10 อันดับภาษาญี่ปุ่นบนอินเตอร์เน็ตที่ชายวัย 30-40 ไม่เข้าใจ

แชร์เรื่องนี้:
10 อันดับภาษาญี่ปุ่นบนอินเตอร์เน็ตที่ชายวัย 30-40 ไม่เข้าใจ

10 อันดับภาษาญี่ปุ่นบนอินเตอร์เน็ตที่ชายวัย 30-40 ไม่เข้าใจ

    เรียกว่าเป็นกันแทบจะทุกประเทศเลยก็ว่าได้สำหรับ ภาษาแปลกๆ หรือ คำแสลงต่างๆ ในโลกอินเตอร์เน็ต เมื่อคุณเข้าเว็บบอร์ดหรือโซเชี่ยลมีเดียอยู่เป็นประจำ ยังไงคุณก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยงการพบเห็นภาษาสุดพลิกแพลงนอกตำราของชาวเน็ตอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นภาษาใด ประเทศไหน ก็มักจะมีการใช้ภาษาที่น่าปวดหัวกันทั้งนั้น สำหรับวัยรุ่นที่ใช้อยู่นั้นอาจจะไม่มีปัญหาเพราะรู้ที่มาที่ไป แต่สำหรับผู้ใหญ่ที่เข้ามาเห็นเนี่ยสิ หากเล่นอินเตอร์เน็ตไม่บ่อยหรือไม่เคยใช้ ฟันธงได้เลยว่างงแน่นอน ชาวญี่ปุ่นเองก็มี 10 อันดับภาษาญี่ปุ่นบนโลกอินเตอร์เน็ตไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน

    จากความมึนงงของเหล่าคำศัพท์ประหลาดๆ ต่างๆ ทำให้ทาง Nico Nico News ได้ทำแบบสอบถาม พร้อมกับเผยผลสำรวจ “10 อันดับภาษาญี่ปุ่นบนอินเตอร์เน็ตที่ไม่เข้าใจ” ของชายวัย 30-40 ปีที่อาศัยอยู่ในโตเกียวจำนวน 100 คนออกมา (แบบทดสอบแบบเลือกได้หลายคำ) ผลการทดสอบครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลย

อันดับ 10 〇〇み (XXmi) 16%

10

    สำหรับความหมายของ 〇〇み นั้นมีได้หลายอย่างมาก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในความหมาย แบบให้ผู้อ่านเติมตัวอักษรเองอย่าง わかりみ ที่แปลว่าเข้าใจอย่างลึกซึ้งหรือ うれしみ ที่แปลว่าดีใจอย่างสุดซึ้ง ถ้าให้พูดง่ายๆ มันคือคำแสดงออกถึงความสุดซึ้งของผู้ใช้นั่นเอง     


อันดับ 9 とりま (Torima) 17%

9

    เป็นคำย่อจาก とりあえず、まあ ที่แปลว่า “ก่อนอื่น ก็นะ…” หรือ “ก่อนอื่น” เพื่อใช้ก่อนอธิบายอะไรยาว ๆ เลยโดนตัดสั้นซะแปลกไปเลย
    


อันดับ 8それな (Sore na) 25%

8

    เป็นคำที่ใช้แสดงความรู้สึกเห็นด้วยกับอีกฝ่าย หรือมีความคิดตรงกัน อย่าง “ใช่อย่างที่นายพูดเลย” หรือ “แบบนั้นเลย” ถ้าเป็นภาษาไทยก็แนวๆ ตามนั้น 


อันดับ 7秒で (Byou de) 27%

7

    แปลว่า “จะรีบทันที” หรือ “เร็วเลย!” ถ้าใครรู้ภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้ว ก็มีความหมายเดียวกับคำว่า すぐに หรือ 急いで นั่นเอง


อันดับ 6タピる (Tapiru) 28%

6

    ศัพท์ยอดฮิตในปัจจุบัน หากดูรูปก็อาจจะรู้ทันที คำนี้มีความหมายว่า “ได้เวลาชานมไข่มุก” หรือ “กำลังกินชานมไข่มุก” เนื่องจากภาษาญี่ปุ่น ชานมไข่มุก คือ タピオカ (Tapioka) ชาวเน็ตเลยมีการเล่นคำเพื่อแสดงให้เห็นว่ากำลังกินอยู่ จึงกลายเป็น タピ+る นั่นเอง!


