Hearthstone ชุดเสริมใหม่ โหมดใหม่ ระบบใหม่: Hearthstone Fall Reveal
Hearthstone ชุดเสริมใหม่ โหมดใหม่ ระบบใหม่: 3 ไฮไลท์จาก Hearthstone Fall Reveal (การเปิดเผยในช่วงฤดูใบไม้ร่วง)
เมื่อคืนนี้ใน Twitch ช่อง Playhearthstone ได้มีไลฟ์สตรีมเปิดเผยคอนเทนท์ใหม่ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับคอมมูนิตี้ Hearthstone ไปไม่น้อย
และ CGPepe จะมาสรุปให้ทุกท่านเสพกันว่า ไฮไลท์เด่น ๆ จาก Fall Reveal (การเปิดเผยในช่วงฤดูใบไม้ร่วง) ครั้งนี้มีอะไรบ้าง พร้อมเบื้องลึกจากการสัมภาษณ์ผู้พัฒนาเกมทั้ง Chadd Nervig และ Liv Breeden ครับ
Madness at the Darkmoon Faire: ชุดเสริมใหม่ธีมงานวัดสยอง
ชุดเสริมใหม่เอี่ยมที่กำลังจะมาของ Hearthstone อย่าง Madness at the Darkmoon Faire มีพื้นฐานหลักจาก Darkmoon Faire เทศกาลงานวัดธีมดาร์ค ๆ ที่ผู้เล่น World of Warcraft น่าจะรู้จักกันดี
แต่ความพิเศษของชุดเสริมใหม่นี้คือการกลับมาของ Old Gods ทั้ง 4 องค์อย่าง C’Thun N’Zoth Y’Shaarj และ Yogg-Saron จาก Whispers of the Old Gods แต่คราวนี้มาในรูปแบบใหม่ที่พลิกแพลงไปจากร่างเดิม
นอกจากนี้ Madness at the Darkmoon Faire ยังมากับความสามารถใหม่อย่าง Corrupt (หรือครอบงำ) โดยการ์ดที่มีความสามารถนี้จะ “อัพเกรด” เมื่อคุณเล่นการ์ดที่ค่าร่ายสูงกว่าการ์ดใบนี้ โดยการ์ดที่อัพเกรดแล้วจะมีรูปลักษณ์ใหม่ ซึ่งสะท้อนถึงการโดนพลังมืดครอบงำด้วย
โดยทีมผู้พัฒนาได้เปิดเผยว่าการ์ดใหม่บางใบเช่น Guess the Weight ก็มาจากเกมงานวัดใน Darkmoon Faire นั่นเอง และด้วยมู้ดและโทนที่เบาสมองของ Hearthstone ทำให้ทีมพัฒนาสามารถนำเสนอตัวละคร รือการ์ดต่าง ๆ ที่แม้จะดูชั่วร้ายได้แบบขำขัน
และสาวก Hearthstone สามารถพรีออเดอร์ Madness at the Darkmoon Faire ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยมีให้เลือกทั้ง Bundle เล็กราคา 39.99 เหรียญ และ Bundle ใหญ่ ราคา 79.99 เหรียญครับ
ดวลเดือด: โหมดใหม่ได้ใจผู้เล่นทุกสาย
ดวลเดือดหรือ Duels โหมดใหม่เอี่ยมนี้ เป็นเหมือนการผสมผสานระหว่างโหมดผจญภัยคนเดียวแบบ Dungeon Run กับโหมดลานประลองหรือ Arena
โดยใน Duels ผู้เล่นจะได้เลือกฮีโร่เริ่มต้น 1 ตัว จากพูลทั้งหมด 9 ตัว (แต่มีมาให้เลือกทีละ 3 ตัว คล้าย ๆ โหมดลานประลอง หรือ Arena) และหลังจากนั้น ผู้เล่นจะได้เลือกพลังฮีโร่ 1 จาก 3 แบบ ของฮีโร่ตัวนั้นเช่นกัน (โดยเงื่อนไขในการปลดล็อคพลังฮีโร่ขึ้นกับการ์ดในคอลเลคชั่นของเรา) และในเด็คแรกของคุณ จะสามารถเลือกการ์ด 15 ใบ (ที่ไม่ซ้ำกัน) จากคอลเลคชั่นจัดเด็คได้ พร้อมเลือกสมบัติพิเศษ 1 ชิ้น เข้าเด็คได้เช่นกัน
