Mount & Blade II: Bannerlord – 5 สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อ!
Mount & Blade II: Bannerlord เพิ่งวางจำหน่ายเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และก็กลายเป็นเกมที่ฮอตฮิตพอสมควรโดยเฉพาะในหมู่คนชอบเกมสงคราม และเหล่าเกมเมอร์เมืองนอกผู้บ้ายุคกลาง แต่ก็มีหลายต่อหลายคนที่พอเห็นเกมมีชื่อขึ้นมาก็กดซื้อมาเล่นโดยไม่รู้ก่อนว่ามันเป็นเกมประเภทไหน หรือความสนุกของมันเป็นอย่างไร วันนี้ผมลองลิสต์มาถึงข้อควรรู้ก่อนซื้อเกมนี้ครับ เผื่อจะฉุกคิดและศึกษาตัวเกมมากขึ้นจะได้รู้ว่าเกมนี้เหมาะกับคุณหรือไม่
กราฟิกและ UI ไม่งามแลดูตกยุค
อันนี้คือเรื่องจริงที่มันเป็นมาตั้งแต่ภาคแรกๆ แต่ก็อาจกล่าวได้ว่าเป็นสเน่ห์ของเกมนี้เช่นกัน อาจเพราะช่วงแรกๆ นั้นทีมพัฒนาเกมนี้เป็นทีมเล็กๆ เลยเน้นพัฒนาไปที่เกมเพลย์และรายละเอียดต่างๆ ของเกมไว้ก่อน อย่างไรเสียสิ่งที่ปรากฎให้เราเห็นภาคนี้ก็ต้องถือว่าดูดีขึ้นเยอะมากๆ แล้ว เพียงแต่ถ้าถามว่ายังตกยุคอยู่ไหม? ก็ใช่ครับ… มันยังดูตกยุคอยู่ถ้าเทียบกับเกมสมัยนี้ ดังนั้นแล้วก็ลองพิจารณากันดูให้ดีแล้วกันนะ
แอคชั่นที่ไม่เหมือนแอคชั่น
พวกคลิปเทรลเลอร์หรือเวลาพูดถึงจุดเด่นของเกมหลายๆ ที่ก็มักจะยกเอาฉากสงครามมาพูดถึง ซึ่งก็ไม่ผิดนักเพราะมันก็นับเป็นไคลแมกซ์ของเกมจริงๆ นั่นแหละ เพียงแต่ถ้าจะเอาช็อตแอคชั่นของเกมนี้ไปเทียบกับพวกเกมแอคชั่นสายตรงระดับ AAA ก็ออกจะไม่ยุติธรรมไปสักหน่อย เพราะเนื้อแท้จริงๆ ของ Mount & Blade II: Bannerlord น่าจะตรงกับการเป็นเกมแนวซิมูเลชั่น ที่มีแอคชั่นมาเสริมมากกว่า ดังนั้นถ้าหวังแอคชั่นมันส์จัดๆ จากเกมนี้ก็อาจต้องผิดหวังกันไป เพราะหากพูดตามตรงทั้งโมชั่นและกราฟิกของมันก็ค่อนข้างตกยุค แถมเล่นยากแบบแอบไร้เหตุผลนิดๆ ด้วย (โดนรุม 2 นี่คือรากเลือดแล้ว) ทั้งยังไม่มีการกดคอมโบหรือท่าสังหารใดๆ ดังนั้นใครที่ชอบเกมแอคชั่นฟันดะก็ไม่แปลกที่จะไม่ชอบเกมนี้ แต่ถ้าใครชอบแอคชั่นแบบเน้นจังหวะ มีความท้าทายสูง ต้องอาศัยความแม่นยำ เกมนี้ก็ยังเข้าแก๊บคุณอยู่
ชุดคำสั่งเยอะ มือต้องคล่องสักหน่อย
เพราะเป็นเกมที่มีรากเหง้าบนเครื่อง PC ดังนั้นการที่เกมยัดคอมมานด์เข้ามาเยอะๆ จึงเป็นเรื่องเข้าใจได้ โดยผู้เล่นจะได้ใช้คอมมานด์เหล่านี้ในฉากการรบ ซึ่งสำคัญมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องคุมศึกในสงครามใหญ่ แม้จริงๆ แล้วถ้าเล่นในระดับความยากไม่มากนักจะใช้เพียง 2-3 คำสั่งก็พอ แต่หากเล่นในความยากระดับท้าทายแล้ว ทุกมูฟเมนต์ ทุกการแปรขบวนทัพของทหารแต่ละประเภท ย่อมสามารถกำหนดชัยชนะได้เลย ดังนั้นหากคุณไม่ชอบการบังคับหรือใส่คำสั่งยิบย่อยแล้ว ก็แนะนำให้เล่นในระดับความยากไม่มากนัก หรือมองข้ามเกมนี้ไปเลยก็ได้ครับ
ต้องมีเวลาให้
จริงๆ ข้อนี้อาจไม่เป็นปัญหาในช่วงเก็บตัวอยู่บ้านสักเท่าไหร่อย่างตอนนี้สักเท่าไหร่ แต่ยังไงมันก็ต้องการเวลาในการเล่นในหลักหลาย 10 ชั่วโมงอยู่ดี เพื่อความต่อเนื่อง บางเกมกดไป 30 ชั่วโมงแล้วยังไม่จบก็มี ขึ้นอยู่กับความรวดเร็วและระดับความยากที่แต่ละคนใช้เล่น ดังนั้นแล้วถ้าคาดหวังเกมฆ่าเวลาจริงๆ มันก็พอได้นะ แบบว่า เล่น>เซฟ>หยุด>เล่น>เซฟ>หยุด อะไรแบบนี้ แต่ก็นั่นแหละครับ ถ้าต้องการจะจบเกมแบบเต็มๆ ก็หลาย 10 ชั่วโมง ยังไม่นับการลองเล่นสัญชาติใหม่ Role ใหม่ หรือเหล่า Mod เจ๋งๆ แจ่มๆ ในอนาคตอีกมากมาย
เพราะเป็น Early Access จึงยังมีปัญหา
แม้เกมจะขายแล้ว แต่มันก็ยังคงไม่เสร็จสมบูรณ์ดี จึงยังคงมีปัญหาอยู่มากมาย ไม่ว่าจะบั๊คต่างๆ หรือแม้กระทั่งอาการเกม Crash รวมไปถึงการ Optimized เกมที่ยังไม่ดีนัก รู้สึกว่ากินแรงเครื่องมากกว่าสเป็คที่ระบุไว้และภาพกราฟิกที่แสดงออกมาให้เห็น ถึงเอาเข้าจริงๆ จะเล่นได้ดีอยู่ แต่มันก็อาจสร้างความขุ่นเคืองให้อารมณ์ระหว่างเล่นได้ ดังนั้นแล้วหากคิดจะเล่นมันก็ต้องทำใจไว้ก่อนครับ ไม่งั้นแล้วก็อาจจะอดทนรอไปจนกว่าจะหลุด Early Access ครับ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่น่ะนะ…
