Brink ชื่อเกมก็ว่าแปลกแล้ว รูปแบบการเล่นยิ่งแปลกหนักเข้าไปอีก

ประเภท: FPS
ผู้พัฒนา: Splash Damage
ผู้ผลิต: Bethesda Softworks
ผู้จัดจำหน่าย: –
เว็บไซต์: www.brinkthegame.com กำหนดวางตลาด: กลางปี 2553

        เมื่อท้องทะเลไม่ต้องการให้มนุษย์อาศัยอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป กระแสน้ำถาโถมเข้าท่วมผืนแผ่นดินทุกแห่งหน ยังไม่หนำใจทรัพยากรธรรมชาติทุกอย่างก็ถูกใช้ไปจนหมดสิ้น มนุษย์กำลังจะสูญพันธุ์อย่างแท้จริง โชคดีที่พวกเราเตรียมการรับมือได้ทันท่วงที มหานครลอยฟ้าที่มีชื่อว่า "The Ark" คือที่พึ่งสุดท้ายของมนุษยชาติ เสียอยู่อย่างเดียวคือ สิ่งที่ผู้คนซึ่งอาศัยอยู่บน The Ark พกติดตัวมาด้วยกลับไม่ใช่ความหวังหรือความพยายามในการดำรงรักษาเผ่าพันธุ์ แต่มันคือปืนและกระสุน!

     นั่นคือโลกของเกมยิงสายพันธุ์ใหม่จากทีมพัฒนา Splash Damage บางคนอ่านเนื้อเรื่องแล้วส่ายหน้า "โลกหลังหายนะ" อีกแล้ว ใจเย็นๆ ก่อนนั่นมันแค่เนื้อเรื่องเท่านั้น ส่วนที่น่าสนใจของเกมนี้จริงๆ แล้วคือรูปแบบการเล่นต่างหาก ซึ่งต้องขอใช้คำว่า "แปลก" ในการนิยาม แปลกอันดับแรกคือในเรื่องของการควบคุม เพราะใน Brink คุณไม่จำเป็นต้องแบกปืนวิ่งไล่หาศัตรูจนหอบแดดอีกแล้ว ด้วยระบบที่ทาง SD เรียกมันว่า S.M.A.R.T. (Smooth Movement Around Random Terrain) ถ้าคุณอยากไปที่ไหนก็ตาม เพียงแค่หันหน้าไปทางนั้นแล้วกดปุ่มคำสั่งค้างเอาไว้ S.M.A.R.T. จะจัดการที่เหลือให้เอง เจอสิ่งกีดขวางอย่างนั้นเหรอ แค่กดปุ่มคำสั่งที่ปรากฏ ตัวละครของคุณก็จะหลบหลีกให้เอง SD อ้างว่าระบบนี้จะช่วยเปิดเส้นทางใหม่ๆ บนแผนที่และจะช่วยทั้งผู้เล่นมือใหม่และมือพระกาฬให้ต่อกรกันได้ดุเดือดมากขึ้น แต่มันก็ฟังดูเป็นระบบที่แปลกไม่น้อยสำหรับเกม FPS

       ยังไม่พอเกมนี้ยังแปลกได้อีกในเรื่องของตัวละคร โดยทั่วไปตัวละครที่เราใช้เล่นจะแยกกันเด็ดขาดระหว่างโหมดผู้เล่นคนเดียวและผู้เล่นหลายคน อย่างมากก็แค่ได้ใช้สกินตัวละครตัวเดียวกัน ส่วนเรื่องของสถิติหรือค่าคะแนนต่างๆ ก็ต้องแยกกันอยู่ดี แต่นั่นไม่ใช่ที่นคร The Ark ทุกอย่างในเกมนี้ไม่ว่าจะเป็นฉาก, การปรับแต่งตัวละคร, ค่าสถิติ หรือค่าประสบการณ์ ทั้งหมดได้ถูกเชื่อมโยงกันหมดไม่ว่าคุณจะเล่นแบบโซโลลุยเดี่ยว, Co-Op กับเพื่อน หรือออนไลน์กับมือชั้นเทพจากทั่วโลก ตัวละครของคุณคือคนคนเดียวกันอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามองค์ประกอบในส่วนนี้ แม้กระทั่งสื่อต่างประเทศหลายๆ เจ้าก็ยังไม่กล้าเอ่ยปากชมหรือติติงอะไรมากนัก เพราะมีคำถามมากมายกำลังรอคำตอบ เช่น ถ้าเพื่อนของคุณยังไม่ได้ปลดล็อกเลเวลที่คุณจะเล่นล่ะ? หรือถ้าเราเล่นคนเดียวจนผ่านด่านนั้นมาแล้ว จะมีอะไรดึงดูดให้เรากลับไปเล่นกับเพื่อนในด่านเดิมอีกไหม? พวกเราเองก็อยากมองโลกในแง่ดี แต่องค์ประกอบส่วนนี้มันก็ยังแปลกและชวนงงไม่น้อย

