เกม MMORPG สไตล์ฮาร์ดคอร์จะมีจุดเด่นที่คล้ายกันคือ ให้ผู้เล่นทุกคนได้มีส่วนร่วมในปาร์ตี้ ล่าบอส และตะลุยภารกิจต่างๆ โดยแต่ละอาชีพจะมีจุดเด่นที่ต่างกันไป รับหน้าที่ล่อมอนสเตอร์, สนับสนุน, สร้างความเสียหาย, ดึงมอนสเตอร์, โจมตีด้วยสกิลทำลายล้างวงกว้าง ซึ่งถ้าเป็นเกมอื่นอาชีพล่อมอนสเตอร์แบบ Knight จะไม่ค่อยมีใครอยากรับบทสักเท่าไหร่ แต่ด้วยระบบ Dual Class ของเกม Runes of Magic ทำให้กลายเป็นอาชีพยอดฮิตอาชีพหนึ่งที่หลายคนมาลองเล่นกัน
กองหน้าเดนตาย
Knight เป็นอาชีพที่สามารถเล่นคนเดียวค่อนข้างง่าย เนื่องจากความสามารถในการโจมตีก็จัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แล้วยังมีพลังป้องกันที่สูงกว่าทุกอาชีพ เพราะความสามารถในการใส่ชุดเกราะและโล่นั่นเอง
บทบาทพื้นฐานของ Knight ในปาร์ตี้คือ การดึงความสนใจของมอนสเตอร์ให้มาที่ตัวเอง ซึ่งตัว Knight จะมีสกิลสำหรับเพิ่มค่าความสนใจหรือค่าความเกลียดของมอนสเตอร์ (Aggro) อยู่แล้ว เพียงกระหน่ำใช้สกิลที่เพิ่มค่า Aggro สลับกับการโจมตี ก็จะดึงมอนสเตอร์ทั้งฝูงมาหาตัว Knight ได้อย่างง่ายดาย ที่เหลือก็ปล่อยเป็นหน้าที่หน่วย Healer อย่าง Priest ในทีม
กรณีที่มี Knight ในปาร์ตี้เพียงพออยู่แล้ว อาจสลับเป็นอีกอาชีพเพื่อไปทำหน้าที่อื่นๆ เช่น ถ้าเลือก Knight / Priest ก็เปลี่ยนเป็น Priest / Knight เพื่อรับบทหน่วยฮีล เป็นต้น
ดาบและโล่ อาวุธเฉพาะสำหรับ Knight กับ Warrior
สกิลที่สำคัญของ Knight
สกิลทั่วไปของ Knight ที่ใช้ได้ในทุกซับคลาส พวกสกิลที่ต้องอัพให้เต็มจะอยู่ที่สกิลบัฟและ Passive เป็นหลัก
Enhanced Armor (12) เพิ่ม Stat ของชุดเป็นหลัก
Defense Technique (16) เพิ่มอัตรา Parry
Resilience (20) เพิ่มค่า Stamina
Devotion (24) เพิ่มค่า MP สูงสุด
สำหรับสกิลอื่นๆ ในหมวดสกิลทั่วไปก็อัพสกิลตามความเหมาะสม แต่ถ้าต้องการสกิลโจมตีของอาชีพอื่นมักจะมีประสิทธิภาพกว่า จึงนิยมเลือกไปอัพสกิลอีกคลาสหนึ่งที่เล่น
ส่วนสกิลเฉพาะของ Knight ถ้าเน้นการเล่นเป็นปาร์ตี้จะให้ความสำคัญกับสกิลที่เพิ่มค่า Aggro ของเป้าหมาย สำหรับการ PVP จะเน้นไปที่สกิลสตั๊นหรือสกิลโจมตี
สกิลบัฟเสริมความแข็งแกร่ง
แนวทางเล่น Knight ช่วงแรก
เริ่มมา Knight จะมีสกิลโจมตีอยู่พอสมควร ซึ่งจะไม่อัพเลยก็ได้ แต่เนื่องจากเราจะได้รับ Advance Skill Reset Stone จากถุงเลเวล 30 ซึ่งใช้คืนค่า TP จากสกิลได้ 1 ครั้ง และค่า TP ก็หาไม่ยากเกินไปในช่วงหลัง จึงเลือกอัพสกิลโจมตีช่วงแรกไว้บ้างก็ได้ ไม่ต้องประหยัด TP จนเกินไป
Knight ในช่วงแรกจะสามารถสร้าง Counter บนตัวเป้าหมายได้สองแบบ ซึ่งจะทำให้ใช้สกิลต่อเนื่องได้
1. ผลจากบัฟ
