น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งนะครับ หลังผ่านมาประมาณ 1 สัปดาห์นับตั้งแต่เกม Left Alive วางจำหน่าย แต่เหมือนคะแนนรีวิวและเสียงวิจารณ์จากผู้เล่นจะดูไม่จืดเอาเสียเลย นั่นก็เพราะว่าคุณภาพของเกมดันย่ำแย่กว่าที่หลายๆ คนคาดหวังไว้ไปมาก ทั้งๆ ที่ตอนเปิดตัวเกมนี้ครั้งแรก ด้วยการชูจุดขายว่าเนื้อหาของเกมจะอยู่ในจักรวาลเดียวกับ Front Mission ซึ่งเป็นซีรีส์วางแผนการรบชื่อดังของ Square Enix ที่สร้างเกียรติประวัติมายาวนานถึง 24 ปี แต่สุดท้าย Left Alive ก็ไม่สามารถจุดติดกระแสซีรีส์นี้ให้กลับมาคึกคักได้อีก หนำซ้ำยังสุ่มเสี่ยงที่จะฉุดตัวซีรีส์ลงสู่หุบเหวเอาได้ง่ายๆ
“ทำไม Front Mission จึงหล่นมาถึงจุดนี้ได้?”
นี่เป็นคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาหลังเห็นความล้มเหลวทางด้านยอดขายและกระแสจากกลุ่มผู้เล่น ซึ่งเหตุผลหลักๆ น่าจะมีประมาณนี้ครับ
1. ภาคหลักเว้นช่วงนานเกินไป
นับจากภาค 2089 – II ที่เปิดให้เล่นบนแพลตฟอร์มโทรศัพท์มือถือ เฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2006 จนบัดนี้ผ่านมา 13 ปีแล้วก็ยังไม่มีภาคหลักออกมาอีกเลย โดยในช่วงระยะเวลา 13 ปีนี้มีเพียง Front Mission Evolved ที่เป็นภาครีบูต วางจำหน่ายคั่นกลางเพียงภาคเดียวก่อนจะมาถึง Left Alive แถมภาคนั้นก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควรด้วย
พอเกมถูกเว้นช่วงนาน ผลเสียอย่างอื่นก็ตามมา รอยต่อ 13 ปีที่หายไป โลกเรามีเกมเมอร์ผุดขึ้นมามาก เรียกว่ามากจนหลายคนที่เข้าสู่วงการเกม ณ ช่วงเวลานั้นก็แทบไม่รู้จักซีรีส์นี้กันแล้ว ดีไม่ดีเผลอๆ ลองหยิบเอา Front Mission ภาค 4 หรือ 5 ไปให้เด็กยุคนี้เล่น เขาอาจจะสวนกลับมาว่าเล่น RoV ยังจะสนุกและมีกราฟิกสวยกว่าเสียอีก
2. ไอเดียทีมพัฒนาน่าจะถึงทางตัน หรือฝีมือไม่ถึง
ประเด็นนี้ถูกสะท้อนให้เห็นผ่านเกม Left Alive เต็มๆ ครับ โดยตัวเกมมีรูปแบบการเล่นหลักๆ ที่ให้เราต้องลุยแบบลอบเร้น แต่ปัญหาใหญ่คือ ตัวละครเราไม่สามารถลอบฆ่าศัตรู หรือไม่มีท่า Stealth Takedown นั่นเอง ในขณะที่การฆ่าศัตรูไม่ว่าจะวิธีไหนก็จะส่งเสียงดังจนศัตรูรู้ตัวหมด ไหนจะเรื่องของการควบคุมแวนเซอร์ที่แสนจะเทอะทะ และที่แย่กว่านั้นคงหนีไม่พ้นเรื่องกราฟิก ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเล่นเกมยุค 10 กว่าปีก่อน (ประมาณช่วงต้นเจเนอเรชั่น PS3 หรือ Xbox 360) เลยทีเดียว
