ประเทศญี่ปุ่นนับว่าเป็นอีกประเทศที่ค่าครองชีพค่อนข้างสูงเลยทีเดียว แต่ก็มีหลายๆ วิธีที่สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อยู่เหมือนกัน อย่างเช่น ใช้สิทธิ์ส่วนลดของนักเรียน-นักศึกษาและในบางที่ก็มีตั๋วแบบพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แต่ยังไงการท่องเที่ยวและค่าครองชีพที่ญี่ปุ่นก็ยังนับว่าแพงอยู่ดี โดยเฉพาะตามเมืองใหญ่อย่างโตเกียวและเกียวโต วันนี้เราก็เลยขอยกเอา 5 สิ่งในญี่ปุ่นที่ราคาแพงมากจนน่าตกใจ มาให้ทุกคนได้รู้กัน จะเป็นอะไรบ้างและแพงขนาดไหน ไปดูด้วยกันเลยค่ะ
พิซซ่าเดลิเวอรี่
ในอเมริกาพิซซ่าที่มีบริการส่งถึงบ้านนั้นราคาค่อนข้างถูก เหมาะจะเป็นอาหารสำหรับวัยเรียนที่ต้องประหยัดเงิน แต่ที่ญี่ปุ่นนั้น พิซซ่าเดลิเวอรี่นับเป็นอาหารระดับเลิศเลยทีเดียว มีอยู่ไม่กี่เจ้าใหญ่ๆ เช่น Pizza-La, Pizza Hut และ Domino Pizza ซึ่งทั้ง 3 เจ้านี้ก็นับว่าแพงมากกกกก ราคาถาดกลางจะอยู่ที่ประมาณ 2000 เยน (600 บาทนิดๆ) ถาดใหญ่ก็ราวๆ 3000-4000 เยน (900-1200 กว่าบาท) ถึงจะมีคูปองส่วนลดให้ใช้ก็เถอะ แต่บางทีไปนั่งกินพิซซ่าสไตล์อิตาเลียนที่ภัตตาคารยังถูกกว่าสั่งให้มาส่งที่บ้านอีกนะเออ!
เนื้อวัว
เนื้อวัวเนื้อวัวนอกที่ราคาสูงนั้นอาจจะแพงด้วยค่าขนส่งและค่าภาษีนำเข้าที่สูงมาก แต่เนื้อวัวญี่ปุ่น(เนื้อวากิว)นั้นแพงกว่าเนื้อนำเข้าซะอีก ด้วยความที่ปศุสัตว์ในญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างจะถูกเลี้ยงอย่างประคบประหงม วิธีการค่อนข้างจะยุ่งยากและเสียเวลาคนเลี้ยง นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเนื้อวัวถึงราคาแพงแถมยังมีจำนวนน้อยอีก แต่ยังไงก็ตาม เวลาที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นลองกินอาหารทะเลก็ดีเหมือนกันนะคะ ทั้งปลาและอาหารทะเลอื่นๆ ก็มาจากภายในประเทศ ราคาไม่แพงมากเท่าไหร่ นอกจากจะสดแล้วยังอร่อยด้วยค่ะ
ตั๋วชมภาพยนตร์
ตั๋วชมภพยนตร์ที่ญี่ปุ่นแพงมากกกกก ยิ่งรอบพีคๆ นี่ราคา 1800 เยนต่อที่นั่งเลยทีเดียว (เกือบ 600 บาท) แต่ก็ยังมีมีวิธีซื้อตั๋วหนังในราคาที่ถูกลงอยู่บ้าง คล้ายๆ กับบ้านเราที่ดูรอบดึกจะถูกกว่ารอบกลางวัน และโรงภาพยนตร์บางที่ก็จะมี Women’s day ที่มอบส่วนลดนิดหน่อยให้กับสาวๆ ซึ่งส่วนมากมักจะมีโปรโมชั่นนี้ในวันพุธ และยังมีอีกวิธีหนึ่งคือแสดงบัตรนักเรียนเพื่อซื้อในราคาที่ถูกลงอีกหน่อย ซึ่งวิธีก็คงจะใช้ได้แต่คนที่ไปเรียนที่ญี่ปุ่นแหละนะ
ผลไม้
ผลไม้นับเป็นของกินอีกอย่างที่ราคาสูงมากกกกกกกกกกที่ญี่ปุ่น อย่างแตงโม แคนตาลูป มะม่วง หรือลูกท้อนี่ แค่เห็นป้ายราคาแล้วขนลุกกันเลยทีเดียว แล้วทำไมผลไม้ถึงแพงล่ะ? เหตุผลแรกเลยก็เพราะว่า ผลไม้นั้นเป็นสินค้าที่ปลูกกันในประเทศ ซึ่งค่าแรงของชาวญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างจะสูง สิ่งที่ต้องใช้กำลังคนในการผลิตก็เลยสูงตามไปด้วย แถมที่ญี่ปุ่นยังมีข้อจำกัดในหลายๆ ด้าน ทั้งพืนที่ในการเพาะปลูกไม่กว้างขวาง ไหนจะเรื่องสภาพอากาศอีก อีกเหตุผลหนึ่งคือ ผลไม้ที่ญี่ปุ่นนั้นถูกมองเป็นของชวัญราคาแพง เอาไว้สำหรับมอบให้เจ้านายหรือส่งให้ครอบครัวก็พอ มีบริษัทอยู่ 2 รายที่ทำธุรกิจจำหน่ายผลไม้สำหรับเป็นของขวัญ คือ Sembikiya และ Takano ที่การันตีในเรื่องของคุณภาพสินค้า ราคาเมลอน 1 ลูกของ Sembikiya ก็ไม่เท่าไหร่หรอก แค่ 20,080 เยนเท่านั้นเอง! (ประมาณ 6200 บาท) นอกจากนั้นผลไม้ญี่ปุ่นยังถูกจัดว่าเป็นของหวานด้วย ราคาของมันถึงได้พุ่งเอาๆ เหมือนเค้กหรือพายอบใหม่ๆ นั่นเอง
แท็กซี่
ค่าเดินทางในญี่ปุ่นนั้นจัดว่าแพงมาก แท็กซี่นี่แหละตัวแพงอันดับต้นๆ เลย ในบางพื้นที่แท็กซี่ก็จัดเป็นวิธีการเดินทางที่แพงที่สุดในจังหวัดเลยทีเดียว อย่างเช่นที่จังหวัดอิบารากิและไซตามะ เพียงแค่ก้าวขาขึ้นรถก็ 730 เยนเข้าไปแล้ว! (เกือบ 230 บาท) ถ้าเป็นที่โอคายามะจะราคาอยู่ที่ 465 เยน (140 บาทนิดๆ) แต่นั่นก็เป็นราคาเมื่อปี 2014 ล่ะนะ และถ้าเป็นที่โตเกียว ค่าขึ้นก็นับว่าถูกพอสมควร แต่ยิ่งนั่งไปไกลเท่าไหร่ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นอยู่ดี
แต่ยังไงก็ตามการได้ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นก็นับเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจอยู่ดี ถึงจะรู้ว่ามีหลายๆ อย่างที่ราคาแพง แต่ก็ยังมีหนทางแห่งความประหยัดอยู่เหมือนกันนา.. เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังจะไปเที่ยวก็อย่าลืมเตรียมวิธีการบริหารเงินเวลาที่อยู่ที่ญี่ปุ่นให้ดีนะ!
ที่มา : tokyogirlsupdate.com