รู้ก่อนใครกับข้อมูลล่าสุดจาก Diablo Immortal ส่งตรงจากทีมพัฒนา!

Diablo Immortal เกมบนสมาร์ทโฟนจากแฟรนไชส์ RPG ชื่อดังที่โดนกระแสแอนตี้อย่างหนักหน่วงในช่วงเปิดตัวของทาง Blizzard ทว่าที่ต้องยอมรับก็คือแม้หลายคนจะรู้สึกผิดหวัง รู้สึกโกรธ กระนั้นมันก็ยังเป็นเกมที่มีคนจำนวนมากให้ความสนใจอยู่ดีไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกแบบไหนก็ตาม

ซึ่งหลังจากผ่านพ้นวันที่ประกาศเปิดตัวและตัวเกมถูกพัฒนามาในระยะเวลาพอสมควรแล้วก็ดูเหมือนว่าทาง Blizzard จะพร้อมโชว์ตัวเกมให้สื่อมวลชนได้รับรู้ข้อมูลและรับชมเกมเพลย์ในช่วง Alpha กันแล้วครับ และทาง Online Station ก็ได้ถูกเชิญให้เข้าร่วม Diablo Immortal Online Media Event ครั้งนี้ด้วยเช่นกัน และด้านล่างนี้คือข้อมูลที่ทีมงานของเรารวบรวมมาได้จากอีเวนต์ครั้งนี้ครับ

ข้อมูลทั่วไป

● Diablo Immortal จะเป็นเกม Free-to-play
● Technical Alpha จะเปิดให้ทดลองเล่นในโซนออสเตรเลียเร็วๆ นี้
● ยังไม่มีกำหนด Global Launch หรือเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ
● เนื้อเรื่องอยู่ช่วง 20 ปีหลังจบ Diablo II: Lord of Destruction จนถึงก่อนเริ่ม Diablo III
● หน้าที่ของผู้เล่นตามเนื้อเรื่องคือรวบรวมชิ้นส่วนของ Worldstone ให้ได้ก่อนที่ Skarn (Herald of Terror) จะเป็นฝ่ายรวบรวมมันได้ครบเพื่อคืนชีพ Diablo

เมืองหลัก Westmarch

● Westmarch จะเป็นเหมือน Hub สำหรับพบปะกันผู้เล่นคนอื่นๆ
● มี Bounty Board หรือภารกิจให้เลือกทำเพื่อเก็บรางวัล ซึ่งสามารถเล่นได้ 12 ครั้งต่อวัน
● มี Blacksmith สำหรับ Salvage, Upgrade, Reforge, และ Transmute

Blacksmith

● Salvage คือย่อยอุปกรณ์สวมใส่เป็นวัตถุดิบ
● Upgrade คือใช้วัตถุดิบพัฒนาความสามารถของอุปกรณ์สวมใส่ (สูงสุดได้ 20 แรงก์)
● Reforge คือการเปลี่ยนค่า Attribute ของอุปกรณ์สวมใส่
● Transmute คือการเปลี่ยนรูปลักษณ์ของอุปกรณ์สวมใส่
● หาก Salvage อุปกรณ์ที่ถูกอัปเกรด เราก็จะได้วัตถุดิบที่เคยใช้ในการอัปเกรดอุปกรณ์ชิ้นนั้นๆ คืนทั้งหมด

ระบบกิลด์

● สามารถพิมพ์คุยในกิลด์ได้
● สามารถอัดคลิปเสียงความยาวไม่เกิน 15 วินาทีเพื่อพูดคุยในกิลด์ได้

