Wheelman : อีกครั้งกับพ่อโล้นโหดในมาดของนักซิ่ง

ประเภท: Action
ผู้พัฒนา: Tigon ผู้ผลิต: Ubisoft
ผู้จัดจำหน่าย: New Era
เครื่องที่ต้องการ: DUAL-CORE CPU 2GHz, 2GB RAM, NVIDIA GeForce 7900/ATI Radeon x1950 Video Card, 9GB HDD Space
เครื่องที่แนะนำ: CORE 2 DUO CPU 2.4GB, 2GB RAM, NVIDIA GeForce 7900/ATI Radeon x1950 Video Card
จำนวนผู้เล่นสูงสุด: 1
ESRB: T

ไม่ใช่ครั้งแรกนะที่เราได้มีโอกาสเห็น Vin Diesel ในรูปแบบดิจิตอล แต่นี่คือครั้งแรกที่เขาแปลงร่างมาในมาดที่ไม่ใช่โล้นโหดนามว่า Riddick และอาจจะเป็นเพราะเหตุนี้เองที่ทำให้ Wheelman กลายเป็นเกมหนึ่งที่หลายๆ คนเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ (ซึ่งตัวผมเองแหละที่เป็นคนหนึ่งในนั้น)

ว่ากันด้วยเรื่องของเนื้อเรื่องก่อน เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อตัวเอกของเราซึ่งมีชื่อว่า Milo Burik ถูกส่งมายังบาเซโลน่าเพื่อร่วมงานกับเหล่าอาชญากรในฐานะคนขับรถ หน้าที่ของเขาก็คือจับพวงมาลัย และบึ่งไปให้ถึงที่หมายโดยเร็วที่สุด ฟังดูเหมือนอาจเป็นเรื่องง่ายๆ แต่มันไม่ง่ายเลย ในเมื่อบนท้องถนนของบาเซโลน่า (ภายในเกม) เต็มไปด้วยศัตรู กระสุนปืน และเปลวเพลิงจากแรงระเบิด

อย่างที่ผมบอกไปแล้ว หน้าที่หลักของคุณก็คือ “คนขับรถส่วนตัว” เพราะฉะนั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยภายในเกมก็คือรถยนต์ มีรถยนต์หลากหลายมากมายให้คุณยืมมาใช้งาน (หรือถ้าพูดให้ถูกก็คือชิงมามากกว่า) รถยนต์เป็นองค์ประกอบสำคัญของรูปแบบการเล่น เพราะคุณจำเป็นต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ภายในเกมนั่งอยู่บนเบาะราคาแพง และกระทำภารกิจใดๆ ก็ตามที่ได้รับ

อีกครั้งกับ Vin Diesel ในเวอร์ชั่น Next-Gen แหล่มมั้ยล่ะ?

แน่ล่ะ ในเมื่อคุณซึ่งเป็นผู้ถูกไล่ตามใช้รถยนต์เพื่อหนี ผู้ไล่ล่าก็ต้องใช้รถยนต์ในการไล่ตามเช่นกัน และเพราะเหตุนี้เองที่ทำให้ท้องถนนภายในเกมเหมือนเป็นสนามรบขนาดย่อมๆ และสงครามระหว่างนักซิ่งที่มีปืนในมือนี่เองก็คือจุดเด่นของเกมนี้ รถยนต์และปืนเป็นสมการที่ให้ผลลัพธ์ออกมาได้อย่างน่าพอใจทีเดียว ผลลัพธ์คืออะไรน่ะเหรอ? ผลลัพธ์ก็คือความวินาศสันตะโรยิ่งกว่าสงครามรถซิ่งใดๆ ที่เคยมีมาน่ะสิ คุณจะได้เห็นฉากแอ็กชั่นเร้าใจมากมายภายในเกม การเหินข้ามระหว่างรถสองคัน ฉากยิงปะทะกันแบบสโลโมชั่น หรือแม้กระทั่งฉากรถที่ถูกปะทะจนลอยละลิ่วเหมือนรถไฟเหาะตีลังกาหลุดราง จริงๆ ที่ว่าฉากแอ็กชั่นออกจะเหนือความจริงไปบ้างในบางช็อต แต่มันก็ยอดเยี่ยมโดนใจทีเดียว

ถ้าคุณกำลังไล่ล่าใครสักคน ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะหนีไปได้หรอกนะ เพราะถ้าเขาสลัดหนีคุณไปได้ที่ไหน เขาก็ไปรอคุณที่โค้งหน้านั่นแหละ

