รีวิว Ascent Infinite Realm สงครามกลางเวหากลางเวลายุคสตรีมพั๊งค์


เงียบเหงากันมาพักใหญ่เลยสำหรับตลาดเกมแนว mmorpg บน PC Online ในบ้านเรานะครับ จนกระทั่งล่าสุดทาง Playpark ได้ประกาศเตรียมเข็นเกมใหม่เข้ามากับเกมที่มีชื่อว่า Ascent Infinite Realmหรือ A:IR ผลงานจากผู้พัฒนาที่คุ้นหูกันดีก็คือ Bluehole Studio ผู้สร้างเกม PUBG และ TERA แถมยังเป็นการเปิดให้บริการในประเทศไทยเป็นที่แรกอีกด้วย แน่นอนว่าเราก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปทดสอบกันมาแล้วเล็กน้อย ก็เลยจะมารีวิวแบบคร่าวๆ ให้ทุกคนได้อ่านกันครับ

เรื่องราวของ Ascent Infinite Realm เป็นเรื่องราวของกลุ่มนักสำรวจบนโลกที่มีชื่อว่า Harth ที่ซึ่งอารยะธรรมของจักรกลและเวทมนต์อยู่ร่วมกัน เดินทางสำรวจเพื่อบุกเบิกดินแดนใหม่และฟื้นฟูอาณาจักร ตัวละครเราจะถูกเรียกว่า “บุตรแห่งดวงดาว”จะต้องเดินทางย้อนกลับไปมาระหว่างอดีตและปัจจุบันเพื่อเผยภัยลับที่ซ่อนอยู่ พร้อมกับการทำสงครามระหว่าง 2 ฝ่ายที่ขัดแย้งกันอย่าง Vulpin(สีฟ้า) และ Ontari(สีแดง)



พื้นฐานของเกม Ascent Infinite Realm จะเป็นเกมแนว open worldmmorpg ในธีม Steampunk ครับ ดังนั้นสถาปัตยกรรมภายในเกมก็จะดูเป็นเครื่องจักรไอน้ำ ผสมผสานกับความเป็นแฟนตาซีได้อย่างลงตัว มีกราฟิกที่สวยงาม มีระบบต่างๆ มากมายให้ได้งงในช่วงแรกของการเล่นเกมอย่างแน่นอน

ระบบแรกขอเปิดด้วยเรื่องของสายอาชีพและเผ่าในเกมก่อนเลยครับผม Ascent Infinite Realmจ ะมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 4 เผ่า ได้แก่ ฮูนัน(หรือมนุษย์) เอลฟ์ อาอิน(หมาป่า แมว แรคคูนตัวเล็ก) และออร์ค ซึ่งแต่ละเผ่าเบื้องต้นตอนนี้จะแตกต่างกันแค่รูปลักษณ์ภายนอก ไม่ได้มีผลต่อสกิลเสริมหรือการเลือกสายอาชีพครับส่วนสายอาชีพก็จะมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 5 อาชีพ ดังนี้

Warlord (วอร์ลอร์ด) – อาชีพสายแท๊ง มีพลังป้องกันที่สูงที่สุดในบรรดาทุกอาชีพ มีความสามารถในการโจมตีระยะประชิดในระดับหนึ่ง ใช้อาวุธประเภทค้อนและโล่ เหมาะกับการเป็นแถวหน้าของปาร์ตี้เพื่อชนมอนสเตอร์
พลังโจมตี – 3/5
ความเร็วโจมตี – 2/5
คริติคอล – 3/5
ระยะการโจมตี – 2/5
พลังป้องกัน – 5/5
สนับสนุน – 4/5


Sorcerer (นักแปรธาตุ) – นักเวทผู้ใช้พลังไฟและน้ำแข็งโจมตีจากระยะไกล มีความสามารถในการสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง เหมาะกับการเคลียร์มอนสเตอร์เป็นกลุ่มตามดันเจี้ยน
พลังโจมตี – 5/5
ความเร็วโจมตี – 2/5
คริติคอล – 4/5
ระยะการโจมตี – 4/5
พลังป้องกัน – 2/5
สนับสนุน – 2/5


