ภายในเกม Astracraft นั้น จะมีโหมดต่างๆ เยอะแยะมากมาย ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำเพื่อนๆ ในส่วนของ Versus Mode หรือโหมดที่เน้นการสู้กันเป็นหลัก ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับความต้องการและสไตล์การเล่นของแต่ละคน เรามาดูกันดีกว่าว่าในแต่ละโหมดนั้นมีวิธีการเล่นที่แตกต่างกันอย่างไร
Infinite Arena

Infinite Arena เป็นโหมดทั่วไป ที่เหมาะสำหรับใครที่ตามที่อยากมาทดสอบยานของเรา โดยโหมดนี้จะเป็นการยิงกันหมดแบบ Free fo All และผู้เล่นสามารถสร้างหุ่นได้อย่างเต็มที่ตั้งแต่เริ่มตามชิ้นส่วนที่ผู้เล่นแต่ละคนมี ซึ่งหากเราตายในโหมดนี้ ก็สามารถเกิดใหม่ได้เรื่อยๆ ทำให้มันเป็นโหมดที่เหมาะมากในการทดสอบยานของเราว่ามีประสิทธิภาพแค่ไหน

โดยทั่วไปโหมดนี้จะมีระยะเวลาการเล่นอยู่เกือบครึ่งชม. ซึ่งถือว่านานพอตัว แต่เราไม่จำเป็นที่จะต้องเล่นให้ครบเวลาก็ได้ เพราะในโหมดนี้เปิดโอกาสให้เพื่อนๆ สามารถออกได้ตลอดเวลา และจะมีคนสลับเข้ามาแทนในห้องเกือบจะตลอด ซึ่งหากเราออกกลางคันตัวเกมก็จะคำนวณคะแนนที่เราได้ไปแล้ว โดยไม่มีอะไรเสียไปแม้แต่น้อย
Rumble Mode

Rumble Mode นั้นจะเป็นโหมดที่แข่งกันเก็บชิ้นส่วนให้มากที่สุด โดยเริ่มเกมมาเราจะสามารถเลือกจุดที่เราต้องการจะลงบนแผนที่ได้ และเราจะเป็นเพียงแค่ชิ้นส่วน Core เท่านั้น ซึ่งเราจะสามารถหายานเปล่าที่มีสัญลักษณ์สีเขียวด้านบน เพื่อมาทำลายเก็บชิ้นส่วน หรือเลือกที่จะยึดยานนั้นมาเป็นของเราได้

เมื่อเราได้ชิ้นส่วนต่างๆ มาแล้ว เราจะสามารถประกอบยานของเราเองได้เช่นกัน เพียงแต่เราจะสามารถสร้างได้เฉพาะในส่วนของชิ้นส่วนที่เราเก็บมาได้เท่านั้น โดยจุดนี้ตัวโหมดจะมีสิ่งที่เรียกว่า Blueprint ที่เราสามารถเซ็ตไว้ได้ และถ้าหากเรามีชิ้นส่วนที่ต้องการในแบบแปลนนั้นครบ เราก็สามารถสร้างได้ทันที

เนื่องจากโหมดนี้เอาชนะกันด้วยคะแนนจากการเก็บชิ้นส่วนมากที่สุด ดังนั้นควรสร้างยานที่เน้นความเร็วเป็นหลัก ให้เราสามารถเคลื่อนตัวรอบแผนที่ไล่เก็บชิ้นส่วนต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอย่าลืมสร้างของป้องกัน และอุปกรณ์ต่อสู้ไว้จัดการศัตรูที่คะแนนนำเราด้วยละ
Storm Mode, Super Storm Mode

ในส่วนของ Storm Mode นั้น จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับ Rumble Mode ในหลายส่วน โดยเริ่มเกมเราจะสามารถเลือกจุดลงบนแผนที่ได้ เพียงแต่ตรงจุดนี้เราจะได้เลือกยาน 3 ประเภท เพื่อมาเป็นยานเริ่มต้นของเรานี่เอง