ขณะเดียวกัน ระบบการยิงปืนในเกมนี้ก็ดูไม่สมูธ อีกทั้งสมดุลเกมก็ไม่มี ถึงขนาดที่เกมเมอร์บางคนอัดคลิปที่เป็นการโชว์เอาท่อนแป๊บไปฟาดรถถังจนระเบิดได้ ทุกสิ่งอย่างล้วนดูตกยุค และดูผิดที่ผิดทางไปหมด ซึ่งตามปกติแล้ว เวลาเกมไรออกมา แล้วมีคนที่เคยเล่นเกมอื่นที่มีระบบคล้ายกันมาก่อน ยังไงมันก็ต้องถูกเอาไปเปรียบเทียบกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะถ้าเกมอื่นเขาทำแบบนั้นแบบนี้ได้ แต่เกมนี้กลับทำไม่ได้ ยังไงเกมนี้ย่อมต้องโดนสับเละ
เพื่อนๆ สามารถชมคลิปเอาท่อนแป๊บตีรถถังได้ที่ลิงค์ https://twitter.com/automatter/status/1102191763651932160
3. เลือกกลยุทธ์ผิด
เรื่องนี้มีความสัมพันธ์กับข้อแรก กล่าวคือ การจะคัมแบคหลังเว้นช่วงไปนาน 13 ปี ในมุมมองของผู้เขียนคิดว่า Square Enix ควรออกภาคต่อที่เป็นภาคหลัก หรือภาคที่เป็นเนื้อเรื่องต่อจากภาค Evolved หรือไม่ก็จับซีรีส์มารีบูตซ้ำอีกรอบมากกว่า เพราะการทำเกมที่มีชื่อใหม่ แต่ไปโฆษณาว่ามันอยู่ในจักรวาลเดียวกับ Front Mission มันจะสร้างความลังเลให้กับแฟนมากกว่าที่คิด
อย่างแรกเลย คนเล่นจะมองว่า Left Alive คงไม่ค่อยมีอะไรเชื่อมกับ Front Mission มากนัก ตามสูตรของเกมสปินออฟทั่วไป ต่อมาคือ พอโชว์เกมเพลย์ว่ามาแนวแอ็กชั่นชู้ตติ้งที่แทบจะคนละขั้วกับแนวเดิม แฟนๆ ที่โหยหาบรรยากาศแบบภาคเก่าจะพาลรู้สึกว่ามันคือเกมอื่น ทำให้ความน่าเล่นน้อยลง ตรงนี้พอเข้าใจได้ว่าอยากเจาะผู้เล่นกลุ่มใหม่ที่ชื่นชอบเกมแอ็กชั่น แต่เมื่อทำออกมาแล้ว เกมดันมีคุณภาพอย่างที่เห็นก็เท่ากับจบเห่ เละเทะ ไปโดยปริยาย ซึ่งถ้าปรับเป็นแนว Real-time Strategy เน้นออนไลน์มัลติเพลเยอร์เต็มตัว หรือฉีกแนวไปจับกระแส Battle Royale ซะเลย บางทีแฟนๆ ยังอะลุ้มอล่วยว่าทำตามสมัยนิยมได้บ้าง และถ้าประยุกต์ดีๆ ก็พอมีแววปังได้อยู่
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการสันนิษฐานจากทีมงาน OS ครับ เนื่องจากสาเหตุของปัญหาจริงๆ อาจมีมากกว่านั้น หรืออาจจะผิดเพี้ยนจาก 3 ข้อที่กล่าวมาไปบ้าง ซึ่งก็น่าจะรวมถึงปัญหาภายในของ Square Enix ด้วยส่วนนึง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในฐานะที่เป็นแฟนที่ติดตามซีรีส์ Front Mission มาตั้งแต่ภาคแรก ก็ยังหวังลึกๆ ว่าจะมีปาฏิหาริย์สักอย่างมาช่วยกอบกู้ให้ซีรีส์นี้กลับมาปังได้ในเร็ววันครับ