Holy Seal (สกิลเฉพาะอาชีพ) ทำให้อาวุธโจมตีเป็นธาตุแสง เมื่อโจมตีเป้าหมายจะสร้าง Holy Seal บนตัวศัตรูได้ สะสมได้ 3 ครั้ง
สกิลต่อเนื่องที่ใช้ได้เมื่อมี Holy Seal บนเป้าหมายครบ 3 ครั้ง
Mana Return ทำให้ได้ MP ส่วนหนึ่งคืนจากศัตรู
Threaten เพิ่มค่า Aggro จำนวนมากใส่เป้าหมาย
ขี่ม้าก็เข้ากับชุดเกราะดี
2. สกิล
Holy Strike (สกิลทั่วไป) เป็นสกิลโจมตีที่เพิ่มค่า Aggro ให้แก่เป้าหมาย พร้อมใช้ Light Seal ใส่ศัตรู
สกิลต่อเนื่องที่ใช้ได้เมื่อมี Light Seal บนเป้าหมาย
Punishment ความเสียหายจำนวนหนึ่งใส่เป้าหมาย
Shock สร้างความเสียหายเล็กน้อย และมีผลสตั๊น 1 วินาทีตามจำนวน Light Seal บนเป้าหมาย
ช่วงแรกก็อัพสกิลโจมตีไว้บ้าง เพื่อให้เก็บเลเวลได้เร็วขึ้นอีกเล็กน้อย พอเลเวลสูงขึ้นจะมีสกิลให้เลือกอัพมากขึ้น ค่อยไปเน้นสกิลที่ใช้บ่อยในช่วงหลังแทน
จะฟันหรือสกิลก็โหดไม่แพ้กัน
เลือก Dual Class ให้เหมาะสม
บทบาทในทีมนั้น หน้าที่หลักของ Knight อยู่ที่การเป็น Tanker ไม่ว่าจะเล่นซับคลาสใดก็ตาม แต่ซับคลาสจะไปมีผลในรูปแบบการเล่นบางส่วน, อาวุธที่ใช้ กับสกิลเฉพาะบางอย่างมากกว่า รวมทั้งการเล่นแบบ PVP ในภายหลัง ซึ่งตัวสกิลเฉพาะ Dual Class ที่เรียกว่าสกิล Elite นั้น จะเป็นตัวชี้วัดกันอีกทีว่า คุณเหมาะกับ Knight แบบใด
Knight / Mage
มีทักษะในการใช้สกิลเวทมนตร์เล็กน้อยจาก Mage อย่าง Silence ใช้ใบ้ศัตรู และสกิลโจมตีในระยะไกล อีกทั้งยังป้องกันปาร์ตี้จากธาตุไฟด้วยสกิล Fire Ward ได้
Holy Light Domain เพิ่มประสิทธิภาพของ Holy Light ให้สร้างความเสียหายต่อเนื่อง และลดพลังโจมตีศัตรูลงเล็กน้อย
Lightning Shield เพิ่มประสิทธิภาพสกิล Whirl Wind Shield ให้สามารถ Slow เป้าหมายได้ 5 วินาที
Lightning Armor สะท้อนความเสียหายเป็นธาตุลมใส่ศัตรูที่โจมตี
Mana Shield ลดความเสียหายส่วนหนึ่งที่ได้รับ โดยไปหักค่า MP แทน
Enhanced Mana Return เพิ่มประสิทธิภาพของ Mana Return
Knight / Priest
เป็นอัศวินที่ได้เพิ่มความสามารถในการช่วยเหลือพรรคพวกมากยิ่งขึ้น มีความสามารถผสมระหว่างการต่อสู้กับการสนับสนุนไว้ด้วยกัน ได้รับสกิลฟื้นฟูจาก Priest มาบ้าง แล้วยังมีสกิลป้องกันตัวเจ๋งๆ แบบ Holy Aura และสนับสนุนปาร์ตี้อย่าง Magic Barrier กับ Blessed Spring Water
Holy Light’s Fury สร้างความเสียหายด้วยธาตุแสงต่อเนื่อง
Holy Smite สร้างความเสียหายอย่างรุนแรง ใส่ศัตรูที่กำลังติดสถานะจากสกิล Holy Light’s Fury อยู่
Holy Protection ลดความ Aggro ของศัตรูลง
Free Will เป้าหมายต่อต้านสถานะ Root และ Slow ชั่วขณะ
Firm Courage ส่งผลให้ Shield of Valor ป้องกันทางกายภาพได้มากยิ่งขึ้น
Knight / Rogue
