7 JRPG ยุค 90 ที่ยังหาเล่นได้ในปัจจุบัน

7 JRPG ยุค 90 ที่ยังหาเล่นได้ในปัจจุบัน

JRPG 22

 หลังจากที่ Demo ของเกม Final Fantasy VII REMAKE ได้ออกมาให้แฟนๆ ได้ลองสัมผัสกันไปนั้น ก็ถือว่าได้กระแสตอบรับที่ดีมากๆ เลยทีเดียว หลายๆ คนก็เริ่มจะคิดถึงเกมแนว JRPG ในช่วงยุคนั้นที่ออกมาใกล้ๆ กันแถวยุค 90’s จะบอกว่าช่วงนั้นก็มีเกมดีเกมดังให้เหล่าเกมเมอร์ได้เล่นกันไม่น้อยเลยทีเดียวครับ วันนี้ก็เลยอยากจะมาแนะนำ 5 JRPG ในช่วงยุค 90’s ที่ยังสามารถหามาเล่นได้ในปัจจุบัน หามาเล่นรอช่วงก่อน Final Fantasy VII REMAKE ก็จะมีเวลาเล่นได้เดือนนึงพอดี จะมีเกมอะไรน่าเล่นบ้าง ไปดูกันเลยครับ

Final Fantasy

JRPG 00

 ถ้าพูดถึง JRPG ในยุคเก่าแล้วไม่พูดถึงซีรี่ส์นี้ก็คงจะบาปมากเลยทีเดียว ด้วยความที่มันมีหลายภาค ก็เลยขอรวบยอดทีเดียวไปเลยละกันครับกับซีรี่ส์ของ Final Fantasy เองที่ถ้านับถึงยุค 90 ก็จะได้ภาค 3 ถึงภาค 8 ครับ (ภาค 1-2 มันออกช่วง 80’s ส่วนภาค 9 มันขึ้น 2000 ละ) แต่ถ้าจะเอาให้คลาสสิคแบบ 90 หน่อยก็จะเป็นภาค 3-6 ละกัน Final Fantasy ในแต่ละภาคเองก็จะมีเนื้อเรื่องและระบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างมาก แต่ธีมหลักในช่วงภาคแรกๆ ก็มักจะเป็นการผจญภัยที่เกี่ยวกับคริสตัลต่างๆ นักรบแห่งแสง จอมมารที่จะยึดครองโลก เป็นต้น ทุกภาคที่ว่ามานี้สามารถหาเล่นได้ทั้งบนแพลตฟอร์ม Steam (โซนบ้านเรามีภาค 3, 7, 8) มือถือระบบ iOS และ Android หรือจะตาม Store บนเครื่องคอนโซลต่างๆ ก็มีให้ซื้อเหมือนกันครับ บางภาคเองก็ถูกนำมารีเมค รีมาสเตอร์ใหม่ให้เข้ากับยุคปัจจุบันมากขึ้นอีกด้วย ถ้าให้ผมเชียร์ผมจะเชียร์ภาค 6 เพราะผมชอบเรื่องราวของภาคนี้มากที่สุด แต่ถ้าใครอยากเล่นภาษาไทยบน Steam ตอนนี้ Final Fantasy III ก็ได้เพิ่มภาษาไทยพร้อมเปิดขายในสโตร์โซนไทยแล้วด้วยจ้า ส่วนบนมือถือก็มีขายในโซนไทยตั้งแต่ภาค 1-7 เลยจ้า

Dragon Quest

JRPG 03

 ถ้าถามว่าก่อน Final Fantasy มี JRPG ตัวอะไรที่ดังๆ รึเปล่า ? คำตอบก็คงจะไม่พ้น Dragon Quest จากค่าย Enix ที่มาก่อน FF ปีนึงนั่นเองครับ ดังนั้นตัวเกมที่อยู่ในช่วงยุค 90’s ก็จะเป็นภาค 4 บนเครื่อง Famicom ไปจนถึงแค่ภาค 6 บนเครื่อง Super Famicom ครับ (ภาค 7 ออกปี 2000) ถ้าถามว่าภาคไหนดังมากๆ ก็น่าจะเป็นภาค 3 เป็นยุคช่วงตำนานโรโตะที่ถูกนำไปทำเป็นอนิเมะ และภาค 5 ที่ถูกนำไปทำเป็น CG Animation ในภาค Your Stories หรือโดนนำไปล้อเลียนอย่างผู้กล้าโยชิฮิโกะ เป็นต้น ธีมหลักของเรื่องก็จะออกแนวผจญภัยออกปราบปิศาจในทุกๆ ภาค (ที่โดนล้อบ่อยๆ ว่าปิศาจจะอยู่ในปราสาทเฉยๆ 5555) ซึ่งคนที่สนใจ Dragon Quest ภาคเก่าๆ สามารถหาเล่นได้บนมือถือระบบ iOS และ Android หรือตามคอนโซลต่างๆ ครับ ส่วนภาคล่าสุดที่เป็นแนว JRPG ก็คือภาค 11 ที่ยังคงความเป็น JRPG ได้อย่างดีมาก และเนื้อเรื่องก็สนุกอีกด้วยเช่นกันครับ 