         ยิ่งไปกว่านั้นภารกิจภายในเกมนี้ยังไม่ใช่ภารกิจแบบตายตัวอีกด้วย คุณจะได้รับภารกิจใหม่โดยพิจารณาจากสิ่งที่คุณหรือเพื่อนๆ ได้กระทำลงไปแล้ว เช่น คุณช่วยตัวประกันไว้ได้ เขาจะตอบแทนด้วยข่าวสารสำคัญบางอย่างซึ่งต้องอาศัยตัวละครคลาสที่คุณไม่มีอยู่ถึงจะลุยต่อได้ เกมจะขึ้นเป้าหมายสถานที่ที่พวกของเราสามารถใช้เปลี่ยนคลาสได้ให้เห็น หรือถ้าคุณเป็นคลาสนั้นๆ อยู่แล้วภารกิจของเพื่อนคนอื่นก็จะกลายเป็นสนับสนุนและคุ้มกันคุณแทน เป็นต้น
การหลอมรวมโหมดผู้เล่นคนเดียวกับผู้เล่นหลายคนเข้าไว้ด้วยกันเป็นแนวคิดที่แปลกและหาญกล้ามากๆ แต่มันยังมีคำถามอีกมากมายที่เกมนี้ต้องตอบ องค์ประกอบต่างๆ อาจฟังดูดีสำหรับการเล่นคนเดียวหรือ Co-Op กับเพื่อนฝูงที่คุ้นเคย แต่ถ้าเราต้องเล่นกับคนแปลกหน้าจากที่ไหนก็ไม่รู้ล่ะ? ภารกิจในเกมจะยังคงดำเนินต่อไปได้ไหมหากขาดการร่วมมือจากอีกฝ่าย? อย่างไรก็ตามเพียงเท่านี้ทาง SD ก็ประสบความสำเร็จในเรื่องการดึงดูดใจคนให้มาสนใจได้อย่างไม่ต้องสงสัย เหลือแค่คำตอบสุดท้ายที่จะชี้ชะตาเมื่อเกมนี้วางตลาดในกลางปีหน้าเท่านั้นเอง

รู้จักกับพวกเขา Splash Damage

       SD เป็นทีมพัฒนาเกมอิสระสัญชาติอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นโดยนาย Paul ‘Locki’ Wedgwood ในปี 2001 พวกเขามีความเชี่ยวชาญและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกับเกมแนวผู้เล่นหลายคน เพราะพวกเขามักใส่แนวการเล่นที่แหวกแนวและแปลกใหม่เข้าไปในเกมของพวกเขาเสมอ ผลงานที่โดดเด่นของเขาคือ เกมตระกูล Enemy Territory อันได้แก่ Wolfenstein: Enemy Territory (2546) และ Enemy Territory: Quake Wars (2550)

ที่ไหนมีมนุษย์ ที่นั่นก็จะมีภาพเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเสมอๆ

ไปเลยพวก! เพราะ S.M.A.R.T. พาเราไปได้ทุกที่!

ช่างงดงามเหมาะแก่การไล่ยิงกันยิ่งนัก

ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติแบบไหนก็มิอาจเปลี่ยนสันดานของมนุษย์ได้

แม้จะใช้ id Tech 4 เป็นขุมพลัง แต่ตัวละครในเกมจะดูเป็นกึ่งๆ การ์ตูน

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้