เมื่อรวมกับ Rogue จะได้รับความสามารถติดตัวในด้านการหลบหลีกและความเร็วในการโจมตีเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย แล้วยังมีสกิลโจมตีดีๆ ให้ใช้สำหรับเล่นคนเดียวด้วย
Arrow of Vengeance โจมตีด้วยธนู และดึงความสนใจศัตรู
Enhanced Holy Strike เพิ่มความแรงของ Holy Stike
Holy Chains ตรึงขาศัตรู มีผลกับ Undead และ Demon เท่านั้น
Heavenly Arrow โจมตีด้วยธนูเป็นกลุ่มในเป้าหมายที่เลือก
Weaken Weapon Strength ผลของ Heavenly Arrow ทำให้ศัตรูโจมตีเบาลง
อีกบัฟที่ใช้งานได้ดี
Knight / Scout
มีสกิลทำให้ถือธนูและหน้าไม้ ทำให้ล่อศัตรูที่หลงไปโจมตีเพื่อนมาได้บ้าง แล้วยังมีสกิลลดความสามารถอีกหลายสกิลที่นำมาใช้งานได้ดี
God’s Sword เพิ่มประสิทธิภาพสกิล Holy Strike ให้แรงขึ้น
Smash โจมตีศัตรูโดยตรง (ใช้หลังจากศัตรูติด Critical)
Blind Stab Mastery เพิ่มผลการ Blind ของสกิล Blind Stab 5 วินาที
Crazy Blades เพิ่มโอกาสโจมตีติด Critical ชั่วขณะ
Dance of Two Blades โจมตีศัตรูอย่างแรงสองครั้ง
Knight / Warrior
ผลสกิลประเภททั่วไปของ Warrior ทำให้ Knight มีค่า Strength ที่มากขึ้น มีสกิลลุยคนเดียวอยู่หลายสกิล แล้วยังมีสกิล Defensive Formation ที่ช่วยเพิ่มพลังป้องกันให้ทั้งปาร์ตี้อย่างมากในช่วงเวลาหนึ่งอีก
Whirlwind Shield Mastery เพิ่มความแรงสกิล Whirlwind Shield
Two-Handed Axe Training ติดตั้ง 2H Axe ได้ และเพิ่มพลังโจมตีให้อีกเล็กน้อย
Deadly Whirlwind ค่า Rage ที่ใช้กับสกิล Whirlwind ลดลง 10 หน่วย ลด Cooldown 20 วินาที
Quick Reflexes เพิ่มโอกาส Parry 10 นาน 20 วินาที
Fearless ต่อต้านสถานะ Fear 5 วินาที
PVP หรือ PK ก็เก่งไม่ใช่ย่อย
ซับคลาสที่เหมาะเป็น “Tanker” มากที่สุด
ขอตอบว่าไม่มีครับ เพราะแต่ละซับคลาสจะมีจุดดีและเด่นที่แตกต่างกันออกไปตามสถานการณ์ และไม่มีสกิล Elite ไหนที่ช่วยเพิ่มค่า Aggro ศัตรูโดยตรง สกิลเพิ่ม Aggro ของ Knight มีอยู่ 4 สกิลอยู่แล้ว ได้แก่ Holy Strike ที่ใช้โจมตีโดยตรง, Whirlwind Shield ที่มีผลเพิ่มความความสนใจแบบกลุ่ม, Threaten ที่เพิ่มค่า Aggro อย่างรวดเร็ว และ Hatred Strike บัฟที่ทำให้โจมตีแล้ว เพิ่มค่า Aggro อย่างมากแก่ศัตรูในระยะเวลาคุณสามารถใช้สกิลโจมตี, การโจมตีปกติ หรือสกิลพิเศษของอาชีพที่เป็นซับคลาสช่วยเพิ่มค่า Aggro และคุ้มครองปาร์ตี้ได้ ส่วนใหญ่จึงเลือกซับคลาสตามความเหมาะสมมากกว่า และให้ความสนใจกับวิธีการเล่น กับอุปกรณ์ที่ใช้กันมากกว่า
โดยรวม Knight ก็ถือเป็นอาชีพพื้นฐานที่น่าลองเล่นเป็นอันดับต้นๆ ใน 6 อาชีพ เล่นคนเดียวง่าย ปาร์ตี้ต้องการ เล่นคู่กับอาชีพไหนก็สบาย ทางเลือกในการใช้อาวุธก็ค่อนข้างมาก
ขอบคุณบทความจากคุณ AIR ด้วยครับ