อันดับ 5 〇〇すぎて死ねる (XXsugirute Shineru) 28%

5

    อันนี้เข้าใจไม่ยากเท่าไร เพราะมีความหมายว่า “XXเกินไปจะตายแล้ว” ส่วนใหญ่ใช้คู่กับ “น่ารักเกินไปจนตายแล้ว” ถ้าในเฟซบุ๊กบ้านเราคงเจอบ่อยกับ “เลือดหมดหลอด “ “ชุบทีมีใบ” ซึ่งมีความหมายคล้าย ๆ กับอันนี้


อันดับ 4からの~ (Kara no…) 30%

4

    เป็นคำที่คนปกติแทบไม่ค่อยใช้เท่าไร มันคือคำที่แปลว่า “แล้วไง?” “หลังจากนั้นล่ะ?” ซึ่งจะพบบ่อยในอินเตอร์เน็ตมากกว่าใช้ทั่วไป


อันดับ 3息子氏, 旦那くんなど… (Musuko-shi, Danna-kun, etc.) 41%

3

    ถ้าหากเราดูอนิเมะหรือซีรี่ส์ญี่ปุ่นบ่อยๆ ก็คงได้ยินคำต่อท้ายชื่ออย่าง –Kun ที่เรียกเด็กผู้ชายหรือ –chan ที่เรียกเด็กผู้หญิง แต่ในยุคปัจจุบันที่อะไรก็เกิดขึ้นได้แล้วนั้น เลยทำให้มีการใช้สลับไปมาไม่ตรงบริบทหรือคำจำกัดความอย่าง息子氏 (ท่านลูกชาย) หรือ旦那くん (สามีคุง) ขึ้นมา ซึ่งมันก็เป็นสีสันที่น่ารักสำหรับอินเตอร์เน็ตในยุคนี้ดี แต่อย่าเอาไปใช้เรียกจริงล่ะ!


อันดับ 2 草 (Kusa/w) 43%

2

    เดิมทีแล้ว 草 (Kusa) แปลว่าหญ้า ในอินเตอร์เน็ตชาวญี่ปุ่นจะเห็นคำนี้บ่อยมาก บอกเลยว่าแทบ 100% งงกันหมดว่าอิหยังวะ ความหมายที่แท้จริงของมันก็คือ “หัวเราะ” หรือ 555+ ในบ้านเรา ปกติคำว่าหัวเราะของภาษาญี่ปุ่นคือ 笑 (Warau) บางคนก็ใช้ย่อแค่ w ซึ่งไอตัว w นี่แหละที่มันดูเหมือนต้นหญ้า ฯพณฯท่านทั้งหลายก็ใช้คำว่า 草 เพื่อสื่อถึงตัว wwww ที่แปลว่าหัวเราะอย่างหนักนั่นเอง!


อันดับ 1エモい (Emo-i) 58%

1

    และแล้วอันดับ 1 ก็ตกเป็นของคำที่ใช้กันเกลื่อนสุดบนอินเตอร์เน็ตอย่าง エモい ไม่ว่าจะไปที่ไหน อ่านบทความอะไร ก็มักจะเจอคอมเมนต์ エモい เต็มไปหมด กินข้าวอร่อยก็ยัง エモい ซึ่งคำนี้แปลว่า “รู้สึกตื้นตัน” หรือ Emotional ในภาษาอังกฤษนั่นเอง โดยมาจาก Emo+I ที่ทำให้กลายเป็นคำกิริยา คนญี่ปุ่นนี่บัญญัติศัพท์ใหม่ๆ ได้เก่งเหมือนกันนะเนี่ย!

    “จะว่าไปภาษาไทยเองก็มีเยอะเหมือนกันนะ ถ้าใครรู้จักบอร์ดประมูล คงมีคลังศัพท์แปลกๆ เยอะแน่นอน”

    ปล. ความหมายผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วย

ที่มา: http://jin115.com/
เรียบเรียงโดย: TrunksTH

 true online

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