จัดให้แล้วกับ Expedition 33 Sciel Builds ที่จะมาบอกแนวทางการบิลด์ตัวละคร Sciel ใน Clair Obscur: Expedition 33 เกม JRPG น้ำดีที่ไม่ควรพลาด ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยว่าบิลด์ยังไงให้เฉิดฉาย พร้อมการจัดทีมกัน!
Expedition 33 – Sciel Builds
Sciel Best Build
Sciel Best Attribute Priority
Act 1 | Act 2 | Act 3 | |
---|---|---|---|
Vitality | 10 | 10 | 0 |
Might | 5 | 10 | 0 |
Agility | 15 | 35 | 99 |
Defence | 0 | 20 | 81 |
Luck | 10 | 15 | 0 |
โดยส่วนใหญ่แล้ว ค่าสถานะที่ดีที่สุดของ Sciel คือ ความคล่องแคล่ว Agility รองลงมาคือโชค Luck เนื่องจากต้องให้เธอโจมตีบ่อยขึ้นและสร้างความเสียหายคริติคอลได้มาก นอกจากนี้อาวุธ Scieleson ยังปรับค่าสถานะตามค่าเหล่านี้ ซึ่งจะทำให้ Sciel สร้างความเสียหายได้มากขึ้นในช่วงต้นเกม และอัปค่า Vitality ให้เท่ากับค่า Luck ของคุณ เพื่อให้ Sciel มีความสามารถในการเอาตัวรอดบ้าง
เมื่อคุณเล่นถึงกลางเกมแล้ว คุณจะต้องเปลี่ยนอาวุธจาก Scieleson เป็น Rangeson ซึ่งปรับตาม Agility และ Defense ให้เพิ่ม Agility ต่อไปเหมือนเดิม แต่คราวนี้ให้ลงทุนคะแนนไปกับ Defense มากกว่า Might และ Vitality แล้วเพิ่มคะแนนใน Luck เป็นครั้งคราวเพื่อเพิ่มอัตราคริติคอลของ Sciel
เมื่อถึงช่วงท้ายเกม คุณสามารถสลับ Rangeson เป็น Tisseron ได้ เนื่องจาก Tisseron จะเสริมพลังให้กับสถานะ Twilight ของคุณ ซึ่งช่วยให้ Sciel สร้างความเสียหายได้นานขึ้น และยังใช้ Foretell stacks ได้มากขึ้นด้วย เนื่องจาก Tisseron ยังคงต้องการ Agility และ Defense ให้เพิ่ม Agility เป็น 99 และ Defense เป็น 81 ทำแบบนี้ต่อไปจนกว่า Defense จะอยู่ที่ 99 เช่นกัน เมื่อ Agility และ Defense อยู่ที่ 99 แล้ว คุณสามารถกระจายคะแนนได้ตามต้องการ
Sciel Best Weapon
Act 1 | Scieleson | Base Power: 178 Element: Physical Attribute Scaling: Agility – B / Luck – C |
Act 2 | Rangeson | Base Power: 249 Element: Dark Attribute Scaling: Agility – B / Defense – C |
Act 3 | Tisseron | Base Power: 598 Element: Lightning Attribute Scaling: Agility – B / Defense – C |
Scieleson เป็นอาวุธเริ่มต้นของ Sciel และเป็นอาวุธที่ดีที่สุดของเธอในช่วงต้นเกมด้วยค่า B Scaling ใน Agility และ C Scaling ใน Luck ซึ่งเป็นค่าสถิติหลักของ Sciel แม้ว่าจะไม่มีทักษะ passive skills ติดตัว แต่ค่าการปรับขนาดและพลังที่แข็งแกร่งก็ชดเชยได้
เมื่อคุณไปถึงบทที่ 2 ให้เปลี่ยนอาวุธของ Sciel เป็น Rangeson เพื่อให้ Sciel มีความสามารถในการเอาตัวรอดด้วยทักษะ Passive skill ระดับ 4 ของมัน รวมถึงลด Cost ของ Healing Skills เมื่อถึงระดับ 10 ซึ่งจะทำให้ Sciel กลายเป็นตัวละครสนับสนุนที่ยังคงสร้างความเสียหายได้