หลังจากนั้น ผู้เล่นจะเข้าไปต่อสู้แบบโหมด Arena โดยถ้าแพ้ถึง 3 ครั้ง จะสิ้นสุดการดวลเดือดในรอบนั้น และถ้าชนะถึง 12 ครั้ง ก็จะถือว่าไปสุดทางเช่นกัน
และเช่นเดียวกับ Dungeon Run หลังชัยชนะหรือความพ่ายแพ้แต่ละครั้ง ผู้เล่นจะได้เลือกชุดการ์ด (ซึ่งมีให้เลือก 3 ชุด ชุดละ 3 ใบ) หรือสมบัติเข้าเด็คเพื่อรับมือกับคู่แข่งที่จะโหดขึ้นเรื่อย ๆ (เพราะเราจะได้เจอผู้เล่นที่มีจำนวนวินเท่ากับเรา เหมือนกับใน Arena) *12
ทั้งนี้ ใน Duels จะแบ่งการเล่นย่อยอีกเป็น 2 โหมด ได้แก่โหมดธรรมดา ซึ่งไม่ต้องเสียค่าเข้าเล่น แต่จะไม่มีรางวัลให้เมื่อเล่นจบในแต่ละตา ส่วนสายแข่งขันที่หวังรางวัลก็มีโหมด Heroic ให้ได้ประลองฝีมือ โดยแต่ละรอบมีค่าเข้าเล่น 1.99 เหรียญสหรัฐ หรือ 150 gold เท่ากับ Arena และหลังเล่นจบจะได้รางวัลที่มีโครงสร้างเหมือนอารีน่าเป๊ะ โดยได้ซองการ์ดจากชุดเสริมล่าสุด 1 ซอง บวกกับรางวัลอื่น ๆ ตามจำนวนวินที่ทำได้ในตานั้น ๆ และทั้งโหมดธรรมดาและ Heroic จะมีการจัดเรตติ้งหรือ MMR คล้าย ๆ กับในโหมด Battlegrounds ด้วย
ทั้งนี้ ผู้พัฒนาเปิดเผยว่าการเข้ามาของ Duels ไม่ได้หมายความว่าการผจญภัยแบบ Dungeon Run จะหายไปเลย และ Duels ถือเป็นโหมดที่ผู้เล่นหลายคนร้องขอ เพราะผู้เล่นก็อยากนำเด็คที่สุดทรงพลังที่ปกติเอาไปตบบอส ไปดวลกับผู้เล่นจริง ๆ บ้าง ก็ถือเป็นการตอบโจทย์ที่ตรงจุดของทีมงาน Hearthstone เลยทีเดียว
โหมดดวลเดือดจะเปิด Early Access ให้กับผู้เล่นที่พรีออเดอร์บันเดิ้ลของ Darkness at the Moonfaire ชุดเสริมใหม่ของ Hearthstone ทั้งแพ็คใหญ่และแพ็คเล็ก ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคมนี้ ส่วนผู้เล่นที่ไม่ได้พรีก็ต้องอดใจรอถึงวันที่ 13 พฤศจิกายนโน่นเลยครับถึงจะได้ลิ้มลองการดวลเดือด และสำหรับท่านที่ยังนึกไม่ออกว่าเกมการเล่นในโหมดนี้เป็นอย่างไร สามารถรับชมคลิปตัวอย่างด้านล่างได้เลยครับ
ระบบ Progression ใหม่: Achievements, Reward Track และปรับระบบเควสท์
สำหรับ CGPepe นี่คือฟีเจอร์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นที่สุดใน Fall Reveal (การเปิดเผยในช่วงฤดูใบไม้ร่วง) รอบนี้ เพราะหลายสิ่งอย่างที่เพิ่มเข้ามาน่าจะสร้างแรงจูงใจให้สาวก Hearthstone เข้ามาเล่นเกมนี้อย่างต่อเนื่อง