Romancing SaGa

JRPG 05

 อีก 1 ซีรี่ส์ที่โด่งดังมากๆ ในยุคนั้นจากค่าย Squaresoft เป็นซีรี่ส์ที่ต่อจากไตเติ้ลตระกูล SaGa ภาคแรกออกในปี 1992 เครื่อง Super Famicom เรื่องราวก็จะถูกเซทอยู่ในโลกความแฟนตาซีเหมือนๆ กัน แต่จุดเด่นที่แตกต่างจากเกมอื่นก็คือการที่เราจะต้องเลือกเล่นเป็น 1 ใน 8 ตัวละครเริ่มต้นที่มีเนื้อเรื่องแตกต่างกันไป ใช่แล้วครับระบบที่ว่านี้ถูกนำมาใส่ใน JRPG ตัวใหม่อย่าง Octopath Traveller นั่นเอง และก็ยังมีการพัฒนาตัวละครผ่านทางอาวุธที่ใช้ต่างๆ เพื่อได้รับท่าพิเศษตามประเภทอาวุธแทนที่จะเป็นการอัพเลเวลตามปกติ (อันนี้ก็ทรงๆ FF2) ทุกภาคเคยมีการรีมาสเตอร์กันไปแล้ว แต่ถ้าจะหาเล่นง่ายที่สุดก็คงจะเป็นภาค 2 และ 3 ที่รีมาสเตอร์แบบภาษาอังกฤษและลงแทบทุกเครื่องในปัจจุบันนี้ครับ ส่วนใครเล่นซีรี่ส์นี้ที่เป็นภาคล่าสุดก็ต้องไปเล่น SaGa: Scarlet Grace ที่ถูกพอร์ทจาก PSVITA มาเป็นเวอร์ชั่นอัพเกรด ก็ออกเกือบทุกแพลตฟอร์มเช่นกัน

Chrono Trigger

 

 ถ้าคุณเป็นคนอยากหา JRPG ที่เกี่ยวกับการท่องกาลเวลา แล้วมีเนื้อเรื่องที่ดีมากๆ Chrono Trigger คือคำตอบครับ ตัวเกมออกวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1995 บนเครื่อง Super Famicom หลายคนเห็นลายเส้นของเกมนี้แล้วจะบอกว่าคุ้นตาอย่างมากก็ไม่แปลกใจ เพราะคนออกแบบตัวละครเกมนี้ก็คืออาจารย์ Toriyama Akira หรือผู้วาด Dragonball นั่นแหละครับ แค่นี้ก็เป็นแรงจูงใจที่ดีในการที่จะลองสัมผัสแล้ว แต่มันยังไม่พอ ตัวเนื้อเรื่องของเกม Chrono Trigger เองนั้นจัดได้ว่าสุดยอดเลยครับ ถ้าอยากรู้ว่าเจ๋งอย่างไรอันนี้ผมอยากให้ไปลองเล่นกันเองจริงๆ บอกได้แค่ตัวเกมเกี่ยวกับเนื้อเรื่องการบังเอิญหลุดเข้าไปในมิติเวลาของพระเอกและทีมงาน ที่จะไปพัวพันกับทั้งอดีตและอนาคต ระบบการต่อสู้ยังเป็น Turn-based ทั่วไป แต่มีจุดเด่นที่มีการใช้สกิลคอมโบร่วมกับตัวละครอื่นในปาร์ตี้ออกมาเป็นท่าใหม่ได้ Chrono Trigger ได้ถูกพอร์ทมาลงเครื่องต่างๆ ให้ได้เล่นในปัจจุบันทั้ง PC, Console และก็ Mobile เช่นกันครับ (ตอนนี้เขาแก้เรื่อง Perf ที่แย่ๆ และมีการปรับ UI ต่างๆ แล้วด้วย)

Mana (Seiken Densetsu)