เมื่อถึงบทที่ 3 Tisseron จะเป็นอาวุธที่ดีที่สุดของคุณ โดยเพิ่มความเสียหายให้กับ Sciel มากขึ้นโดยเพิ่มพลังให้กับสถานะ Twilight อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องจัดสรรคะแนนใหม่ให้กับความคล่องแคล่วและการป้องกัน
Sciel Best Skills
Skills | |
---|---|
Act 1 | – Focused Foretell – Marking Card – Spectral Sweep – Twilight Slash – Phantom Blade – Sealed Fate |
Act 2 | – Focused Foretell – Marking Card – Twilight Slash – Sealed Fate – Grim Harvest – Plentiful Harvest |
Act 3 | – Twilight Dance – Marking Card – Final Path – Delaying Slash – Fortune’s Fury – Plentiful Harvest |
ในช่วงต้นเกม Focused Foretell, Marking Card และ Spectral Sweep จะเป็นแหล่งหลักของ Foretell โดย Marking Card ยังช่วยแปะ Marking กับศัตรูอีกด้วย ส่วน Twilight Slash, Phantom Blade และ Sealed Fate จะเป็นแหล่งหลักในการสร้างความเสียหาย โดยจะลด HP ของศัตรูลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อคุณไปถึงช่วงกลางเกมใน Act 2 คุณสามารถแทนที่ Spectral Sweep ด้วย Grim Harvest และ Phantom Blade ด้วย Plentiful Harvest เพื่อเพิ่มความสามารถในการสนับสนุนของ Sciel ซึ่ง Grim Harvest มอบการรักษาให้กับทั้งทีมในขณะที่ Plentiful Harvest มอบ AP ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ปรับตามค่า Foretell stack ของศัตรู
ใน Act 3 คุณจะต้องเปลี่ยนท่าต่าง ๆ มากมายเป็นท่าสนับสนุนและสร้างความเสียหายมากขึ้น Fortune’s Fury จะเป็นทักษะสนับสนุนหลักของคุณ โดยจะเพิ่มความเสียหายเป็นสองเท่าให้กับพันธมิตรที่คุณเลือก ทักษะนี้เหมาะสำหรับตัวละครที่โจมตีรัว ๆ เช่น Maelle โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ Marking Card ส่วน Plentiful Harvest จะช่วยตอบสนองความต้องการ AP ของคุณ ในขณะที่ Delaying Slash จะช่วยชะลอการเคลื่อนไหวของศัตรู
ในส่วนของความเสียหาย Final Path และ Twilight Dance จะเป็นแหล่งความเสียหายหลักของคุณ
Sciel Best Lumina และ Pictos
Early Game
Pictos | Breaker Critical Moment Critical Burn |
Luminas | Critical Burn Dead Energy II Exposing Attack Marking Shots Staggering Attack |
Total Lumina Point Cost | 21 |
Pictos ที่ Sciel สวมใส่ทำให้เธอมีความเร็วและอัตราคริติคอลสูงมาก ทำให้เธอสามารถเคลื่อนไหวและโจมตีคริติคอลได้มากขึ้น นอกจากนี้ เอฟเฟกต์ของ Pictos ยังทำให้เธอมีโอกาสคริติคอลมากขึ้นเมื่อตรงตามเงื่อนไข เช่น เมื่อเธอมีพลังชีวิตต่ำ (ช่วงเวลาคริติคอล) หรือเมื่อศัตรูกำลังลุกไหม้ (การลุกไหม้คริติคอล)