ลูกเล่นหนึ่งที่ผมชอบก็คือ Focus Meter เจ้า Focus Meter นี้จะมีระดับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคุณลงมือทำสิ่งที่ไม่ธรรมดา (ยกตัวอย่างเช่น ทำลายอะไรสักอย่างที่สามารถทำลายได้บนท้องถนน หรือใช้เทคนิคการขับรถเซียนๆ อย่างการขับผ่านช่องแคบๆ) และเมื่อ Focus Meter เพิ่มขึ้นมาในระดับหนึ่ง คุณก็สามารถที่จะใช้ลูกเล่นของเกมอย่าง Slow-Motion Gunfire ได้ (หรือถ้าอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือการใช้งานสโลว์โมชั่นและกระหน่ำยิงจากหน้าต่างรถนั่นเอง) และมันมีประโยชน์มากๆ เมื่อคุณต้องไล่ล่าใครสักคนบนท้องถนน คุณสามารถที่จะใช้ Focus Meter นี้จัดการเป้าหมายได้ง่ายๆ (บอกตรงๆ นะว่า ผมออกจะชอบตอนที่ทุกอย่างช้าลง และมีโอกาสได้สอยศัตรูง่ายๆ แบบนี้)

และอีกลูกเล่นที่ทำได้เนียนมากๆ ก็คือการเหินข้ามระหว่างรถหรือที่เรียกว่า Air-Jack มันเป็นระบบที่ช่วยเพิ่มความสะใจได้ไม่น้อยทีเดียว คุณสามารถกระโดดจากรถคันหนึ่งไปยังรถอีกคันหนึ่งได้ราวกับสไปเดอร์แมน ถ้าเข้าใกล้รถคันที่เป็นเป้าหมายพอ และถ้าทำได้สำเร็จคุณก็จะสามารถเข้าชิงรถคันนั้นได้ และเจ้าของรถผู้โชคร้ายก็จะถูกพี่เหม่งถีบกระเด็นออกไปทางประตูรถอีกฝั่งหนึ่ง นี่คือลูกเล่นที่ผมชอบที่สุดในเกม (และหลายๆ คนคงคิดเหมือนผม) แต่มันน่าเสียดายตรงที่ว่า มันเป็นข้อดีข้อสุดท้ายที่เราจะได้พูดถึงกัน

การหวดปืนในร่มก็เป็นอะไรที่น่าสนใจอยู่หรอกนะ แต่คงจะดีกว่าถ้า AI ฉลาดพอจะหาที่กำบังกายได้บ้าง

สิ่งเดียวที่ยึดติดผมกับเกมนี้ได้ก็คือฉากบู๊ล้างผลาญบนถนน ส่วนอื่นๆ ของเกมนั้นไม่ต่างไปจากเกมแอ็กชั่นเกมอื่นเลยสักนิด ฉากการบู๊ล้างผลาญในตึกงั้นเหรอ? ฉากกระหน่ำปืนใส่ศัตรูที่วิ่งเข้าใส่เป็นกองพันงั้นเหรอ? มันเป็นฉากที่เห็นได้ดาษดื่นในเกมแอ็กชั่นร่วมสมัยทั่วๆ ไปที่ผมเห็นจนเอียนแล้ว ไม่มีอะไรแปลกใหม่มากไปกว่าการเหนี่ยวไกยิง ยิงมัน และยิงมัน แต่เอาเถอะ มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร และจัดอยู่ในขั้นที่พอรับได้ล่ะนะ

เอาล่ะเรื่องต่อมาที่ผมไม่พูดถึงเลยก็คงไม่ได้ก็คือ AI คือมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมายหรอกนะ เพียงแต่ว่ามันไม่โดนใจเอาเสียเลย จริงที่ว่าศัตรูของคุณมีเป็นกองทัพ แต่ทว่าคุณสามารถที่จะจัดการพวกเขาได้ง่ายๆ เพียงแค่เดินหน้ายิง ยิง ยิง และยิง ศัตรูมักปักหลักอยู่ในจุดที่มันยืน ไม่มีการหลบเข้าที่กำบัง (เพราะพวกมันมักยืนในที่กำบังอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณเดินอ้อมที่กำบังนั้นไปได้ก็คือที่โล่งแจ้ง) ไม่มีการขยับเขยื้อน และที่สำคัญกว่านั้นก็คือศัตรูในเกมมันดูเหมือนๆ กันไปหมด… (แต่เอาเถอะ ไอ้เรื่องกองทัพโคลนนี่มันก็แค่เป็นข้อเสียจุกจิกผมก็ขอหยวนๆ ไปให้นิดละกัน)

