Nikke ตู้เนียร์ 2B และ A2 วิเคราะห์เจาะลึก! ควรจัดหนักหรือพักก่อน

ปล่อยคอลแลปกันมาได้สักพักแล้วสำหรับตู้ NieR: Automate ภายในเกม Goddess of Victory: Nikke ที่ส่งตัวละครดังอย่าง 2B และ A2 ซึ่งจะเป็นตู้ Limited ที่จะสามารถเปิดได้ถึงภายในวันที่ 28 กันยายน 2566 นี้เท่านั้น

แน่นอนว่าความ Limited ก็ควรที่จะเปิดมาเก็บสะสมไว้สักตัว แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะมีเพชรเพียงพอไปซะหมด อีกทั้งทุ่มเปิดทั้งทีก็อยากจะได้ตัวละครที่มีความสามารถให้เราสามารถเล่นลุยด่านไปไกล ๆ หรือทำกิจกรรมอื่นได้ง่ายขึ้น ดังนั้นเราจะมาวิเคราะห์กันว่าตัวละคร 2B และ A2 นั้น มีความโดดเด่นและคุ้มค่าในการเปิดมากน้อยขนาดไหน


2B

ประเภทอาวุธ : AR (Assault Rifle)
Class : Defender
Squad : YoRHa

Burst : 3

แม้จะได้ชื่อว่าเป็นสาย Defender แต่ในแง่การทำดาเมจตัว 2B ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยความสามารถที่จะเพิ่ม Max HP ของตัวเองให้สูงขึ้น รวมไปถึงสกิลติดตัวที่จะทำให้โจมตีแรงขึ้นตามค่า Max HP อีกด้วย

สกิล 1 : Survival
เมื่อกดใช้ Burst Skill จะเพิ่มค่า Max HP ให้สูงขึ้น และจะมากขึ้นเมื่อกดใช้ติดต่อกันหลายครั้ง

สกิล 2 : Cluster Bomb
สร้างความเสียหายเพิ่มเติมแก่ศัตรูทุกตัวเมื่อทำการโจมตีปกติ 300 นัด และยังเพิ่มค่าพลัง ATK จากค่า Max HP แบบ Final

สกิล Burst : Series of Attacks
โจมตีศัตรูทุกตัวด้วยความเสียหายแบบกระจาย และโจมตีทำความเสียหายเพิ่มเติมแก่ศัตรูที่มี Max HP สูงที่สุด

แม้ค่าพลังโจมตีที่ได้จาก Max HP จะถือว่าค่อนข้างสูง ด้วยความที่เป็นตัวละครสาย Defender ทำให้เธอมีค่าพลังชีวิตที่มากกว่าตัวละครสายอื่นอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เป็นจุดอ่อนเลยก็คือ ตัว 2B มีการคิดความเสียหายต่อนัดแค่ 5.99% ของ ATK เท่านั้น ซึ่งน้อยที่สุดในอาวุธประเภท AR

หากเทียบกับตัวเมต้าทั่วไป 2B ถือว่าอ่อนแอมากในช่วงแรก แต่ว่า 2B จะยิ่งเก่งขึ้นเมื่ออัพเกรตตัวละครในระดับสูง เพราะยิ่งค่า Max HP เยอะมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ตัวเธอทำความเสียหายได้รุนแรงมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะสกิล Burst ของเธอ ที่สามารถใช้ได้ทั้งศัตรูบอสเดี่ยวและศัตรูแบบหมู่

หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ 2B นั้นพิเศษก็คือความแรงที่มาจากค่า Max HP ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะทั่วไปตัวละครอื่นจะเน้นช่วยเหลือในแง่การเพิ่มค่า ATK แต่ 2B สามารถนำตัวละครอื่น ๆ ที่ปกติไม่ได้ใช้งานมาร่วมทีมกับเธอได้ เช่น Mast เพราะเบิสสกิลช่วยเพิ่ม Max HP เป็นต้น

ข้อดี 2B
– เป็นหนึ่งในตัวละครที่เก่งมากถ้าลงทุนอัพเกรตตัวละครสุดทาง
– ใช้ Support ตัวอื่นที่เน้นเพิ่ม Max HP ทำให้ไม่แย่งทีมตัวละครหลักในโหมดประเภท Union Raid และ Solo Raid
– เป็นสาย Defender ตัวแรกของ Abnormal ที่จำเป็นต้องทำ OL ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องชุดไม่พอ
– ลง Content ได้หลากหลาย ทั้งเนื้อเรื่องแคมเปญ รวมไปถึง Union Raid และ Solo Raid

