จับกลโกงใหม่ของร้านเครนเกมในญี่ปุ่น พร้อมข้ออ้างสุดฟังไม่ขึ้นโดยเจ้าของร้าน

สำหรับดราม่านี้เริ่มเกิดขึ้นเมื่อ Tsuranaka ยูทูบเบอร์รายหนึ่งของญี่ปุ่นได้ไปเล่นตู้เครนเกม (หรือที่บ้านเราเรียกติดปากกันว่าตู้คีบตุ๊กตานั่นแหละครับ) ในร้านหนึ่ง ทว่าตู้นี้จะเป็นการคีบลูกบอลแทน และลูกบอลแต่ละลูกจะมีสลากอยู่ด้านในที่บอกว่าเราได้รางวัลอะไร ซึ่งใครเจอสลากรางวัลพิเศษ (เหนือกว่ารางวัลที่ 1) ของตู้ดังกล่าวก็จะได้เครื่อง Nintendo Switch ไปครองทันที

ด้วยของรางวัลสุดล่อใจเช่นนี้ Tsurunaka ก็เลยลองเล่นตู้เครนเกมนี้ดู โดยหมายมั่นว่าจะพิชิตรางวัลเครื่อง Switch มาให้ได้ ซึ่งเขาได้ใช้เวลา 2 วันไปกับตู้ดังกล่าว หมดเงินไปประมาณ 60,000 เยน (ประมาณ 17,400 บาท) กระทั่งคีบลูกบอลออกมาได้หมดทุกลูกในตู้นั้น สรุปแล้วสลากที่เขาได้มา แบ่งเป็น

รางวัลที่ 3 จำนวน 40 ลูก (ได้เป็นน้ำยาล้างจาน รางวัลละขวด)
รางวัลที่ 2 จำนวน 3 ลูก
รางวัลที่ 1 จำนวน 1 ลูก (เลือกได้ว่าจะเอาเป็นเครื่องฟอกอากาศ หรือเครื่องเล่น Blu-ray)

จากรางวัลที่เขาได้มาทั้งหมด ปรากฏว่าไม่มีลูกบอลไหนที่มีสลากรางวัลสูงสุดเลย ด้วยความสงสัย เขาก็เลยไปถามพนักงานว่ามีคนได้รางวัล Nintendo Switch ไปในช่วงที่เขาไม่ได้เล่นหรือเปล่า แต่พนักงานกลับตอบว่ายังไม่มีใครได้รางวัลพิเศษไปเลย

ทีนี้ เมื่อสังเกตได้ถึงความไม่ชอบมาพากล Tsurunaka ก็เลยให้พนักงานไปเรียกเจ้าของร้านมาพูดสายกับตน จนได้ความว่าตู้เครนเกมเครื่องนั้นไม่เคยมีแจกรางวัลพิเศษใด ๆ ทั้งสิ้น พร้อมทั้งให้ตนไปดูข้อความที่พูดถึงรางวัลพิเศษดี ๆ ว่ามันมีลงไฮไลท์ด้วยแถบสีเขียวทับอยู่ (อารมณ์แบบจะอ้างว่าไฮไลท์นั่นคือการขีดฆ่านั่นแหละครับ)

Tsurunaka รู้สึกว่าคำอธิบายของเจ้าของร้านฟังไม่ขึ้นแม้แต่นิดเดียว เพราะสีเขียวที่เป็นไฮไลท์นั้นอ่อนมาก คืออ่านยังไงก็ต้องเข้าใจว่ามันคือการ “เน้นคำ” สถานเดียว เจ้าตัวเลยขอให้เจ้าของร้านส่งตัวแทนมาเคลียร์กันที่ร้าน แต่เจอบ่ายเบี่ยงว่าขอพบเป็นวันรุ่งขึ้นแทน มิหนำซ้ำยังเจอข้ออ้างใหม่จากเจ้าของร้านว่า “รางวัลพิเศษถูกลบออกไปแล้ว”

สุดท้าย Tsurunaka ก็เลยต้องแจ้งความให้เรื่องถึงตำรวจ ซึ่งตำรวจก็ไม่ได้ตั้งข้อหากับทางร้านแต่อย่างใด มีเพียงแค่ให้ร้านนำเทปมาปิดคำว่า “รางวัลพิเศษ” ไม่ให้ใครมองเห็นจนกว่าเจ้าของร้านจะหาป้ายอื่นมาเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม เคราะห์ดีที่เจ้าตัวยังได้เงินคืนเต็มจำนวน แต่ก็ต้องอดได้เครื่อง Switch เพราะกลโกงและข้ออ้างป่วย ๆ ของเจ้าของร้านซะงั้น

เรื่องนี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์สำหรับใครที่อยากจะไปลองตู้เครนเกมที่ญี่ปุ่นนะครับ จะเล่นตู้ไหนก็เช็คกันให้ดี ๆ ก่อนเด้อ