Far Cry 2 : ได้เวลานำความสว่างไสวมาสู่กาฬทวีปแห่งนี้แล้ว

ประเภท: FIRST-PERSON SHOOTER
ผู้พัฒนา: UBISOFT MONTREAL
ผู้ผลิต: UBISOFT
ผู้จัดจำหน่าย: NEW ERA
เว็บไซต์: WWW.FARCRY2.COM
กำหนดวางตลาด: ตุลาคม 2008

     แน่นอนว่าสุดยอดเกมยิงที่มีผู้คนรอคอยมากที่สุดเกมหนึ่งแห่งปี 2008 อย่าง Far Cry 2 จะต้องมีไม้ตายไว้สำหรับพิสูจน์ตนเอง เพราะคงไม่อาจหลีกเลี่ยงการถูกเปรียบเทียบกับ Crysis ญาติ (ห่างๆ) ของมันไปได้ เมื่อเร็วๆ นี้ผมเพิ่งได้ลองเล่นภารกิจช่วงกลางเกมถึง 2 รอบ (รอบแรกเป็นฉากเวลากลางวันและอีกรอบในยามค่ำคืน) ซึ่งมันก็พิสูจน์ให้ผมเห็นว่าค่ายเกมเจนศึกอย่าง Ubisoft กำลังเดินมาถูกทางแล้ว

     อันดับที่เราควรรู้ก่อนก็คือเรื่องราวพื้นหลังของเกมอย่างคร่าวๆ คุณจะได้เล่นเป็น 1 ใน 9 ทหารรับจ้างผู้ห้าวหาญ งานของคุณคือไล่ล่าและสังหาร The Jackal นักค้าอาวุธที่หลบซ่อนตัวอยู่ที่ใดที่หนึ่งบนผืนแผ่นดินกว่า 50 ตารางกิโลเมตรของประเทศสมมุติในทวีปแอฟริกาแห่งนี้ โลกอันเปิดกว้าง (เต็มไปด้วย NPCs นับร้อยๆ และสัตว์ป่าที่สุดสมจริง) พร้อมให้คุณได้วิ่ง ขับ และร่อนถลาข้ามทุ่งหญ้าสะวันนา โดยไม่ต้องอาศัยหน้าจอโหลดฉากแม้แต่ฉากเดียว ไม่ว่าคุณจะเลือกเล่นเป็นใครใน 9 ตัวละคร ภารกิจหลักของคุณยังคงเหมือนเดิม สิ่งที่เปลี่ยนไปคือภารกิจรองซึ่งจะได้รับจากตัวละครที่คุณ "ไม่ได้เลือก"

     ผมได้พบกับ Frank ตัวละครที่เลือกเล่นได้ในที่หลบภัยแห่งหนึ่งจากจำนวนกว่า 60 แห่งซึ่งกระจายอยู่ตลอดทั้งเกม (ใช้สำหรับเก็บบรรดาสรรพาวุธทั้งหลาย) เขาได้มอบภารกิจให้ผมทำลายท่อส่งน้ำมันของฝ่ายที่เป็นพันธมิตรกับ The Jackal ผมขับรถไปยังท่อส่ง จอดรถทิ้งเอาไว้แล้วออกสำรวจพื้นที่ พอผมพบค่ายขนาดใหญ่ของฝ่ายข้าศึก ผมก็ควัก AK-47 คู่ใจของผมขึ้นมาไล่ส่องทหารผู้โชคร้ายได้หลายศพ ก่อนที่ทหารยามบนหอระวังภัยจะจับตำแหน่งของผมได้และเริ่มต้นโปรยลูกตะกั่วเข้าใส่ การขับไล่ผมให้ออกจากที่ซ่อนใช้วิธีที่ผู้พัฒนาเรียกว่า "ยุทธการโต้ตอบพฤติกรรมซุ่มยิง" เขาบีบให้ผมต้องตะลุยเข้าไปในค่ายพักเพื่อจะได้สู้กันอย่างลูกผู้ชาย

      ท่ามกลางความยุ่งเหยิง ผมได้สังเกตเห็นลูกเล่นเจ๋งๆ มากมาย เช่น ฝ่ายศัตรูซึ่งตอบสนองอย่างสมจริงเวลาที่โดนยิง แต่แผลไม่หนักหนาถึงชีวิต เขาจะเดินกะโผลกกะเผลก ล้มลงบนพื้นดินและยิงมาที่ผมด้วยปืนพกหรือคลานช้าๆ เข้าหาที่กำบัง เช่นเดียวกันตัวละครของผมจะตอบสนองต่อบาดแผลสาหัสด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการผ่าเอากระสุนออกสดๆ ด้วยมีด หรือฆ่าเชื้อบริเวณปากแผลด้วยพลุไฟร้อนๆ นอกจากนี้อาวุธทั้งหลายยังมีการเสื่อมสภาพเมื่อใช้งานไปนานๆ ยังไม่พออาการติดขัดและกระสุนด้านจะมาเยี่ยมเยียนเป็นครั้งคราวอีกด้วย เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ตัวผมไร้ซึ่งการป้องกันตนเองจนกว่าผมจะซ่อมแซมมันเสร็จสิ้น ในที่สุดเมื่อกระสุนปืนของผมหมดเกลี้ยงและถูกยิงจนสาหัส ตัวละคร NPC ที่มีชื่อว่า Warren ได้เข้ามาช่วยกู้ชีวิตแล้วแบกผมออกมาจากปากหลุมแห่งความตาย จากนั้นเขาก็อยู่ช่วยเหลือผมในการจัดการท่อส่งน้ำมันให้สิ้นซาก

