Riders Republic เป็นเกมที่ตอนเปิดตัวออกมาก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาและความสนใจได้พอสมควรกับการเป็นเกมแนวกีฬาเอ็กซ์ตรีมกึ่งๆ Open World แถมยังดูจะออนไลน์ได้อีกต่างหาก ซึ่งสร้างความคาดหวังให้กับเกมเมอร์ที่ชื่นชอบเกมแนวๆ นี้เป็นอย่างมาก เพราะนานทีปีหนจะมีเกมที่เน้นกีฬาเอ็กซ์ตรีมเสียที ทั้งยังเป็นเกมจากค่ายยักษ์อย่าง Ubisoft อีกต่างหาก ความคาดหวังจึงพุ่งสูงขึ้นเป็นธรรมดา
หรือแม้กระทั่งตัวผมเองซึ่งยอมรับว่าไม่ค่อยสันทันในเกมแนวนี้สักเท่าไหร่ ก็ยังอดสนใจไม่ได้ กับเกมกีฬาเอ็กซ์ตรีม Open World ที่มีระบบออนไลน์ จากคอนเซ็ปต์แรกที่มันดูจะเป็นผลงานที่ยกระดับเกมแนวนี้ขึ้นไปอีกขั้น และตั้งแต่นั้นผมก็เอาใจช่วยให้เกมนี้ผ่านการพัฒนามาได้ด้วยดี จนกระทั่งตอนนี้ที่ผมได้ทดสอบมาตั้งแต่ตอนเบต้ามาวันแรกของการเปิดเล่น ในมุมมองส่วนตัวผมพูดได้ว่าเอนจอยกับมันเอามากๆ
ก่อนหน้าก็มีความกังวลเล็กน้อย เพราะกลัวว่าจะไม่สามารถเข้าถึงความสนุกของมันได้ดีนัก ทว่ากลับไม่ใช่เลย ถึงแม้จะยังไม่แน่ใจว่าที่กำลังรู้สึกอยู่คือความสนุกจริงๆ ที่ตัวเกมตั้งใจจะมอบให้ใช่ไหม แต่การเล่นแล้วติดลมหยุดไม่ได้ ต้องเข้าเกมในทุกๆ วันเพื่อแข่งขันสัก Race ไม่งั้นจะรู้สึกเหมือนชีวิตไม่ฟูลฟิล ห็น่าจะเป็นคำตอบได้ระดับหนึ่งว่าผมสนุกสนานกับมันระดับไหน
สิ่งที่ผมชอบที่สุดของ Riders Republic คือบรรยากาศในภาพรวม Ubisoft พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่าพวกเขามีทีมงานที่สามารถสร้างโลกเกมได้ดีและดึงผู้เล่นให้เข้าไปเป็นส่วนร่วมกับมันได้อย่างน่าฉงน ในแง่ของกราฟิกต้องบอกว่างดงามตามมาตรฐานไม่มีขัดหูขัดตา แต่เลเวลดีไซน์คือเรื่องที่ต้องชื่นชม
เพราะว่าเกมคือ Riders Republic แผนที่ในเกมซึ่งโจทย์คือต้องเต็มไปด้วยจุดที่ให้แข่งขันและเล่นท่าทางทั้งแบบจริงจังและแคชชวล ทั้งยังไม่สามารถอิงสถานที่จริงได้ทั้งหมด เมื่อนำมาประกอบรวมกันก็จะได้แผนที่ขนาดใหญ่ซึ่งไม่ขาดไร้รายละเอียด ทุกพื้นที่สามารถใช้งานในคอนเทนต์อีเวนต์แข่งได้ หรือแค่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นมาฝึกฝนเล่นๆ ก็ทำได้ เสริมรวมด้วยระบบ Dynamic Weather ฝนฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลง กลางวันกลางคืน ทุกสิ่งอย่างล้วนมีผลกับการทำกิจกรรมในแต่ละวัน ก็ทำใหั Riders Republic มีโลกเกมที่น่าทึ่งไม่หยอก
แต่เลเวลดีไซน์ยังไม่ใช่สิ่งที่ชอบที่สุดในเรื่องของโลกเกม ความมีชีวิตชีวาของมันต่างหากที่ทำให้ผู้เล่นเกิดอารมณ์ร่วมกับมันได้อย่างมาก ด้วยความที่มันเป็นเกมกึ่งๆ ออนไลน์ ในจุดแคมป์ที่เป็นเหมือนล็อบบี้คุณจะได้พบเจอกับผู้เล่นคนอื่น หรือแม้กระทั่งออกไปทำอีเวนต์แข่งขันตามสถานที่ต่างๆ ก็ยังมีโอกาสพบเจอพวกเขาอยู่บ้างเช่นกัน
