รถไฟฟ้าถือว่าเป็นระบบการขนส่งมวลชลยอดฮิตของชาวกรุงเทพกันล่ะ ไม่ว่าจะเป็น BTS หรือ MRT เพราะเดินทางได้สะดวก ไม่ต้องเจอรถติด, คำนวนเวลาได้ค่อนข้างเป๊ะ และมีความรวดเร็ว (คือจะบอกว่าสบายก็ไม่ใช่อ่ะนะ เพราะว่าปัจจุบันคนแน่นยังกะขึ้นฟรี)ซึ่งถ้าได้มีโอกาสขึ้น เรามักจะเห็นสเต็ปต่างๆ ในการโดยสารรถไฟฟ้าอย่างเป็นระบบ ซึ่งใครที่ใช้บริการบ่อยๆ จะรู้ดี เอาล่ะ วันนี้จะพาไปดู 7 สเต็ปการโดยสารรถไฟฟ้าของชาวกรุงเทพกัน ว่ามันเป็นอย่างไรบ้าง
สเต็ปที่ 1 กระจกนี้พี่ครอง
อันนี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนิสัยรักสงบของชาวไทยหรือว่ามีสัมพันธ์สวาทกับกระจกหรืออย่างไรก็มิอาจทราบ แต่ถ้าได้ขึ้นรถไฟฟ้าตั้งแต่ต้นสายที่มีเก้าอี้ให้เลือกนั่งสบายใจเฉิบ ที่นั่งตัวแรกที่ผู้โดยสารจะบุกไปยึดก่อนใครเป็นอันดับแรกเลยก็คือที่นั่งติดกระจกนั่นเอง อาจจะเป็นเพราะมันพิงได้หรือไม่ก็ไม่ต้องไปเสียดสีกับประชาชีทั้ง 2 ข้างล่ะมั้ง
สเต็ปที่ 2 สลับฟันปลาพาเพลิน
หลังจากที่ได้ถูกระจก เอ้ย ยึดกระจกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปฏิบัติการต่อไปของคนที่อดนั่งติดกระจกก็คือการเลือกที่นั่งตัวที่ 3 และ 5 ของแถว ซึ่งมันจะเป็นฟันปลาพอดี อันนี้ก็น่าจะเป็นเพราะคงไม่อยากจะนั่งติดกับคนข้างๆ เนื่องจากขวยเขินคนข้างๆ น่ารัก หรือว่าไม่อยากสปาร์ครูขุมขนซึ่งกันและกัน มันก็เลยจะออกมาเป็นลักษณะนี้ล่ะ
อนึ่ง ถ้าเกิดมีคนบาล้านซ์จัด ไปนั่งตรงเก้าอี้ตัวที่ 4 ซึ่งอยู่กลางแถวพอดี จะทำให้ระบบฟันปลาอันนี้เจ๊งไปโดยปริยาย แล้วจะโดนคนที่เดินตามมาจิกกัดด้วยสายตาและอารมณ์ทันที
สเต็ปที่ 3 ต้องรอด
หลังจากที่ดีๆ โดนยึดครองไปหมดจนไม่สามารถเลือกได้แล้ว เพื่อความอยู่รอดของมนุษย์ชาติ เมื่อเห็นที่นั่งว่างก็ต้องพุ่งไปให้เร็วที่สุดล่ะ เพราะยังไงการที่ได้นั่งมันก็สบายกว่าการยืนอยู่ดีนั่นแหละ ใครมาไม่นทันก็ต้องแสดงความเสียใจด้วย
สเต็ปที่ 4 ปฏิบัติการยึด 4 มุม
หลังจากที่ไม่เหลือที่นั่งไว้หย่อนก้นสบายๆ แล้ว จึงได้เกิดตัวเลือกที่ดีที่สุดของการยืนขึ้นมา ก็คือทางด้าน 4 มุมติดกระจกหรือมุมที่ใกล้ๆ รอยต่อระหว่างโบกี้ เพราะว่ามันสามารถพิงได้สบายแฮและรู้สึกปลอดภัยกว่าที่อื่นๆ แถมไม่ต้องโหนห่วงจับเสาด้วย เพราะถึงรถส่ายอย่างไรก็ไม่เซนะจ๊ะ แถมถ้าเป็นมุมตรงประตูเปิดก็ทำให้สามารถลงจากขบวนได้อย่างรวดเร็วถึงแม้ว่าคนจะแน่นก็ตาม