Mystic (มิสติก) – นักเวทที่ยืมพลังแห่งธรรมชาติ มีความสามารถโดดเด่นในเรื่องของการสนับสนุนเพื่อนร่วมทีมที่มากที่สุดในกลุ่ม หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่าสายอาชีพพระนั่นแหละครับ
พลังโจมตี – 3/5
ความเร็วโจมตี – 3/5
คริติคอล – 2/5
ระยะการโจมตี – 4/5
พลังป้องกัน – 2/5
สนับสนุน – 5/5


Assassin (นักฆ่า) – มีความสามารถในเรื่องของการสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องในระยะประชิดด้วยมีดคู่ มีการโจมตีที่รวดเร็วและติดคริติคอลบ่อยที่สุดในทุกสายอาชีพ
พลังโจมตี – 3/5
ความเร็วโจมตี – 5/5
คริติคอล – 5/5
ระยะการโจมตี – 1/5
พลังป้องกัน – 3/5
สนับสนุน – 2/5


Gunslinger (นักยิงปืน) – สายอาชีพที่มีการโจมตีระยะไกลที่สุดในทุกสายอาชีพด้วยการใช้อาวุธปืน มีพลังโจมตีอยู่ในระดับสูงต่อการโจมตีหนึ่งครั้ง
พลังโจมตี – 4/5
ความเร็วโจมตี – 3/5
คริติคอล – 3/5
ระยะการโจมตี – 5/5
พลังป้องกัน – 3/5
สนับสนุน – 2/5


มาดูระบบต่อสู้ของเกม Ascent Infinite Realm กันบ้างครับ เบื้องต้นตัวเกมจะเป็นระบบกึ่ง Non-targeting และ Targeting Combat ถ้าอธิบายง่ายๆ ก็คือมันมีเป้ากลางจอ ปาดๆ ผ่านมอนบางสกิลมันจะล็อคเป้าให้ บางสกิลก็ไม่ล็อค ต้องหันไปหาเอง แต่ที่น่าสนใจของระบบต่อสู้ก็คือ สามารถต่อสู้กันบนอากาศได้ด้วยการขี่สัตว์ขี่แล้วบินขึ้นไปบนอากาศต่อสู้ได้เลย หรือว่าจะเป็นสงครามที่ใช้เรือเหาะเป็นอุปกรณ์ในการต่อสู้ก็มี เรียกว่าเป็นการต่อสู้ที่มีเลเยอร์มากกว่าแค่บนพื้นดินธรรมดา เพราะมีการต่อสู้กลางอากาศด้วยนั่นเองครับ

นอกจากนี้แล้วก็ยังมีระบบที่เรียกว่า Tactic Shift ที่แต่ละอาชีพจะสามารถเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ได้ 2 รูปแบบ โดยแต่ละรูปแบบที่เปลี่ยนไปก็จะมีบางสกิลที่ถูกเปลี่ยนเข้ามาแทนที่รูปแบบเดิม ยกตัวอย่างเช่น Warlordจะมี 2 รูปแบบคือ อันแรกจะเป็นสายป้องกัน ก็จะมีสกิลต่างๆ ที่เกี่ยวกับการใช้โล่เป็นหลักและสามารถตั้งโล่เพื่อป้องกันได้ แต่พอสลับไปอีกสายที่เน้นการโจมตีแล้ว จะไม่มีความสามารถในการตั้งโล่ สกิลที่เกี่ยวกับการใช้โล่จะถูกแทนที่ด้วยการโจมตีสร้างความเสียหายสูงๆ เป็นต้น ซึ่งเราสามารถสลับสับเปลี่ยนรูปแบบได้ตลอดเวลา (มีคูลดาวน์ประมาณ 1 วินาที) ทำให้ตัวเกมค่อนข้างพลิกแพลงการต่อสู้ได้ดีครับ

