ชาวญี่ปุ่นตั้งข้อสงสัย เบื้องหลังนโยบายเซ็นเซอร์มังงะ 18+ อาจมีขบวนการค้ามนุษย์อยู่เบื้องหลัง!

แชร์เรื่องนี้:
ชาวญี่ปุ่นตั้งข้อสงสัย เบื้องหลังนโยบายเซ็นเซอร์มังงะ 18+ อาจมีขบวนการค้ามนุษย์อยู่เบื้องหลัง!

เกิดกระแสร้อนบนแพลตฟอร์ม X (ชื่อเดิม Twitter) ของญี่ปุ่น เมื่อผู้ใช้ชื่อ "@satetu4401" จุดประเด็นสุดพีคขึ้นว่า การเรียกร้องให้ควบคุมหรือแบนมังงะผู้ใหญ่ โดยเฉพาะแนวที่มีลักษณะคล้ายเด็กผู้หญิง (โลลิ) อาจไม่ใช่แค่ความพยายามปกป้องศีลธรรมอันดี แต่อาจเป็น "แผนเบี่ยงเบนความสนใจ" จากขบวนการค้ามนุษย์ในชีวิตจริง

โดยโพสต์ของผู้ใช้ @satetu4401 ซึ่งมียอดชมทะลุ 700,000 ครั้ง ให้ความเห็นว่า กลุ่มที่ผลักดันให้มีการแบนมังงะผู้ใหญ่นั้นบางคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเพศ และใช้วิธีจ้างแรงงานแบบพาร์ทไทม์ ส่งรายงานร้องเรียนหลายร้อยฉบับไปให้ตำรวจ เพื่อทำให้เจ้าหน้าที่มี "งานคดียิบย่อย" ล้นมือจนทำไม่ทัน ไม่สามารถตามสืบเหยื่อคดีค้ามนุษย์จริง ๆ ได้หรือให้ความสนใจน้อยลง จนกระทั่งสายไปแล้ว

เขาเตือนว่า หากสังคมหันไปสนับสนุนการควบคุมมังงะเหล่านี้ ก็อาจกำลังตกเป็นเครื่องมือขององค์กรอาชญากรรมโดยไม่รู้ตัว เพราะคดีมังงะ 18+ หากตำรวจไม่ทำ ก็จะโดนองค์กรหรือผู้มีอิทธิพลกดดันหรือถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ เป็นการบีบให้ตำรวจต้องจัดการกับสื่อผู้ใหญ่ที่ถูกรายงานเข้ามาเรื่อย ๆ โดยแรงงานจ้างพาร์ทไทม์ จนไม่มีเวลาไล่สืบคดีอาชญากรและขบวนการค้ามนุษย์ เหยื่อในโลกจริงก็จะยิ่งตกอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้น กลายเป็นการช่วยเหลือมิจฉาชีพองค์กรอาชญากรรมทางอ้อมไป!

แม้ข้อสังเกตนี้จะฟังดูรุนแรงและเป็นทฤษฎีสุดโต่ง แต่ก็มีชาวเน็ตญี่ปุ่นบางส่วนมองว่าเป็นไปได้ เพราะเคยมีกรณีที่ผู้ผลักดันนโยบายแบนหรือควบคุมสื่อ แต่กลับเป็นผู้มีส่วนกระทำผิดในเรื่องนั้น ๆ เสียเอง เช่น กรณีของ นายปีเตอร์ นิวเวลล์ (Peter Newell) อดีตที่ปรึกษาสหประชาชาติที่เคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์อนิเมะและมังงะ ก่อนจะถูกจับในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็ก หรือ นายลีแลนด์ ยี (Leland Yee) อดีตสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ ที่เคยผลักดันการแบนวิดีโอเกมรุนแรง แต่สุดท้ายกลับถูกจับข้อหาค้าอาวุธเถื่อนเสียเอง

ความเห็นจากชาวเน็ตญี่ปุ่นที่เข้ามาตอบก็มีอยู่หลากหลายด้วยกัน


"คนพวกนี้บางคนก็แค่ใช้ประเด็นนี้เป็นทางออกเพื่อระบายความรู้สึกผิดของตัวเอง หรือไม่ก็พยายามเบี่ยงเบนความสนใจจากการถูกสอบสวน บางทีอาจทำทั้งสองอย่างเลยก็ได้"

"ตอนอนิเมะกับมังงะได้รับความนิยม การใช้ยาเสพติดกับอาชญากรรมก็ลดลง คนมีอะไรให้ทำ มีอะไรให้เสพความบันเทิง เลยไม่ค่อยออกจากบ้าน ไม่ไปยุ่งกับยา เรื่องนี้เลยไปขัดขวางผลประโยชน์ของพวกใต้ดิน ทำให้บางคนสนับสนุนการเคลื่อนไหวต่อต้านมังงะกับอนิเมะเพราะมีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่"

"มังงะกับอนิเมะมันไม่หนีไปไหนแบบมิจฉาชีพไง มีผู้รับผิดชอบชัดเจนอยู่เบื้องหลัง ตำรวจเลยจัดการง่ายกว่า ก็แน่นอนว่าตำรวจจะเลือกเล่นงานตรงนี้ก่อน"

"นี่แหละคือแผนการ ยิ่งเพิ่มเป้าหมายให้ตำรวจมากขึ้น โดยเฉพาะเป้าหมายคดีที่สืบง่าย ๆ ตำรวจก็จะยิ่งเบนความสนใจไปจากเป้าหมายสำคัญ หันมาจัดการกับเป้าหมายที่ให้ผลลัพธ์เร็ว ใช้ทรัพยากรน้อยมากขึ้น"

แม้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมอยู่เบื้องหลังการรณรงค์เหล่านี้หรือไม่ แต่ทฤษฎีนี้ก็ปลุกกระแสให้สังคมหันกลับมาตั้งคำถามว่า การรณรงค์แบนสื่อที่เป็นเพียง "จินตนาการ" นั้นแท้จริงแล้วอาจมีเบื้องหลังลึกซ่อนอยู่ เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นจากอาชญากรรมจริงให้หลุดพ้นจากสายตาสาธารณชน

หากเป็นเช่นนั้นจริง การต่อสู้เรื่อง "การเซ็นเซอร์มังงะ 18+" ในญี่ปุ่นก็อาจไม่ใช่แค่ศึกของศีลธรรมกับเสรีภาพอีกต่อไป แต่เป็นฉากหน้าของเกมอำนาจ อาชญากรรม และการชักใยความคิดของคนทั้งสังคม

แปลและเรียบเรียงจาก
Crazy for Anime Trivia


ติดตามดูอนิเมะถูกลิขสิทธิ์ ได้ที่ Online Station แหล่งรวมอนิเมะที่คุณไม่ควรพลาด

แชร์เรื่องนี้:
Shirosaki-han
About the Author

Shirosaki-han

นักเขียนอิสระผู้ชื่นชอบเกมและอนิเมะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