เริ่มจาก Achievements ซึ่งแทบจะเป็นฟีเจอร์สามัญประจำบ้านของเกมยุคใหม่ไปแล้ว ก็ได้มาปรากฏกายใน Hearthstone เสียที โดยตัว Achievements ยังแยกย่อยออกเป็นหลายส่วนตามโหมดต่าง ๆ ในเกม หรือบาง Achievements ก็เกี่ยวกับจำนวนการ์ดที่มีในคอลเลคชั่น ก็ถือว่าส่วนเพิ่มตรงนี้น่าจะถูกใจผู้เล่นสาย Completionist ที่ต้องการเก็บทุกอย่างในเกมให้ครบครับ
ต่อด้วยอีกสิ่งที่ถือเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” นั่นก็คือ Reward Track โดยใน Reward Track นี้ ผู้เล่นจะเก็บประสบการณ์ในเกมผ่านทางเควสท์รายวัน การทำ Achievements และการเล่นเกมในโหมดต่าง ๆ เพื่อเก็บเลเวลไปเรื่อย ๆ และเมื่อถึงแต่ละเลเวล ก็จะปลดล็อครางวัลต่าง ๆ ทั้ง Gold, การ์ด, แพ็คการ์ด, สกินฮีโร่ ซึ่ง Reward Track นี้เป็นสิ่งที่ผู้เล่นสามารถทำได้ฟรี
แต่ถ้าเป็นสายเปย์สักเล็กน้อย ก็สามารถเจียดเงินซื้อ Tavern Pass หรือถ้าในภาษาเกมอื่น ๆ เรียกว่า Battle Pass ได้ โดยผู้มี Tavern Pass จะสามารถปลดล็อครางวัลเพิ่มเติมจาก Reward Track ธรรมดาได้ แถมยังได้ประสบการณ์โบนัสซึ่งทำให้เก็บเลเวลได้เร็วขึ้นอีก
อีกสิ่งที่น่าสนใจคือการปรับระบบเควสท์ โดยจากนี้ไปเควสท์จะไม่ให้รางวัลเป็น gold แต่ให้รางวัลเป็นประสบการณ์ซึ่งเอาไว้อัพเลเวลของ Reward Track ได้ และทีมพัฒนายังได้เพิ่มเควสท์รายสัปดาห์เข้ามาอีกสัปดาห์ละ 3 เควสท์! เพื่อให้การเก็บประสบการณ์ปลดล็อครางวัลใน Reward Track ง่ายขึ้นไปอีก
และอีกส่วนที่เหมือนเป็นการพัฒนา “คุณภาพชีวิต” ของผู้เล่นคือหน้า Player Profile ใหม่ ที่จะรวมสถิติที่น่าสนใจของผู้เล่นในทุกโหมดไว้ในหน้าเดียวเพื่อให้ดูง่าย
จากการสัมภาษณ์ทีมพัฒนา พวกเขาเปิดเผยว่าใช้เวลาออกแบบระบบ Progression นี้มาร่วมปี และพวกเขาค่อนข้างคาดหวังสูงว่าการปรับระบบครั้งใหญ่นี้ จะสามารถดึงดูดผู้เล่นให้มาเล่น Hearthstone ได้สม่ำเสมอขึ้น และระบบ Reward Track ที่กำลังจะมาใหม่ จะให้รางวัลแก่ผู้เล่นได้ไม่น้อยหน้าระบบเก่าที่มีแต่เควสท์รายวันแน่นอนครับ
ก็ถือว่าทั้ง 3 ฟีเจอร์ใหม่จาก Fall Reveal (การเปิดเผยในช่วงฤดูใบไม้ร่วง) รอบนี้น่าจะสร้างความตื่นเต้นให้กับสาวก Hearthstone ได้ไม่น้อย แฟน ๆ ก็อย่าลืมเตรียมใจ เตรียมใจ (และเตรียมเงิน) เพื่อรับความสนุกที่กำลังจะมาถึงในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้กันด้วยนะครับ!
Hearthstone ชุดเสริมใหม่ โหมดใหม่ ระบบใหม่: Hearthstone Fall Reveal
CGPepe