จุดเด่นและน่าจะเป็นคอร์หลักของเกม Ascent Infinite Realm เลยก็ว่าได้ คงจะไม่พ้นระบบสงครามระหว่าง 2 ฝ่าย หรือ RvR ที่จะเป็นการทำสงครามระหว่าง Vulpin(สีฟ้า) และ Ontari(สีแดง) ตอนสร้างตัวเราจะต้องเลือกว่าจะอยู่ฝ่ายไหน และตัวละครทุกตัวที่เราสร้างก็จะอยู่สีนั้นไปเลย ซึ่งหลักๆ ก็มีผลตั้งแต่การพูดคุยของ 2 ฝ่ายที่จะไม่สามารถคุยกันได้ (น่าจะเป็นภาษาแปลกๆ) โดยหลักๆ ตอนนี้ที่เห็นสงคราม RvR จะมีด้วยกันทั้งหมด 2 โหมดก็คือ Tempest War ที่เป็นสงครามฝ่าย 20 vs 20 โหมดนี้ได้ลองมาก็คือจะเป็นการตีบอสและมอนสเตอร์ในแผนที่เพื่อทำคะแนนแข่งกัน ระหว่างนั้นก็สามารถโจมตีอีกฝ่ายได้ด้วย และอีกโหมดก็คือ Dragon Valley 25 vs 25 ซึ่งจะเป็นการต่อสู้อีกรูปแบบหนึ่ง แต่ว่าในตอนที่ไปทดสอบยังไม่ได้มีให้ทดสอบครับผม

อย่างที่เกริ่นๆ ไปก่อนหน้านี้แล้วก็คือภายในเกม Ascent Infinite Realm เราสามารถเป็นเจ้าของเรือเหาะหรือ Airship ได้ด้วย ซึ่งเจ้าเรือเหาะเนี่ยะ เราก็สามารถแต่งเสริมติดเกราะ ติดปืนได้ที่กาบเรือทั้ง 2 ฝั่งและท้ายเรือด้วยครับ และตัวเรือเหาะเองก็มีตั้งแต่ขนาดเล็กขึ้นได้ 1-2 คน ไปจนถึงเรือเหาะขนาดใหญ่ที่ขึ้นได้หลายสิบคนด้วย สามารถนำเรือเหาะไปทำสงครามต่างๆ ได้ หรือนำไปต่อสู้กับมอนสเตอร์ขนาดใหญ่บนท้องฟ้าก็ได้เช่นกัน

ยังไม่หมดเท่านี้ เราสามารถเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ถูกเรียกว่า Automaton ได้ด้วยครับ โดยสัตว์เลี้ยงในเกมนี้ก็จะมีธีมที่เข้ากับในเกม เพราะว่ามันจะเป็นสัตว์เลี้ยงจักรกล หลักๆ มีไว้เพื่อช่วยสนับสนุนตัวละครเราในการต่อสู้ต่างๆ และเจ้าสัตว์จักรกลรวมไปถึงเรือเหาะก็สามารถสร้างได้จากระบบที่ถูกเรียกว่า Estate

ระบบ Estate ก็คือระบบที่พักอาศัยของเกมAscent Infinite Realm ครับ ทุกคนจะมีที่พักเป็นของตัวเอง สามารถตกแต่งบ้านและสวนได้ตามใจชอบ สเกลค่อนข้างใหญ่และมีความละเอียดในระดับหนึ่งเลยทีเดียว จะบอกว่าเจ้าระบบ Estate ค่อนข้างมีความสำคัญมากครับ เพราะมันคือ Life Skill ทั้งหมดของเกมนี้ มีวงจรวัฏจักร เราสามารถรวบรวมวัตถุดิบต่างๆ จากบ้านเรา มาสร้างเป็นไอเทมใน Workshop ส่วนตัวได้ รวมไปถึงการที่สามารถส่งของขายข้ามเขตแดนหรือที่หลายคนชินเรียกว่า Trade Run อีกด้วยครับ และเมื่อ Estate มีระดับที่เพิ่มขึ้น ค่าสถานะต่างๆ ของตัวละครเราก็จะอัพเกรดขึ้นด้วยเช่นกัน

จริงๆ มันก็ยังมีรายละเอียดยิบย่อยอีกมากมายเลยทีเดียวทั้งระบบคอมมูนิตี้ต่างๆ ระบบดันเจี้ยน และอื่นๆ ถือว่า Ascent Infinite Realm เป็นอีก 1 mmorpg ฟอร์มยักษ์ประจำปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ สำหรับใครที่สนใจ Ascent Infinite Realm จะเปิดให้ทดสอบช่วง Betaกันในวันที่ 25 เมษายนนี้ แต่ต้องใช้ ICในการเข้าทดสอบ ก็รอติดตามข่าวสารได้ทางแฟนเพจหลัก https://www.facebook.com/PlayPark.AIR.TH/ หรือเว็บไซต์หลัก https://air.playpark.com กันได้เลยจ้า

 

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้