      เมื่อเดินทางต่อไปผมก็พบกับค่ายศัตรูค่ายที่สอง ผมสังเกตทิศทางลม แล้วก็ลองโยน Molotov Cocktail ไปบนผืนหญ้าเหลืองอร่ามในตำแหน่งเหนือลมของเป้าหมาย เปลวเพลิงแผ่ขยายลุกลามอย่างรวดเร็วไปยังค่ายของข้าศึก หายนะขนานแท้จริงๆ พระเพลิงกระจายตัวออกอย่างงดงามเผาผลาญกระท่อมไม้โกโรโกโสและต้นไม้ข้างเคียง จุดประกายแห่งความสับสนอลหม่านในหมู่ศัตรูของผม ถังแก๊สที่ระเบิดหมุนเหวี่ยงอย่างคาดเดาไม่ได้ ก่อนพุ่งเข้าใส่สิ่งก่อสร้างที่อยู่ข้างเคียงส่งให้เศษไม้และซากปรักหักพังบินว่อนไปทั่วบริเวณ

     เมื่อภารกิจของผมเสร็จสิ้น ผมเริ่มเล่นมันใหม่อีกครั้ง เพื่อดูว่าบรรยากาศยามรัตติกาลในเกมจะเป็นอย่างไร เวลาในเกมน่าจะเป็นราวๆ เที่ยงคืน แสงจากพระจันทร์เต็มดวงทำให้ผมสามารถมองเห็นภูมิประเทศได้อย่างค่อนข้างชัดเจน (ไม่มีไฟฉายสไตล์ Doom 3 มาเป็นตัวช่วย) แต่ระยะที่มองเห็นได้ของผมก็มีจำกัด พฤติกรรมของ NPC คือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงแบบสุดขั้วในช่วงค่ำคืน ข้าศึกจะออกลาดตระเวนน้อยครั้งลงและชอบจับกลุ่มตรงบริเวณกองไฟมากกว่า ช่วยให้ผมสามารถแทรกซึมเข้าใกล้ฐานของข้าศึกได้โดยไม่ถูกตรวจเจอ เมื่อผมพบเข้ากับลังเก็บกระสุนสำหรับเป็นเชื้อเพลิงในการจู่โจมของผม ผมก็จัดการเชือดศัตรูหน้าโง่ไปหลายศพด้วยปืนกล MP5K ขณะที่ผมซุ่มหลบอยู่หลังพุ่มไม้ แต่ในเมื่อเวลานี้ความมืดคือผู้ปกครอง แสงไฟจากปากกระบอกปืนจะเปิดเผยตำแหน่งของผม บังคับให้ผมต้องคอยเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สมดุลกับการมองเห็นที่แย่ลงของ AI ฝ่ายข้าศึก (ไม่อย่างงั้นใครๆ ก็คงเลือกเข้าโจมตีศัตรูเฉพาะเวลากลางคืน) ทางทีมพัฒนาได้ปรับให้พวกเขาก้าวร้าวมากยิ่งขึ้นเมื่อเจอตัวคุณ พวกมันจะพุ่งทะยานเข้าใส่คุณอย่างรวดเร็วเสียยิ่งกว่าตอนกลางวัน ฉะนั้นคุณต้องชั่งน้ำหนักให้ดีระหว่างข้อดีและข้อเสียของการบุกจู่โจมเวลากลางวัน

     การทดลองเล่นของผมทำให้ผมรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก ในเรื่องของความเปิดกว้างอย่างแท้จริงของสภาพแวดล้อม อิสระในการออกสำรวจตามที่ใจผมต้องการ ควบคู่ไปกับตัวเลือกสำหรับปิดฉากภารกิจตามช่วงเวลาของวันที่คุณพึงพอใจ (แน่นอนพร้อมด้วยพฤติกรรมของ NPC ที่สอดคล้องกับช่วงเวลา) ทำให้เกม Crysis ที่ชอบอวดอ้างความ "ไม่เป็นเส้นตรง" ดูตื้นเขินไปเลย ผมจึงมั่นใจเต็มที่ที่จะบอกว่า Far Cry 2 จะแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากเกมตระกูล "Cry" ทั้งหลายและยังคงรักษาพันธุกรรมแห่งความยอดเยี่ยมเอาไว้ได้อีกต่างหาก

 

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้