ภายในแผนที่นั้นจะมีอุปกรณ์ต่างๆ ตกอยู่ทั่วไป ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องเข้าไปเกือบเพื่อในชิ้นส่วนเหล่านั้นมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับยานของเราเอง คล้ายกับ Rumble Mode ตรงที่ตัวเกมจะมีคำสั่ง Blueprint ให้เราสามารถยานนั้นๆ ได้ทันทีหากเรามีชิ้นส่วนที่ต้องการครบ นอกจากนี้ยังมียานแบบพิเศษซึ่งเราสามารถเข้าไปยึดได้อีกด้วย หรือจะทำลายแล้วนำชิ้นส่วนมาประกอบเองก็ได้เช่นกัน

ในโหมดนี้ผู้ที่เหลือรอดคนสุดท้ายเท่านั้นคือผู้ชนะ ดังนั้นเราควรบาลานซ์หุ่นให้ดีระหว่างเรื่องของการเอาตัวรอดและการโจมตี โดยในช่วงต้นเกมควรเน้นหุ่นที่มีความเร็วเพื่อหาชิ้นส่วนต่างๆ ให้มากที่สุด โดยในช่วงท้ายก็ให้ปรับยานที่เหมาะกับการต่อสู้เป็นหลักแทน เพื่อคว้าชัยชนะในครั้งนี้

ส่วนทางด้านของ Super Storm Mode นั้น มีวิธีการเล่นที่เหมือนกัน เพียงแต่เป็นการเล่นแบบเป็นทีม 3 คน เท่านั้น ซึ่งเราสามารถชุบชีวิตยานของเพื่อนเราที่พังไปแล้วได้อีกด้วย
Capture Point

ในส่วนของโหมด Capture Point นั้นเคยมีเขียนอธิบายไว้แล้วตามลิงค์นี้ (Astracraft แนะนำโหมด 5v5 Capture Point) ซึ่งตัวโหมดจะเป็นการชิงแต้มจากการยึดจุดให้เป็นสีของทีมเรา และต้องคอยป้องกันไม่ให้ทีมฝ่ายตรงข้ามยึดจุดคืนไปได้ โดยในโหมดนี้เราสามารถสร้างยานของเราได้อย่างเต็มที่เหมือนกับโหมด Infinite Arena อีกด้วย

ในตัวโหมด Capture นั้นจะมีอยู่ 2 แบบ ได้แก่ Single Capture ซึ่งจะเป็นโหมดยึดจุดเพียงจุดเดียว และจะเล่นกันฝั่งละ 3 คนเท่านั้น ส่วนอีกโหมดจะเล่นแบบ 5v5 ซึ่งจะมีจุดให้ยึดถึง 3 จุดด้วยกัน ทำให้ต้องวางแผนส่งคนไปยึดในแต่ละจุดให้ดีๆ นี่เอง
Building Mode

ในส่วนของ Building Mode นั้น จะเป็นการเล่นแบบ 3v3 ซึ่งเราจะต้องแข่งกันสร้างบล็อคให้ได้เยอะมากกว่าศัตรู ในพื้นที่ๆ กำหนด โดยเราจะได้คะแนนก็ต่อเมื่อในพื้นที่นั้นมีบล็อคของฝั่งสีเราอยู่สูงที่สุดเท่านั้น

ภายในโหมดนี้จะมีอุปกรณ์บังคับที่เราจำเป็นต้องซื้อก่อนถึงจะสามารถเข้าร่วมโหมดนี้ได้ นั่นก็คือชิ้นส่วน Star Tread และ Builder เพื่อใช้ในการสร้างบล็อคนี่เอง

แม้ภายในโหมดนี้การสร้างบล็อคดูจะเป็นเรื่องจำเป็น แต่เราก็ต้องคอยระวังไม่ให้ศัตรูสามารถทำลายบล็อคเราได้โดยง่าย ทั้งนี้ยานของเรายังสามารถถูกทำลายได้อีกด้วย ดังนั้นการปรับแต่งหุ่นต้องคำนึงให้ดีว่าเราอยากเล่นอยู่ในตำแหน่งแบบไหน อยากจะเน้นสร้างเป็นหลัก หรือจะเน้นตัดกำลังฝ่ายศัตรู ก็ต้องคอยปรับหุ่นให้เหมาะสมนะครับ
Download Astracraft ได้ที่ – www.astracraftgame.com