ทำให้ฟื้นฟูไม่ได้	โจมตีกายภาพ ทำให้ติดพิษ

ตัวอย่างข้างต้นคือทีมที่มีภูมิคุ้มกันสถานะ Freeze (แช่แข็ง) ถ้าในสถานการณ์ที่ต้องการการสนับสนุนเพิ่มเติมอย่างสถานะ Unable to Recover (ไม่สามารถฟื้นฟู) ก็อาจจะต้องจัดทีมที่มีตัวละครสายซัพพอร์ต 2 ตัว

ทีมกันสตัน (Earth Dungeon)

แถวหน้า	แถวหลัง	แถวหลัง	แถวหลัง	แถวหลัง
Evan	Yui	Rachel	Snipper	Nia
แทงค์ กันสตัน	ตัวฮีล	โจมตีกายภาพ ทำให้ติดไหม้	โจมตีกายภาพ ทำให้ติดไหม้	โจมตีเวท

ด้วยความที่ Evan ตัวละครที่ใคร ๆ ก็ได้ฟรีตั้งแต่เริ่มเกมมีคุณสมบัติในการกันสตันอยู่แล้ว ดังนั้นการจัดทีมที่มีฮีลเลอร์ 1 คน และตัวโจมตีอีก 3 ก็เพียงพอแล้ว และถ้าใครไม่มี Rachel ก็หาตัวละครที่สามารถแปะดีบัฟใส่ศัตรูตัวไหนมาแทนก็ได้นะ

ทีมกันช็อก (Light Dungeon)

แถวหน้า	แถวหลัง	แถวหลัง	แถวหลัง	แถวหลัง
Evan	Yui	Chloe	Joker	Rachel
แทงค์	ตัวฮีล	ซัพพอร์ต กันช็อก	โจมตีเวท Multi-hit Attack	โจมตีกายภาพ ดีบัฟ

ตามตัวอย่างด้านบนคือทีมที่มีภูมิคุ้มกันสถานะ Shock ซึ่งการจัดทีมนี้จะใช้ตัวละครสายซัพพอร์ต 2 ตัว เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันสถานะและการรักษาไปพร้อมกัน พร้อมตัวโจมตีอีก 2 ตัว

ทีมกันตาย Death (Dark Dungeon)

แถวหน้า	แถวหลัง	แถวหลัง	แถวหลัง	แถวหลัง
Evan	Yui	Leo	Chloe	Bidam
แทงค์	ตัวฮีล	ซัพพอร์ต กัน Death ทำให้เลือดออก	ซัพพอร์ต ลบดีบัฟ	โจมตีกายภาพ ทำให้เลือดออก

ตัวอย่างข้างบนคือทีมที่มีภูมิคุ้มกันสถานะ Death ในกรณีที่ไม่ได้ต้องการตัวที่ลบดีบัฟได้ ก็สามารถเปลี่ยนเป็นตัวโจมตีหรือซัพพอร์ตที่ช่วยแปะดีบัฟศัตรูแทนได้นะ

แปลและเรียบเรียงจาก : gamewith.net

ติดตามข่าวเกมมือถืออื่นๆ ได้ที่ Online Station