JRPG 07

 แม้ว่าซีรี่ส์ Mana หรือ Seiken Densetsu จะออกไปเป็นแนว Action RPG แล้ว แต่ก็ถือว่ามีชื่อเสียงมากในยุคนั้นและยังไม่ Action จ๋ามากเหมือนยุคนี้ ก็เลยอยากจะขอรวมไว้ในบทความแนะนำครั้งนี้ด้วยครับ สำหรับซีรี่ส์ของ Seiken Densetsu ถ้าเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษจะถูกเรียกเป็น Mana ต่างๆ จะเป็นชื่อแบบ xxx of Mana เป็นต้น แรกเริ่มเดิมทีก่อนที่ภาษาอังกฤษของซีรี่ส์นี้จะเป็น xxx of Mana มันเป็นเกมที่ถูกทำออกมาให้เป็นไซด์สตอรี่ของ Final Fantasy ที่เป็นแนว Action RPG ทำให้ชื่อภาคแรกคือ Final Fantasy Adventure หรือที่ภายหลังออกที่ยุโรปในชื่อ Final Fantasy Mystic Quest บนเครื่อง Super Famicom เอาจริงๆ ชื่อญี่ปุ่นก็ Seiken Densetsu: Final Fantasy Gaiden นะ จน Seiken Densetsu ภาค 2 หรือ Secret of Mana นี่แหละที่มาทำเป็นเนื้อเรื่องของตัวเอง เริ่มมีระบบเป็นของตัวเองอย่างระบบคำสั่งแบบวงแหวน ระบบการต่อสู้ที่ออกแนว Action ที่ติดความ RPG มากขึ้น จนกระทั่ง Seiken Densetsu 3 หรือ Trial of Mana นี่แหละที่เป็นภาคที่ใครหลายคนนิยมชมชอบกันเป็นอย่างมาก เพราะในภาคนี้เราจะต้องเลือกตัวละครในปาร์ตี้ทั้งหมด 3 จาก 6 ตัวละครด้วยกัน เนื้อเรื่องจะเริ่มเล่าจากเหตุการณ์ของตัวละครตัวแรกที่เลือก จนเริ่มออกเดินทางและหาเพื่อนร่วมปาร์ตี้ได้ครบ 3 คนตามที่เราเลือกไว้ มีระบบการเปลี่ยนอาชีพได้ตัวละ 2 สาย (มักเรียกกันว่าสายแสงสว่าง กับสายความมืด) สายละ 2 ครั้ง ที่สำคัญคือมันสามารถเล่นได้ 2 คน! โดยให้เพื่อนกด Start ที่จอย 2 ก็จะบังคับตัวละครตัวที่ 2 เล่นได้ในฉากต่อสู้ครับ ปัจจุบันหาเล่นได้ 2 ภาคแรกก็คือ ภาค 1 ในชื่อ Adventures of Mana ที่รีเมคลงให้กับมือถือ ภาค 2 ชื่อ Secret of Mana ที่รีเมคลงให้กับ Steam และคอนโซลต่างๆ มีภาษาไทยด้วยนะ ส่วนภาคที่กำลังจะมาก็คือภาค 3 หรือ Trial of Mana ที่จะลงให้กับ Steam และคอนโซลต่างๆ ในวันที่ 24 เมษายนนี้ หรือใครอยากเล่นแบบคลาสสิคก็มีเวอร์ชั่นรวม Collection ภาค 1-3 แบบดังเดิมขายบนคอนโซลครับ

