รีวิว Monster Hunter World: Iceborne สู่การล่าแย้ในแดนหิมะครั้งใหม่สำหรับชาว PC
สิ้นสุดการรอคอยเสียทีสำหรับเหล่านักล่าแย้ชาว PC ทั้งหลาย เพราะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ถึงคิวอัพเดต Expansion ใหญ่อย่าง Monster Hunter World: Iceborne ให้ชาว PC ได้เล่นกันบน Steam เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลายคนก็พร้อมออกล่ากันตั้งแต่วันศุกร์ หลายคนก็ยังลังเลว่าจะไปต่อดีหรือไม่ ? ด้วยความยากที่เพิ่มขึ้นจากคำกล่าวขานของเหล่าผู้ที่นำไปก่อนอย่างชาว PS4 ดังนั้นการพูดถึง Monster Hunter World: Iceborne ครั้งนี้จะไม่ได้บอกว่าตัวเกมเป็นอย่างไร แต่จะพูดถึงสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในภาคนี้เป็นหลักก็แล้วกันครับ
เข้าสู่ระดับ Master
สิ่งแรกที่ต้องรับมือเลยก็คือการเข้าสู่ความยากระดับ Master Rank นั่นเองครับ อย่างของภาค World ปกติที่เราเล่นกันมาสูงสุดจะเป็นแบบ High Rank มอนม่วง มอนส้ม ที่ก็มีความยากในระดับหนึ่งแล้ว Master Rank จะก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่งครับ ถ้าเป็นนักล่ารุ่นเก่าก็อาจจะเรียกเทียบระดับนี้ว่า G-Rank ก็ได้ สิ่งที่เห็นได้ง่ายที่สุดในการขึ้นความยากระดับใหม่นี้เลยก็คือ “ความอึด” ของมอนสเตอร์ ณ ตอนที่เราก้าวเข้าสู่ระดับนี้ครั้งแรกครับ ตรงนี้ถ้าหากเป็นคนที่มีการฟาร์มชุดมาดีหน่อยก็จะช่วยให้ผ่านช่วงแรกไปได้ง่ายขึ้น เราจะต้องเสียเวลาการต่อสู้กับมอนสเตอร์เหล่านี้มากขึ้นกว่าปกติจนอาจจะต้องเริ่มทำชุด อาวุธใหม่ๆ เพื่อทำให้ผ่านได้ง่ายขึ้น โดยช่วง Master Rank ก็จะเริ่มนับ 1 ใหม่แยกกับ Hunter Rank เดิม และเมื่อเล่นจบก็จะมีการปลดล็อคระดับเหมือนตอน Hunter Rank นั่นเองครับ รวมไปถึงพวกเควสต์ Optional, Investigation หรือแม้กระทั่ง Event เองก็จะขึ้นระดับ Master Rank ด้วยเช่นกันครับ
มอนสเตอร์ใหม่และแผนที่ใหม่
สำหรับ Monster Hunter World: Iceborne เราจะได้ออกผจญภัยไปสำรวจสถานที่ใหม่ที่ถูกเรียกว่า Hoarfrost Reach ซึ่งจะเป็นแผนที่ใหม่ในการล่าของเราที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ทำให้มีสภาพอากาศหนาวจนค่าสตามิน่าสูงสุดลดลงอย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องดื่ม Hot Drink เพื่อให้ไม่โดนลดสตามิน่าครับ และแน่นอนว่าการมาของแผนที่ใหม่ ก็จะมีมอนสเตอร์ใหม่ๆ โผล่เข้ามาด้วยเช่นกันอย่างเช่น Beotodus กับ Banbaro