ไม่ใช่แค่ศัตรูถือปืนที่คุณต้องหนีให้พ้น ตำรวจก็พร้อมที่จะตามล้างตามเช็ดคุณเหมือนกันทันทีที่คุณทำอะไรล้ำเส้นจนเกินไป

ปัญหาของ AI อีกอย่างที่พบก็คือในฉากการไล่ล่าอันชวนระทึก สำหรับในเกมขับรถเกมอื่นๆ เมื่อผู้ถูกล่าหนีหายลับตาไปหมายถึงคุณพลาดภารกิจไปแล้ว แต่สำหรับในเกมนี้คุณไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด เพราะเมื่อคุณพลัดจากเป้าหมาย เป้าหมายก็จะจอดรถนั่งจิบชารอคุณที่ตรงที่คุณพลัดจากเขาไปนั่นแหละ ซึ่งจะว่าเป็นข้อดีก็คงใช่ แต่จะว่าเป็นข้อเสียก็ไม่เชิง (แต่ผมคิดว่ามันเป็นข้อเสียที่ชวนหงุดหงิดพิกลอ่ะนะ)

อ่า… พระอาทิตย์ตกดิน… ณ เมืองบาเซโลน่า

เรื่องต่อมาที่เราจะพูดถึงกันก็คือเรื่องของกราฟิก โดยรวมจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่ดีเยี่ยมสมกับที่เป็น Next-Gen เพียงแต่ว่ามันออกจะเรียบๆ ไปนิด ไม่ค่อยมีอาหารตาให้รับชมเท่าไหร่ และข้อเสียอย่างเดียวของกราฟิกภายในเกมนี้ก็คืออาการสะอึกเป็นช่วงๆ ไม่ว่าคุณจะใช้เครื่องดีเลิศแค่ไหนก็ตาม (บางเครื่องถึงขั้นสาหัส แต่บางเครื่องแค่พอขำๆ เป็นพิธี ซึ่งจะว่าไปมันก็เป็นปัญหาสำหรับเกมที่ดำเนินเรื่องในโลกที่กว้างใหญ่แบบนี้มีมานานมากแล้ว และ Wheelman ก็เป็นหนึ่งในเกมที่มีปัญหาที่ว่า)

“ยืม” รถชาวบ้านมาใช้มันก็สบายใจอย่างนี้แหละ

โดยรวมแล้ว Wheelman ก็ไม่ใช่เกมที่เลวร้ายอะไร เพียงแต่ว่ามันไม่ได้สร้างความประทับใจให้มากมายเท่านั้นเอง แต่ถ้าคุณมีทางเลือกอื่นที่น่าสนใจกว่า ผมขอแนะนำให้ไปเสียเวลากับตัวเลือกอื่นที่ว่านั้นเถอะ

เอ๊ะ! นี่มันกรุงเทพเมื่อเร็วๆ นี้หรือเปล่านะ?
 

ความเห็นที่หนึ่ง : 60%

ข้อดี: ฉากการไล่ล่าบนท้องถนนอันดุเดือด, การได้เล่นเป็น Vin Diesel และการชิงรถด้วย Air-Jack
ข้อเสีย: เมื่อไม่ได้อยู่บนรถ ความสนุกก็ลดลงฮวบฮาบ, การสะอึกเป็นช่วงๆ และกองทัพโคลนเพี้ยนๆ
โดยรวม: อย่างที่ผมบอกไปแล้ว Wheelman เป็นเกมที่ดี แต่ยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีพอ แต่ถ้าคุณชอบอะไรที่อึกทึกครึกโครมมากกว่าซุ่มเงียบในเงามืดละก็ เกมนี้แหละเหมาะกับคุณแล้ว

ความเห็นที่ 2 : 70%

Wheelman เหมือนลูกครึ่งที่เอา Burnout และ GTA มาผสมกัน เกมยังคงไม่ได้เข้าขั้นถึงขนาดยอดเยี่ยม ตัวละครมีรูปลักษณ์ไม่สมส่วนเท่าไหร่ และมีการโหลดมากเกินความจำเป็น อย่างไรก็ตาม Wheelman ก็ยังคงมีส่วนที่น่าสนใจอยู่ แม้จะไม่มากอย่างที่ควรจะเป็นก็ตาม

บทความนี้มาจากนิตยาสาร Future Gamer

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้