นอกจากนี้ Luminas ที่สวมใส่ยังมอบบัฟที่เป็นประโยชน์มากมายให้กับเธอ เช่น การฟื้น AP เมื่อใดก็ตามที่เธอเอาชนะหรือทำลายศัตรูได้ รวมถึง AP ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเริ่มการต่อสู้ ซึ่งช่วยให้เธอสามารถตั้งคอมโบได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะขาด AP นอกจากนี้ Luminas ยังมอบบัฟที่สร้างความเสียหายให้กับเธอ รวมถึงความสามารถในการเอาตัวรอดในกรณีฉุกเฉินในรูปแบบของ SOS Shell
Mid Game
Pictos | Breaking Counter Accelerating Heal Breaking Shots |
Luminas | Critical Burn Dead Energy II Dodger Energising Parry Energising Start II Healing Parry Recovery Staggering Attack Sweet Kill |
Total Lumina Point Cost | 55 |
Pictos ของ Sciel ในช่วงกลางเกมนั้นให้ความเร็วและอัตราคริติคอลเป็นหลัก ทำให้เธอมี Actions และความเสียหายมากขึ้น นอกจากนี้ Acelerating Heal ยังทำงานร่วมกับ Grim Harvest ได้ดีอีกด้วย ซึ่งทำให้เธอสามารถใช้ Rush กับทุกคนในทีมได้
Luminas ทำหน้าที่ให้ Sciel มี AP มากขึ้นเมื่อดำเนินการบางอย่าง และยังทำให้เธอมีอัตราการรอดชีวิตและความเสียหายเพิ่มขึ้นอีกด้วย
Late Game
Pictos | Combo Attack III Perilous Parry Cheater |
Luminas | Augmented Counter I Auto Rush Critical Burn Dead Energy II Dodger Empowering Parry Energising Jump Energising Parry Energising Start II First Strike Healing Counter Healing Parry Painted Power Recovery SOS Shell Solidifying Sweet Kill |
Total Lumina Point Cost | 131 |
ในช่วงท้ายเกม การเพิ่มอัตราคริติคอลและความเร็วให้กับ Sciel ถือเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากคุณต้องการให้เธอทำหน้าที่ก่อนในทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องการใช้ Marks หรือ Fortune’s Fury Cheater ยังช่วยได้ เนื่องจากทำให้เธอสามารถใช้ Marks กับศัตรูก่อนที่จะเพิ่มพลัง DPS สำหรับ Luminas ของเธอ พวกมันจะเกี่ยวข้องกับการเพิ่มพลังการปัดป้องของเธอ ขณะเดียวกันก็เพิ่มอัตราการเอาตัวรอดและการฟื้น AP ของเธอด้วย
Sciel Best Team
Sciel Main DPS
Support | Main DPS | Sub DPS |
---|---|---|
Lune | Sciel | Maelle |
Sciel ทำหน้าที่เป็น Main DPS ในปาร์ตี้นี้ โดยใช้ Foretell stacks กับศัตรูก่อนจะระเบิดพวกมันด้วยทักษะ Moon ของเธอ Maelle จะทำหน้าที่เป็น Sub DPS โดยสร้างความเสียหายให้กับศัตรูทุกครั้งที่ Sciel ใช้ Mark กับพวกมัน Lune เป็นตัวสนับสนุนของทีม โดยหลัก ๆ แล้วจะให้การรักษาด้วย Healing Light และลดพลังศัตรูด้วย Slow และ Burns
เมื่อเลือกปาร์ตี้ของคุณ อย่าลืมเลือก Lune ก่อน จากนั้นจึงเลือก Sciel และสุดท้ายคือ Maelle ซึ่งจะเป็นลำดับเทิร์นเริ่มต้นทุกครั้งที่คุณซุ่มโจมตีศัตรู Lune จะใช้ดีบัฟเช่น Burn กับศัตรู ในขณะที่ Sciel จะซ้อน Foretell กับศัตรู จากนั้น Maelle ก็สามารถใช้ประโยชน์จากศัตรูที่ Burning เพื่อทำคอมโบของเธอเองได้
Sciel Support
Support | Main DPS | Sub DPS |