ที่เจอตอนต้น Barrioth เสือเขี้ยวดาบที่เป็นตัวไฮสปีดวัดความไวพื้นฐานให้กับผู้เล่น Brachydios มังกรหมัดระเบิดที่เดมซี่โลได้ Glavenus แย้หางดาบ ปาดทีมีศพ Tigrex ไวเวิร์นเสือที่มีคนบ่นเยอะที่สุดตัวนึงเรื่องความไวจนน่ารำคาญ Nargacuga หนูค้างคาว(ตกลงตัวไรดี)ที่มีความไวไม่แพ้ตัวอื่นๆ Yian Garuga ไวเวิร์นนกแก้วที่มีเกราะหนาผิดกับรูปลักษณ์ Zinogre น้องหมาสายฟ้าสุดเท่ที่เบ่งพลังได้ Velkhana มังกรโบราณตัวหลักที่นำพาเรื่องราวมาสู่การผจญภัยครั้งนี้ Namielle มังกรโบราณเจลไฟฟ้า และ Shara Ishvalda มังกรโบราณที่มีรูปลักษณ์เหมือนโกเล็มก่อนที่จะแสดงร่างจริงให้นักล่าได้เห็นกัน (ส่วน Rajang กับ Safi ‘Jiiva ชาว PC ต้องรออัพเดตก่อนนะ) นอกจากนี้ก็ยังมีมอนสเตอร์ตัวเก่าๆ ที่เป็นซับสปีชี่โผล่มาให้เราได้ตื่นเต้นกันอีกมากมายด้วย
ไหนๆ ก็พูดถึงแผนที่ใหม่แล้วก็ขอรวมอยู่ในนี้ไปด้วยเลยละกันครับ เพราะว่าเมื่อเล่นจนจบเกมแล้วเราจะค้นพบแผนที่ใหม่ที่เรียกว่า Guiding Lands เป็นโซนสำหรับ Master Rank เท่านั้น ในแผนที่นี้จะเป็นการแบ่งโซนย่อยๆ ที่ย่อส่วนมาจากแผนที่ทั้งหมดในเกมครับ ก็คือจะมีทั้งแบบ หิมะ ทะเลทราย ป่า ภูเขาไฟ ใต้ดิน มาหมดแบบครบๆ อยู่ในแผนที่เดียว ซึ่งแต่ละโซนก็จะมีเลเวลเป็นของตัวเอง สามารถอัพเลเวลได้ ปลดล็อคมอนสเตอร์ต่างๆ ภายในนี้ได้ ถ้าถามว่าแล้วจะมาล่ามอนสเตอร์แบบสุ่มในนี้ทำไม แทนที่จะไปแบบเลือกตัวได้ข้างนอก เพราะใน Guiding Lands จะมีวัตถุดิบบางอย่างที่ดรอปจากเฉพาะในนี้เท่านั้นครับ กับมอนสเตอร์บางตัวที่หาได้จากโซนนี้เท่านั้นอีกด้วย เอาไว้มีโอกาสจะอธิบายแบบละเอียดๆ ให้นะ
อุปกรณ์ใหม่ Clutch Claw และท่าใหม่ทุกอาวุธ
ในภาคนี้จะมีอุปกรณ์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาชื่อว่า Clutch Claw ครับ โดยเจ้าอุปกรณ์นี้จะเป็นกรงเล็บสลิงที่เมื่อยิงไปแล้วจะพาเราพุ่งเข้าไปยึดเกาะบนตัวมอนสเตอร์ตามจุดที่ยิง มีระยะไม่ไกลมากนัก ซึ่งเมื่อขึ้นไปเกาะแล้วจะสามารถโจมตีเพื่อทำให้ดรอปกระสุนยิงสลิงหรือเป็นระบบใหม่ที่เรียกว่า Wound หรือการเปิดจุดอ่อนบนตัวมอนสเตอร์เพื่อเพิ่มความเสียหายที่ทำได้ให้กับมอนสเตอร์เมื่อผู้เล่นโจมตีจุดนั้นๆ โดยสามารถอ่านวิธีการใช้ Clutch Claw อย่างละเอียดได้ที่ แนะนำเทคนิคการใช้ Clutch Claw เลยจ้า ส่วนอาวุธปกติทั่วไปทั้งหมด 14 ชนิด ก็จะได้รับท่าใหม่เพิ่มเข้ามาทุกอาวุธด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นท่าที่เกี่ยวข้องกับการมาของ Clutch Claw ซะเยอะ บางท่าก็จะเป็นการลัดคอมโบ บางท่าก็เพิ่มบัฟ เพิ่มลูกเล่นต่างๆ เป็นต้นครับ อันนี้อาจจะต้องลองไปเข้า Training Area หรือไม่ก็หาดูตาม Youtube เอานะ