แต่ในแชนแนลหนึ่งก็อาจจะไม่ได้เยอะเป็นเกมออนไลน์เต็มๆ ขนาดนั้น ทว่าถ้าลองซูมเอาท์แผนที่ออกมาจะพบไอคอนสีขาวๆ ที่เหมือนคนอยู่เต็มพื้นที่แบบเป็นร้อยเป็นพันเลย อันนั้่นไม่ใช่คนครับแต่น่าจะเป็นชุดข้อมูลที่เกมเก็บเอาไว้จาก Race หรือการเคลื่อนที่ของผู้เล่นคนอื่นๆ ในภาพรวมซึ่งอาจจะกำลังออนไลน์อยู่แชนแนลอื่นๆ หรือไม่ได้ออนไลน์อยู่ก็ได้ เอามาแสดงผลบนแผนที่ในเกม ซึ่งแม้ผู้เล่นจะปฏิสัมพันธ์อะไรด้วยไม่ได้ แต่ความเยอะของมันกอปรกับการเคลื่อนที่แบบมนุษย์ซึ่งไม่ใช่ NPC หรือ AI ที่จะมี Route แบบเป๊ะๆ นี่แหละ ที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนเราได้อยู่ในพื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วย Rider จริงๆ
ในส่วนอีเวนต์หลักของการแข่งขันจะถูกแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือจักรยาน, สกี, และ ร็อคเก็ตวิง แต่ละประเภทจะถูกแบ่งการแข่งเป็นอีก 2 รูปแบบใหญ่ๆ คือ แข่งขันกันเข้าเส้นชัย กับ เน้นท่าสวยงามทำแต้ม และในแต่ละรูปแบบการแข่งขันจะมีรายละเอียดยิบย่อยที่ถูกแบ่งลงไปอีกเช่น แข่งจักรยาน>เข้าเส้นชัย>วิบาก หรือ แข่งจักรยาน>เข้าเส้นชัย>ดาวน์ฮิลล์ หรือ แข่งจักรยาน>เน้นทำแต้มท่าสวย>ดาวน์ฮิลล์ เป็นต้น
ซึ่งพอมันสามารถมิกซ์กันได้แบบหลากหลายแล้วก็ต้องบอกว่าอีเวนต์ในเกมมีให้เล่นให้ได้แข่งเยอะมากๆ ช่วยแก้อาการเบื่อง่ายของผมได้เป็นอย่างดี แบบว่าแข่งอันนี้เบื่อแล้วก็เปลี่ยนไปลองแข่งแบบอื่นจนเริ่มเอียนก็เปลี่ยนไปแข่งแบบอื่นอีก
ตัวเกมสามารถจัดการรักษาจังหวะของความสนุกได้อย่างดี และพอทำอีเวนต์ย่อยไปสักระยะหนึ่งก็จะมีอีเวนต์ใหญ่ให้ไปลงแข่งซึ่งจะอัปเกรดความท้าทายขึ้นไปอีกระดับ แต่อยากบอกว่าถ้าใครเล่นเกมแนวนี้ไม่เก่งแล้วกลัวว่าจะเข้าถึงมันได้ยาก ไม่ต้องกลัวครับ เพราะเกมไม่ได้ใจร้ายเกินไป สำหรับผมมันเป็นมิตรกับทั้งมือใหม่และโปรเลยล่ะ
โดยระบบเลเวลของเกมจะมี 2 แบบอย่างแรกคือเลเวลของชนิดกีฬา อย่างที่ 2 คือเลเวลของตัวละครซึ่งจะถูกนับด้วยดาว ทั้ง 2 อย่างสามารถหาได้จากการเล่นด่านอีเวนต์ ซึ่งผู้เล่นไม่จำเป็นต้องเล่นให้ชนะที่หนึ่งก็ได้ ขอแค่เล่นจนจบก็จะได้รับค่าประสบการณ์เต็มเม็ดเต็มหน่วย แม้เข้าที่โหล่ก็ได้เช่นกัน
สามารถจบด่านมาพร้อมกับดาว 1 ดวงฟรีๆ (เฉพาะเล่นครั้งแรก) หรือหากทำอันดับได้ดีก็จะมีค่าประสบการณ์โบนัสบวกเพิ่มให้ โดยเมื่อเลเวลชนิดกีฬาอัพก็จะมีการปลดล็อคอุปกรณ์ใหม่ๆ ค่าสเตตัสดีขึ้นอยู่เสมอ หรือถ้าทำชาเลนจ์พิเศษในด่านได้สำเร็จตามเงื่อนไขก็จะได้รับดาวพิเศษไปฟรีๆ อีกต่อ เป็นรูปแบบที่เสริมความท้าทายให้คนอยากเทิร์นโปร แต่ก็ไม่ใจร้ายกับมือใหม่มากเกินไป แค่ไถๆ ไปให้จบก็สามารถเสพย์คอนเทนต์เต็มๆ ของเกมได้เช่นกัน