ข้อเสีย 2B
– ใช้ทรัพยากรในการอัพเกรตสูงมากถึงจะเทียบเท่าตัวละครเมต้าอื่น ๆ (สกิลควร 10/10/10)
– จะเก่งที่สุดเฉพาะการสู้บอสหรือด่านยาว 3 นาที เพราะจำเป็นต้องวน Burst อย่างน้อย 3 ครั้ง
– จะให้เก่งที่สุดต้องจัดทีมเฉพาะทาง ซึ่งอาจจะไม่คุ้มค่าในการลงทุนตัวละครนอกเมต้าเพื่อ 2B คนเดียว

ความน่าเก็บสะสมและจำนวนดาวที่ควรมี

สำหรับผู้เล่นที่ไม่จริงจังเน้นเล่นเนื้อเรื่องปกติ 2B อาจจะไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่นักเพราะมีตัวเมต้าอื่นที่ดีกว่าและลงทุนน้อยกว่า แต่อย่างน้อยควรจะเก็บสะสมไว้สัก 1 ตัว ถ้าเป็นไปได้

ผู้เล่นสายจริงจังที่เน้นเล่น Union Raid หรือ Solo Raid ถือได้ว่าเป็นตัวละครที่ค่อนข้างดี เพราะ 2B สามารถเก่งได้โดยไม่จำเป็นต้องไปแย่งตัวละครทีมหลัก เหมาะมากในการเล่นโหมดที่จำเป็นต้องแบ่งทีมลง อย่างน้อยควรจะมี 2-3 ดาว เพื่ออัพความค่าความสัมพันธ์ให้ครบ 30 (ยิ่ง Core สูงก็ยิ่งดีมากขึ้นเรื่อย ๆ)


A2

ประเภทอาวุธ : RL (Rocket Launcher)
Class : Attacker
Squad : YoRHa

Burst : 3

ตัวละครสาย RL ทีมีความสามารถพิเศษกับการโจมตีที่กินพื้นที่กว้าง สามารถโจมตีทีเดียวโดนศัตรูได้หลายตัว ยิ่งสกิล 1 ที่จะช่วยเพิ่มรัศมีของดาบให้กว้างมากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถใช้สู้กับบอสที่มี Part โจมตีหลายชิ้นส่วนได้ดีอีกด้วย

สกิล 1 : Output Increased
เพิ่ม Charge Damage และ รัศมีการโจมตี ทุกครั้งที่กด Burst

สกิล 2 : Slow Charge Attack
เมื่อโจมตีด้วย Full Charge จะสร้างความเสียหายเพิ่มเติม และจะทำให้เธอโจมตี Part ของศัตรูแรงขึ้น

สกิล Burst : Mode B
เมื่อเปิดใช้งานจะทำการลดพลังชีวิตของ A2 ลงเรื่อย ๆ แต่จะเพิ่มค่า ATK และ Charge Speed เมื่อพลังชีวิตลดต่ำกว่า 40% จะหยุดทำงานทันที

A2 ถือได้ว่าเป็นตัวละครสายชาร์ตตัวแรก ที่เน้นการ Full Charge แบบจริงจัง ด้วยความที่ตัวละครของเธอมีการถอด Animation Cancel ออก ทำให้เป็นตัวละครที่ไม่สามารถ Quick Scope ได้ เหมือนตัวละครสาย RL และ Sniper อื่น ๆ

จุดที่ตัว A2 เฉิดฉายมากที่สุด จะเป็นพวกบอสที่มี Part ชิ้นส่วนหลายจุด เพราะเธอสามารถโจมตีโดนทุกส่วนได้หากอัพสกิลเพื่อขยายรัศมีการโจมตีสูงพอ อีกทั้งยังโจมตีชิ้นส่วนแรงขึ้นมากเช่นกัน ทำให้เธอเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกชั้นดีกับบอสประเภทนี้ อีกทั้งเรายังสามารถปล่อยเธอให้ออโต้ตีเองได้อีกด้วย ต่างจากตัวละครประเภทเดียวกันตัวอื่น ที่ส่วนมากจะต้องคุมเล่นมือเองเสียมากกว่า (Alice, Maxwell เป็นต้น)