อุปกรณ์สวมใส่ระดับ Rare 12
หลังจากที่ภาค World ปกติไอเทมสวมใส่ต่างๆ จะมีระดับสูงสุดอยู่ที่ Rare 8 เท่านั้น แต่ด้วยเหล่ามอนสเตอร์ใน Monster Hunter World: Iceborne เขาขึ้นระดับ Master Rank กันไปแล้ว ดังนั้นอุปกรณ์สวมใส่ต่างๆ เองก็จะถูกอัพเกรดระดับไปด้วยครับ โดยไอเทมจะมีตั้งแต่ระดับ Rare 9 ไปจนถึง Rare 12 เลยทีเดียวครับ ซึ่งความห่างของค่าพลังป้องกันพื้นฐานระหว่างไอเทม Rare 8 ของเก่า และ Rare 9 ของใหม่ค่อนข้างต่างกันอย่างมากครับ รวมไปถึงพวกอาวุธต่างๆ ด้วย ทำให้ค่อนข้างจำเป็นในการทำอุปกรณ์ใหม่ๆ เพื่อทำให้การเล่นง่ายขึ้นครับ และนอกจากจะมีค่าพลังต่างๆ เพิ่มขึ้นแล้ว ช่องสวมใส่ Decoration หรือที่เรียกกันว่าเพชรก็ถูกเพิ่มสล็อตเข้ามาใหม่เป็นแบบ 4 สล็อต เพชรก้อนใหญ่ที่จะให้เป็นสกิลคู่อย่างละ 1 เลเวล หรือสกิลเดียวที่ได้ 2 เลเวลครับ
หลักๆ ก็จะมีการเพิ่มเติมเข้ามาประมาณนี้สำหรับ Monster Hunter World: Iceborne ครับผม ส่วนตัวแล้วถือว่าเป็น Expansion ที่โอเคมากเลยทีเดียวครับ (แต่พวกผมก็มักจะแซวว่านี่แหละคือ Monster Hunter World ที่ทำเสร็จแล้ว ก่อนหน้านี้คือ Demo 555+) ทั้งแผนใหม่ อุปกรณ์ใหม่ที่เพิ่มเข้า มอนสเตอร์ใหม่ที่มากพอที่จะเรียกว่านี่แหละคือ Monster Hunter ภาคใหม่ครับ แต่อาจจะไม่ค่อยถูกใจสำหรับคนที่ไม่ชอบการฟาร์มวนไปซักเท่าไหร่ เพราะการมาของ Guiding Lands (ที่หลายคนเรียกว่า Grinding Lands ไปแล้ว) และเพชรแบบ 4 สล็อต ทำให้ค่อนข้างจะวนหนักกว่าเดิมพอสมควรเลยครับ แต่ที่พลาดที่สุดของเวอร์ชั่น PC คงจะไม่พ้นเรื่องของการพอร์ทมาลงแล้ว Optimize มาได้แย่จนเกิดปัญหาต่างๆ ที่หลายคนเจอกันอย่างเช่นการกิน CPU 100% เฟรมเรทดรอปลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบจากตอนก่อนอัพ Expansion ใหม่นี้ หรือการที่เล่นๆ อยู่แล้วเกิดปัญหาเกมค้าง (freeze) ประมาณ 3-5 วินาที เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่มากๆ เลยทีเดียวครับ แต่บั๊คมอนสเตอร์ติดกำแพงบ้าง หรืออยู่ดีๆ ก็ลอยไปที่มีมาตั้งแต่ตอน PS4 ใน PC ก็ยังคงเจออยู่บ้างเช่นเดิม แต่ไม่บ่อยนะ ตั้งแต่เล่นมาเจอ 1-2 ครั้งเอง หากใครไม่รีบก็แนะนำให้รอมีแพตช์แก้ก่อนจะได้เล่นกันแบบไม่ติดขัดครับ