สเต็ปที่ 5 ช่องแคบมะละกา
แย่ละ ที่นั่งก็เต็ม 4 มุมเทพก็ไม่เหลือ สเต็ปต่อไปที่ผู้โดยสารยังสามารถยืนพิงสบายๆ ได้ก็คือไอ้ช่องรอยต่อระหว่างโบกี้นี่แหละ ดังนั่นก็จะเดินเข้าไปจับจองที่กันอย่างรวดเร็ว จุคนได้ประมาณฝั่งละ 3 คน สองฝั่งก็ 6คน อาจมีจำนวนเพิ่มมากกว่านี้ก็ได้ตามความยืดหยุ่น ซึ่งคนที่อยู่ตรงกลางจะเหนื่อยหน่อย เพราะเวลาเลี้ยวทีก็บิดที แต่ก็ถือว่าค่อนข้างสบายล่ะ
สเต็ปที่ 6 ยึดเสายิ่งชีพ
หมดที่ยืนสบายๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อป้องกันการเซหรือล้มหน้าทิ่ม จึงต้องทำการหาที่ยึดเหนี่ยวทางร่างกายเอาไว้ ซึ่งนั่นก็คือเสานั่นเอง เหล่าผู้คนที่ต้องทำการยืนล้อมรอบเสาเพื่อเอามือไปจับไว้ มันจึงเป็นภาพคนล้อมรอบเสาเอาไว้ ปัจจุบันเนื่องจากมีคนใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทาง BTS ก็เลยทำเสาในขบวนรถใหม่เป็นแบบ 3 แฉกซะเลย จะได้จับได้ง่ายและทั่วถึง
อนึ่ง ถ้าเกิดมีมนุษย์แปลกประหลาดที่ชอบเดินมาพิงเสาเคล้ากดมือถือ หรือที่เรียกกันว่า "อีเห็น" นอกจากวงจะแตกฮือแล้ว ยังอาจโดนประนามคาขบวนเลยก็เป็นได้
สเต็ปที่ 7 ยัดให้แน่น ก่อนจะโดนเมียแพ่นกบาล
นี่คือที่สุดของที่สุดแล้ว ทุกตำแหน่งโดยยึดจนหมดสิ้น ถ้าไม่อยากมีปัญหาครอบครัวเนื่องจากกลับบ้านดึก หรือว่าไม่อยากโดนแฟนโบกกบาลทิ่มเพราะไปไม่ตรงตามเวลานัด ก็ต้องยัดมันเข้าไปนั่นแหละ ซึ่งปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นบนดินหรือใต้ดินช่วงเวลาเลิกงานนี่แบบว่าอัดแน่นๆ เนื้อเน้นๆ ก็ต้องสู้กันไปนะครัย มนุษย์ชาวเมืองทั้งหลาย
หลายคนอาจจะงงว่า เฮ้ย ทำไมมีแค่ 7 สเต็ปเอง ตรงกลางยังโล่งๆ อยู่เลย นั่นก็เป็นเพราะว่านิสัยแปลกๆ ของผู้โดยสารบางคนล่ะครับ ที่ยังไง๊ยังไงก็ไม่ยอมเดินเข้าข้างใน เพราะกลัวเดินออกยากเวลาถึงสถานีเพราะคนมันแน่นมาก จึงไปกระจุกอยู่แถวประตู แล้วด้านในปล่อยโล่งๆ ไว้อย่างนั้น บางที่ออกจากขบวน 10 คน แต่กลับเดินเข้าขบวนได้ 5 คนเท่านั้น แหม่ ยังไงก็ใจเจาใจเรากันนะครับ ทุกคนก็อยากกลับบ้านไวๆ เหมือนกัน ก็ช่วยๆ กันเรื่องระเบียบซักนิดนึงเด้อ