---|---|---|
Sciel | Maelle | Verso |
ในปาร์ตี้นี้ Sciel ทำหน้าที่เป็นตัวสนับสนุน โดยคอยรักษาและฟื้นฟู AP ให้กับปาร์ตี้ และดีบัฟด้วย Marks ของเธอ Verso ทำหน้าที่เป็นตัวสร้างความเสียหายรอง โดยคอยเพิ่มบัฟด้วย Powerful ในขณะที่ยังสร้างความเสียหายได้ดี Maelle เป็นแหล่งความเสียหายหลักของปาร์ตี้ด้วยการโจมตี Virtuose ของเธอ
ใช้ทักษะของ Verso และ Sciel เพื่อแปะ Mark ให้กับศัตรู พร้อมทั้งเพิ่มพลังให้กับ Maelle ให้ได้มากที่สุด จากนั้น Maelle ก็สามารถจุดชนวน Mark และสร้างความเสียหายมหาศาลให้กับศัตรูได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกที่จะแทนที่ Verso ด้วย Monoco ได้อีกด้วย เนื่องจากทักษะบางส่วนของเขาสามารถช่วยทำลายศัตรูและเพิ่ม Mark ให้กับศัตรูได้เช่นกัน
การเล่น Sciel
Sun และ Moon Skills
การสลับไปมาระหว่าง Sun และ Moon Skills เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของ Sciel เนื่องจากความเสียหายของเธอมาจากการใช้ Foretell stacks ให้ใช้ Sun Skills ของเธอก่อนเพื่อใช้ Foretell stacks กับศัตรูและรับ Sun charge เมื่อ Foretell stacks สูงสุดแล้ว หรือหากคุณต้องการ AP จำนวนมาก ให้ใช้ Moon Skill เพื่อใช้ Foretell stacks สร้างความเสียหายจำนวนมาก และฟื้น AP
ดูค่า Foretell Stacks ของศัตรู
หากต้องการเพิ่ม Moon Skills ให้อยู่ระดับสูงสุด อย่าลืมดูค่า Foretell Stacks ของศัตรู การทำเช่นนี้จะป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น คุณอาจใช้ทักษะ Moon Skills กับศัตรูที่ไม่มีค่า Foretell Stacks หรือทักษะ Sun Skills กับศัตรูที่มีค่าสูงสุดโดยไม่ได้ตั้งใจ
ใช้ประโยชน์จาก Twilight
เมื่อคุณมี Sun และ Moon charge อย่างน้อยหนึ่ง Sciel จะเข้าสู่สถานะ Twilight ซึ่งในขณะที่อยู่ในสถานะดังกล่าว เธอจะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น 50% และใช้จำนวน Foretell Stacks เป็นสองเท่าต่อ Sun Skill นอกจากนี้ จำนวนสูงสุดของ Foretell Stacks ที่ศัตรูสามารถมีได้จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าด้วย
ใช้ทักษะ Sun และ Moon Skill ของคุณที่มีค่า AP ต่ำในขณะที่อยู่นอกสถานะ Twilight เพื่อรวบรวม AP เมื่อ Sciel เข้าสู่สถานะ Twilight ให้ใช้ AP ที่เก็บไว้เพื่อใช้ทักษะที่ทรงพลังยิ่งขึ้น
สุดท้ายนี้เพื่อน ๆ สามารถหาบทความ/ไกด์เกมของ Clair Obscur: Expedition 33 อ่านได้ที่ online-station.net เลย!?
- รีวิวเกม Clair Obscur: Expedition 33
- Expedition 33 Tips
- Expedition 33 การอัป Attributes
- Expedition 33 การรีเซ็ต Attributes และ Skill Points
- Expedition 33 Best Teams Comp
- Expedition 33 Maelle Builds
- Expedition 33 Verso Builds
แปลและเรียบเรียงจาก : game8.co
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station