Grandia

JRPG 11

 ในช่วงยุคที่ Final Fantasy VII โด่งดังเป็นกระแสไปทั่วโลกบนเครื่อง PlayStation ก็มี JRPG อีกเกมหนึ่งที่ดีมากๆ วางจำหน่ายบนเครื่อง Sega Saturn เช่นกันครับ นั่นก็คือ Grandia นั่นเอง ซึ่งภายหลังก็ไปลงให้กับเครื่อง PlayStation เช่นกัน เกมนี้หลุดออกมาจากค่ายใหญ่อย่าง Square Enix แล้วครับเพราะผู้พัฒนาก็คือค่าย Game Arts ที่ก็มีผลงานคุ้นชื่อในยุคนั้นอย่าง Lunar ครับ แม้ว่าซีรี่ส์ Grandia เองจะมีด้วยกันถึง 6 ไตเติ้ล แต่ภาคที่เป็นภาคหลักใหญ่ๆ ทั้ง 3 ภาคก็โด่งดังที่สุด แต่ถ้าจะสโคปให้เหลือในยุค 90’s ก็จะมีแค่ Grandia ภาคแรกเกมเดียวเลยครับ เนื้อเรื่องจะว่าด้วยเรื่องของการออกผจญภัยของพระเอกหนุ่มน้อยที่ชื่อว่า จัสติน ออกท่องโลกกว้างสำรวจโบราณสถาน ซากปรักหักพังต่างๆ ข้ามทวีปไปจนสุดขอบโลก และก็บังเอิญไปพัวพันกับเรื่องบางเรื่องนั่นเองครับ ระบบการต่อสู้จะเป็น Turn-based ที่มีเรื่องของการวางตำแหน่งตัวละครเข้ามาเพื่อหลบหลีกการโจมตีต่างๆ ด้วย จริงๆ การได้เทิร์นใส่คำสั่งก็จะไปทรงคล้ายๆ ระบบ ATB นั่นแหละ แต่สามารถใช้สกิลเพื่อชะงักเกจของศัตรูได้ หรือ เอาจริงๆ ผมค่อนข้างแนะนำให้ดูสถาปัตยกรรมและอารยธรรมต่างๆ ของเกมนี้ที่ทำออกมาได้ดีมากๆ เลยทีเดียวครับ ตอนนี้ Grandia เองก็มีเวอร์ชั่น HD Remaster วางจำหน่ายบน Steam แล้ว 289 บาทเองด้วย หรือถ้าใครจะเล่นบนคอนโซลก็มีเวอร์ชั่นที่เป็น HD Collection ครับ 

Valkyrie Profile

JRPG 10

 มาต่อกันที่ Valkyrie Profile ที่ภาคแรกออกมาในช่วงปี 1999 พอดิบพอดี และก็เป็นภาคที่ผู้คนกล่าวขานถึงกันมากที่สุดด้วยเช่นกัน เป็นเกมที่พัฒนาโดยค่าย tri-Ace ที่มีผลงานคุ้นชื่อกันดีอย่างพวกซีรี่ส์ Star Ocean ครับ แต่เกมค่ายนี้ส่วนใหญ่จะจัดจำหน่ายด้วยค่าย Enix ตั้งแต่สมัยก่อนละ Valkyrie Profile จะถูกวางโครงเรื่องเกี่ยวกับเทพนอร์ส เล่าเรื่องผ่านวัลคีรี่ที่มีชื่อว่า Lenneth ที่ออกท่องไปทั่วดินแดน Midgard เพื่อสะสมวิญญาณเหล่าวีรบุรุษที่ถูกสังหารลงมาเป็นมิตรสหายร่วมปาร์ตี้ แต่ก็มีเรื่องราวบางอย่างที่ถูกเตรียมรอไว้เซอร์ไพรส์ผู้เล่นเช่นกันครับ ระบบต่อสู้ก็ยังเป็น Turn-based อยู่แต่ว่าจะมีการเพิ่มระบบการใส่คำสั่งโจมตีแยกตัวละครตามปุ่มเพื่อสะสมเกจแล้วปล่อยท่าไม้ตายสวยๆ ออกมาโจมตีฝ่ายตรงข้ามกัน มีตัวละครให้เล่นถึง 24 ตัวละคร สำหรับ Valkyrie Profile นั้นจะมีภาคล่าสุดที่หาเล่นได้ง่ายเป็น Valkyrie Profile: Lenneth ที่ลงให้กับแพลตฟอร์มมือถือทั้ง iOS และ Android ในปี 2018 ครับ

   JRPG 44

 จริงๆ ช่วงนั้นจะมีพวกเกม JRPG ดังๆ อย่าง Xenogears, Breath of Fire, Genso Suikoden, Mother ที่ปัจจุบันก็ไม่ได้ทำต่อแล้ว หรือทำต่อขึ้นเป็นภาคใหม่ๆ แทนอย่างเช่น Xenobalde เป็นต้น ก็น่าเสียดายเหมือนกัน หรือจะเป็นเกมที่ Action RPG จ๋าๆ อย่างพวก Star Ocean, Tales of Phantasia หรือ Destiny ก็ดังในช่วงยุคนั้นเหมือนกัน แต่ทั้ง 7 เกมที่พูดถึงด้านบนก็คือยังหาเล่นได้ง่ายในยุคปัจจุบันแบบพวกลงเครื่อง PlayStation 4, Nintendo Switch, iOS, Android หรือบน PC ผ่าน Steam ได้อยู่ครับ หรือใครที่มีเกมอะไรแนะนำก็สามารถแนะนำกันเข้ามาได้จ้า เผื่อจะไปหามาลองเล่นดูบ้าง

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้