ในการแข่งขันส่วนมากตัวเกมจะให้เลือก 2 โหมดคือ Solo และแข่งกับเพื่อนในตี้เดียวกัน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหนมันก็นับเควสต์เหมือนกัน ซึ่งดีมากครับ ผมเองไม่มีเพื่อนเล่นเกมนี้ก็เลยไม่ได้ลองโหมดแข่งกับเพื่อน แต่จากที่ไปดูๆ สตรีมเมอร์อื่นๆ เล่นก็เข้าใจได้เลยว่าถ้ามีเพื่อนมาเล่นด้วยมันก็คงจะเฮฮาดี แม้กระนั้นการกดแข่งแบบ Solo ก็ใช่ว่าจะขาดไร้ความดุเดือด เพราะเกมจะใช้ Ghost ของผู้เล่นอื่นๆ ที่เคยเล่นด่านอีเวนต์นี้มาแล้วมาสุ่มแข่งกับเราครับ และมันให้อารมณ์ในการแข่งซึ่งต่างจาก AI มาก เพราะมนุษย์สามารถมีช็อตพลาดแบบคาดไม่ถึงได้ แม้มันอาจจะไม่เรียลไทม์ขณะนั้น แต่การเคลื่อนที่ที่ไม่เป๊ะและคาดเดาไม่ค่อยได้นี่แหละที่ทำให้เกมนี้มันมีชีวิตชีวามากจริงๆ
นับรวมไปถึงสุดยอดไฮไลต์ของเกมอย่าง Mass Race ซีรีส์การแข่งขันเก็บคะแนนขนาดใหญ่ที่จะมีขึ้นในทุกๆ 15 นาทีของเกมซึ่งจะพาผู้เล่นไปพบเจอกับผู้เล่นรายอื่นแบบจริงๆ จังๆ มีการแข่งทั้งแบบ 32 คน และ 64 คน บอกเลยว่าทั้งนัวทั้งมันส์ทั้งหัวร้อน ผมไม่เคยชนะการแข่ง Mass Race เลย เพราะมันรวมทั้งคนเก่งและไม่เก่งมาไว้ในพื้นที่เดียวกัน แต่ก็ไม่เคยจะปฏิเสธความเดือดในการแข่งขันของมันซึ่งเหมือนได้วัดฝีไม้ลายมือกันจริงๆ จังๆ แม้สักครั้ง เรียกได้ว่าอีเวนต์แจ้งเตือนเมื่อไหร่ก็พร้อมวาร์ปไปเข้าร่วมทันที
แต่แน่นอนว่าแม้จะชมไปเยอะ ตัวเกมก็ไม่ได้เพอร์เฟ็กต์เสียทีเดียว ผมเจอเกมแครชไป 2 ครั้งคือระหว่างกำลังท่องโลกและแข่งขัน Mass Race นอกจากนี้ก็เรื่องบั๊กกราฟิกตัวละครเวลาสลับเปลี่ยนเครื่องแต่งกายไปมา ที่มันจะแสดงผลเหมือนเปลี่ยนไม่เสร็จ ซึ่งอันนี้เป็นบ่อยมากคงต้องรอการแก้ไข นอกจากนั้นก็เป็นบั๊กเล็กๆ น้อยๆ ในเกม Open World ทั่วไป ที่ทำหัวเสียบางครั้งแต่ไม่ได้มีผลกับเกมมากมายอะไร
สุดท้ายคือระบบถ่ายภาพที่เหมือนจะดีแต่ดันเอียงกล้องไม่ได้ ซึ่งผมมองว่าเป็นเรื่องใหญ่เพราะหลายๆ ครั้งต้องมีเอียงเฟรมกันบ้างเพื่อให้องค์ประกอบในภาพถ่ายสมบูรณ์ นอกจากนี้ภาพที่ถ่ายก็ขึ้นแชร์บนระบบคอมมิวนิตี้ของเกมแต่ดันไม่เข้าเครื่อง PC ซะงั้น แอบลำเค็ญในการหา Screenshot ก็ได้แต่หวังว่าในอนาคตเกมจะทำการปรับปรุงอัปเดตเรื่องพวกนี้ให้ดีขึ้นครับ
Riders Republic เซอร์ไพรซ์ผมเอามากๆ เพราะถึงจะตั้งตารอแต่ผมก็ไม่คาดคิดว่าจะสนุกสนานกับมันขนาดนี้ ผมรักหลายๆ อย่างเกี่ยวกับมัน ไม่ว่าจะบรรยากาศ เลเวลดีไซน์ ชุดคอสตูมและอุปกรณ์บ้าๆ บอๆ รวมไปถึงการที่เกมไม่ได้บังคับว่าผู้เล่นจะต้องเก่งเทพให้ได้โดยเร็ว แต่ปล่อยให้เรียนรู้จากความผิดพลาดและทำความคุ้นชินกับระบบของเกมไปเรื่อยๆ ที่สำคัญมันเป็นเกมที่ไม่ต้องมีเวลาให้มันเยอะนัก คิดถึงก็เข้าไปเล่นสัก Race แล้วออกมา แต่ถ้าใครมีเวลาว่างมากๆ ก็เข้าไปจมจ่อมดื่มด่ำบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมของมันก็ย่อมทำได้เช่นกัน ถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่หากใครมีทุนทรัพย์พอจับจ่าย หรือมีก๊วนเพื่อนที่เล่นอยู่ ก็อยากจะนำเสนอให้ลองพิจารณากันดูครับ