กระนั้นจุดอ่อนที่สำคัญที่สุดของ A2 ก็คือ การบังคับเล่นกับตัวที่ฮีลได้ เพราะสกิล Burst ของเธอที่จะใช้ไม่ได้เมื่อ HP ต่ำกว่า 40% (ใช้แล้วหยุดการทำงานทันที) ซึ่งทำให้ความเสียหายของเธอลดลงอย่างมาก ต่างกับตัวละครที่ลดพลังชีวิตตัวเองอย่าง Scarlet และ Guillotine ที่ยังสามารถฝืนเล่นได้แม้จะไม่มีตัวฮีลก็ตาม

นอกจากนี้ตัว A2 ยังมีจุดที่แปลกกว่าตัวละครอื่นเล็กน้อยเพราะ ยิ่ง Core เยอะอาจจะทำให้เล่นลำบากขึ้น อ่านแล้วอาจจะดูแปลกใจ แต่ด้วยความที่สกิล Burst นั้นจะลดค่าพลังชีวิตของเธอเป็น % (ยิ่งค่าพลังชีวิตเยอะยิ่งลดเยอะตาม) ซึ่งจะมีปัญหาเล็กน้อยหากตัวละครที่เรานำมาฮีลเธอมีสกิลที่ไม่เพียงพอ จนไม่สามารถดันค่าพลังชีวิตเธอขึ้นมาได้นี่เอง

ข้อดี A2
– โจมตีรุนแรงกับศัตรูหลายตัวและบอสที่มีชิ้นส่วนหลายชิ้น
– ไม่จำเป็นต้องเล่น Manual ต่างกับตัวละครเมต้าสายชาร์ตอื่น ๆ ที่จำเป็นต้อง Quick Scope เพื่อดึงประสิทธิภาพ
– ไม่จำเป็นต้องลงทุนสกิลเยอะก็เก่งได้ต่างกับ 2B (ยกเว้นสกิล Burst ที่ยิ่งสูงจะทำให้เล่นง่ายขึ้น)

ข้อเสีย A2
– จำเป็นต้องจับคู่กับตัวละครที่ฮีลได้เท่านั้น
– ค่อนข้างที่จะต้องสู้กับบอสแบบเฉพาะทาง หากเป็นบอสประเภทไม่มี Part เยอะ ก็จะไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่นัก
– ตัวที่นำมาฮีลต้องเก่งพอที่จะดึงพลังชีวิต A2 ให้เต็มได้ เพื่อไม่ให้ระยะเวลาใน Burst ครั้งต่อไปน้อยลง

ความน่าเก็บสะสมและจำนวนดาวที่ควรมี

สำหรับผู้เล่นที่ไม่จริงจังเน้นเล่นเนื้อเรื่องปกติ A2 อาจจะไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่นัก เพราะค่อนข้างเฉพาะทางอีกทั้งยังจำกัดตัวเลือกความหลากหลายในทีมของเราอีกด้วย ซึ่งในแง่ตัวเมต้าหลักในปัจจุบัน มีหลายตัวละครที่ดีกว่ามาก

ในแง่ผู้เล่นจริงจัง เนื้อหา End Game ก็ถือว่าเป็นที่น่าสนใจ แต่ด้วยความเฉพาะทางของเธอที่จะเก่งมากกับบอสที่มี Part เยอะ แต่ก็จะธรรมดาไปเลยเมื่อเจอบอสที่ไม่มี Part (หรือ Part แตกไว) ซึ่งจุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับทรัพยากรของผู้เล่นที่จะเล่นมาทุ่มจริงจังขนาดไหน แต่อย่างน้อยควรจะมี 2-3 ดาว เพื่อดึงค่าความสัมพันธ์ให้ครบ 30 เป็นอย่างตัว ถ้าคิดจะปั้นติดไอดีไว้


เรียกได้ว่าทั้งสองตัวละครนั้นเป็นตัวที่เก่งหากปั้นสุด แต่กระนั้นทั้งคู่ก็เป็นตัวละครที่ เก่งแบบมีเงื่อนไข แต่หากเงื่อนไขลงตัวก็นับได้ว่าเป็นตัวที่ไม่น้อยหน้าตัวเมต้าหลัก ๆ ในปัจจุบันเช่นกัน โดยเฉพาะใครที่จะปั่น Solo Raid ในรอบนี้ ถือว่าทั้งคู่เป็นตัวละครที่ขาดไม่ได้อย่างแน่นอน


ติดตามข่าวเกมมือถือ ได้ที่ Online Station

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้