สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว OS มาเจอกับกระผมท่านหลอด (Dark_Librarian) ในคอนเทนต์รายงานพิเศษกันอีกแล้วนะครับ ซึ่งช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาตัวผมได้มีโอกาสไปงานที่ต่างประเทศมาถึง 3 งานด้วยกัน 2 งานแรกเกี่ยวกับเกม ทว่างานล่าสุดแม้จะข้องแวะอยู่นิดๆ แต่ก็ไม่เชิงเป็นเกมเสียทีเดียว กับงาน Google Playtime ที่ประเทศสิงคโปร์ครับ โดยงานนี้ทาง Google ประเทศไทยก็ได้เชิญ OS และสื่อไทยอีก 3 เจ้าไปร่วมงานด้วย ก็ต้องขอบคุณทาง Google ประเทศไทยมากๆ ครับ
สำหรับงาน Google Playtime นั้นว่ากันตามตรงมันคืองานที่ทาง Google จัดขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่ให้เหล่านักพัฒนาแอพบนแพลตฟอร์ม Android ได้พบปะและพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน รวมถึงได้คุยกับเจ้าของแพลตฟอร์มอย่าง Google โดยตรงเพื่อถกถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นหรือเสนอแนะความคิดเห็นเพื่อจะร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาแพลตฟอร์ม Android ให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปครับ
ทั้งนี้ภาพรวมของงานจะเป็นเหมือนปาร์ตี้เล็กๆ (ก็ไม่เล็กนะ...) ของคนคุ้นเคยกลุ่มใหญ่ที่นานๆ ได้กลับมาเจอกันทีในบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง อาหารและนํ้าเสิร์ฟฟรีตลอดงาน (อันนี้ดี...) มีทั้งโซนกล้างแจ้ง และโซนโชว์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Google เช่น Day Dream หรือ Pixel 2 ที่จัดเป็นเหมือนห้องนั่งเล่นมีโต๊ะให้น้อง มีขนมทานเล่น มีซอฟดริ๊งให้ดื่ม แบบว่าเดินในงานนี้ยังไงก็ไม่อดตายครับอยู่ดีกินดีสุดๆ ผมไปมาแล้วผมชอบมาก...
ขณะที่ตัวงานในช่วงบ่ายจะเป็นการสมนากันในกลุ่มนักพัฒนาในห้องประชุมใหญ่ ไฮไลต์ของสื่ออย่างผมจะอยู่ในช่วงเช้าที่ทาง Google ได้จัดขึ้นในห้องเล็กๆ ใกล้ๆ กัน ซึ่งเนื้อหาก็จะไล่ไปตั้งแต่เปิดงาน โชว์สถิติต่างๆ ของ Android และ Play Store ก่อนตบท้ายด้วยการนำนักพัฒนาที่พัฒนาแอพจนประสบความสำเร็จจาก 5 ประเทศในแถบ SEA ขึ้นมาแนะนำแอพของตัวเองและให้ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์พัฒนาแอพที่ผ่านมาครับ ของไทยก็จะมีทาง Ookbee ขึ้นให้ข้อมูลแอพใหม่ในเครือที่กำลังมาแรงสุดๆ อย่าง Joy หรือ จอยลดา นั่นเอง
ถามว่าในส่วนนี้มันมีประโยชน์อะไรกับชีวิต ผมว่าการได้รับรู้ว่าทีมพัฒนามีแนวคิดอย่างไร และคิดถึงอะไรตอนพัฒนาแอพมันก็ดีเหมือนกันนะครับ คือผมว่าแนวคิดดีๆ มันเอาไปปรับใช้ได้ในทุกวงการนั่นแหละ อย่างช่วงเซสชั่นการให้ข้อมูลของ 5 นักพัฒนาแอพนี่ผมค่อนข้างชอบแนวคิดหลายๆ อย่างๆ จากหลายๆ คนเลย อย่างมีท่านหนึ่งบอกว่าการทำ Localization หรือแปลภาษาท้องถิ่นเนี่ย มันอาจจะเสียเวลาเสียเงิน แต่ก็สำคัญกับการขยายฐานผู้เล่น เพราะจะทำให้ผู้เล่นในพื้นที่นั้นๆ สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ได้ลึกและอินมากขึ้น ขณะที่อีกท่านก็เสริมได้ดีว่าการ Localization มันไม่ควรเป็นแค่การแปลภาษาท้องถื่นแบบส่งๆ แต่มันคือการที่ต้องทำความเข้าใจกับวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ ให้ลึกลงไปในอีกสเต็ปจึงจะถือได้ว่าเป็นงานที่มีคุณภาพ
ส่วนทาง Ookbee ของเราก็ไม่แพ้กันครับ พูดถึงแรงบันดาลใจของแอพในเครือว่าตั้งใจจะให้เป็นพื้นที่ปล่อยของของวัยรุ่น เพราะวัยรุ่นไทยมีความเป็นศิลปินในตัว แต่หลายๆ คนไม่อาจก้าวข้ามกำแพงได้ บางคนชอบวาดรูปแต่ไม่เก่งพอจะวาดขาย บางคนชอบแต่งนิยายแต่ก็ไม่ถูกสำนักพิมพ์เลือกไปตีพิมพ์เสียที ดังนั้นแล้วการมีอยู่ของแอพในเครือ Ookbee คือการกระตุ้นให้วัยรุ่นได้โชว์ของที่ตัวเองมีออกมาในพื้นที่แห่งหนึ่งซึ่งมันสามารถพัฒนาไปถึงขั้นขายผลงานได้เลยหากมีคนชอบมากพอ นอกจากนี้ก็มีพูดถึงเรื่องช่องทางการชำระเงินซึ่งควรมีมากกว่าบัตรเครดิตเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม เช่นบัตรเติมเงินจากโอเปอเรเตอร์ในพื้นที่ เป็นต้น ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Ookbee ไม่ใช่แค่โตในไทย แต่ยังขยับขยายไปทั่วภูมิภาค SEA แล้วในตอนนี้
ในเซสชั่นช่วงบ่ายพวกผมอยู่ถึงแค่ครึ่งเดียวเพราะมีคิวต้องไปทัวร์ออฟฟิศใหม่ระดับ Asia Head Quater ของ Google ครับ ซึ่งจะมานำเสนอกันในบทความถัดไปอย่างแน่นอน
สำหรับทริปสิงคโปร์ครั้งนี้อาจจะดูเร่งด่วนไปสักหน่อย แต่ก็ต้องขอขอบคุณทาง Google ประเทศไทยอีกครั้ง ที่ให้เกียรติเชิญ OS เป็น 1 ในสื่อไทยที่ได้มีโอกาสทำข่าวและทัวร์ออฟฟิศ Google แบบสุด Exclusive มา ณ ที่นี้ด้วยครับ!
ต้องการ...