สิ่งที่จะมีใน Technical Alpha

● เลือกเพศของตัวละครได้ (เดโมตอน BlizzCon 2018 เลือกไม่ได้)
● เลือกเล่นได้สี่คลาส คือ Barbarian, Wizard, Demon Hunter และ Monk
● Crusader และ Necromancer รวมถึงคลาสอื่นๆ จะมีอัปเดตตามมาในภายหลัง
● การกดใช้สกิลจะเป็นตัวสะสมแถบ Ultimate เพื่อใช้ท่าไม้ตาย
● มีหกโซน Open World ให้เล่น ซึ่งภายในนั้นจะพบดันเจี้ยนจำนวนมาก
● มีโซนสำหรับ PVP ที่ผู้เล่นที่เหลือรอดเป็นคนสุดท้ายจะได้รับรางวัล
● ระหว่างลงดันเจี้ยนเพื่อเล่นตามเนื้อเรื่องจะมีไซด์เควสต์ตามทางให้เลือกทำ ซึ่งไซด์เควสต์เหล่านี้อาจเล่นได้ยาวเป็นชั่วโมง เช่น กำจัดมอนสเตอร์หรือทำตามเงื่อนไขของ Cursed Chest คล้ายๆ กับของ Diablo III
● แต่ละโซนจะมี Objective เฉพาะให้เลือกเคลียร์เพื่อเก็บรางวัล สามารถเล่นคนเดียวหรือเล่นร่วมกับผู้เล่นคนอื่นก็ได้
● สามารถเจอบอส The Countess จาก Diablo II ได้ในโซน Dark Wood
● มีสามระดับความยากคือ Normal, Nightmare, และ Hell ซึ่งสิ่งตอบแทนออย่าง EXP และ Loot จะแตกต่างไปตามระดับความยาก
● เลเวลตันที่ 45
● ระบบ Paragon หลากหลายกว่าของ Diablo III คือมีให้เลือกอัปสกิลตามสายที่เล่น เช่นสายแทงก์หรือสายดาเมจ เป็นต้น (มีให้เลือกสี่สายใน Technical Alpha)
● Elder Rift มีรูปแบบการเล่นที่คล้ายกับ Nephalem Rift ของ Diablo III ที่แถบสะสมจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนมอนสเตอร์ที่ผู้เล่นกำจัดได้ระหว่างทาง ยิ่งกำจัดมอนสเตอร์ประเภท Elite หรือ Champion แถบดังกล่าวก็จะยิ่งเต็มเร็วขึ้น และเมื่อแถบเต็ม บอสประจำ Elder Rift ก็จะปรากฏตัว หากผู้เล่นกำจัดบอสได้ก็จะได้รับรางวัล
● Elder Rift เข้าได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อวัน

การใช้เงินจริง

● ไม่สามารถใช้เงินจริงเพื่อซื้ออุปกรณ์สวมใส่ได้ Loot ทุกชิ้นผู้เล่นต้องเป็นคนเล่นให้ได้มาด้วยตัวเองเท่านั้น
● มี Battle Pass ให้ซื้อเหมือนกับเกม Free-to-play ทั่วไป โดยของรางวัลจะแตกต่างกันระหว่างผู้ที่ซื้อและไม่ซื้อ
● Objective ต่างๆ ของ Battle Pass คือการเคลียร์ Elder Rift, Dungeon และ Bounty
● มี Crest ให้ซื้อ ซึ่งมันก็คือออปชั่นสำหรับลง Elder Rift เช่นศัตรูจะระเบิดเมื่อตาย และจำนวนของ Crest ก็จะส่งผลต่อรางวัลที่ได้รับหลังเคลียร์ Elder Rift

ข้อมูลทางเทคนิค

● ตัวเกมจะรันขั้นต่ำที่ 30FPS แต่บางอุปกรณ์จะสามารถเลือกปรับเป็น 60FPS ได้
● แม้ว่า Diablo Immortal จะเป็นเกมที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง Blizzard และ NetEase แต่ Blizzard นับว่านี่คือการรวมทีมพัฒนาเป็นทีมเดียว เพราะทั้งคู่ต้องพูดคุยกันระหว่างพัฒนาทุกๆ วัน

ก็ประมาณนี้ครับสำหรับข้อมูลที่ทีมงานของเรารวบรวมมาได้ ซึ่งจากเกมเพลย์ที่ได้เห็น ส่วนตัวแล้วคือรู้สึกว่าดูดีกว่าที่คิดพอสมควรเลย และผมเองซึ่งอาจไม่ใช่แฟนเดนตายสักเท่าไหร่ก็คิดว่ามันมีความน่าเล่นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ แม้กระนั้นตัวเกมก็เพิ่งอยู่ในช่วง Alpha และคงอีกสักพักใหญ๋ๆ กว่าที่เราจะได้เล่นกันแบบเต็มๆ ก็คงต้องเอาใจช่วยให้ตัวเกมออกมายอดเยี่ยมสมกับใช้ชื่อแฟรนไชส์ในตำนานอย่าง Diablo กันครับ

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้