หนึ่งปีใน Online Station กับชีวิตเบื้องหลังวงการเกม

แชร์เรื่องนี้:
หนึ่งปีใน Online Station กับชีวิตเบื้องหลังวงการเกม

          เคยมีรุ่นพี่ในวงการเกมที่ผมเคารพมากคนหนึ่งพูดกับผมว่า อยากจะสร้างวงการเกมให้เป็นโลกแห่งใหม่สำหรับชาวเกมโดยเฉพาะ สร้างความสนุก สร้างความรู้ สร้างประโยชน์ สร้างงาน สร้างสังคม ซึ่งหลายๆ อย่างได้กลายเป็นความจริง และเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว จนถึงตอนนี้เป็นเวลา 6 ปีสำหรับอายุเกมออนไลน์ในประเทศไทย ซึ่งถือว่ายังเด็กอยู่มากเมื่อเทียบกับประเทศผู้นำเช่นเกาหลีหรือจีน แต่การเติบโตของวงการเกมประเทศไทยเป็นไปแบบก้าวกระโดด รวดเร็วจนเมื่อหันกลับไปย้อนมองอดีตแล้วเพิ่งรู้สึกตัวว่าสิ่งต่างๆ ได้พัฒนาจากยุคหนึ่งไปสู่ยุคหนึ่ง ชนิดที่พลิกโฉมหน้ากันไปเลยทีเดียว แต่สำหรับเกมเมอร์แล้วไม่ว่าเมื่อไหร่ฮีโร่ของพวกเขาก็ยังคงเป็น GM (Game Master) และสื่อ (ผู้เขียนบทความ ไกด์ ลงนิตยสารเกม) ซึ่งเป็นอาชีพใหม่ที่เกมเมอร์หลายคนสนใจ

 

เข้าสู่วงการเกม วิถีของนักเขียน

          หนึ่งปีมาแล้วที่ผมได้เข้ามาสู่ Future Gamer สังกัด Online Station สื่อในรูปแบบของเว็บไซต์ หรือจะพูดให้โก้หรูว่าเป็น Website for Gamer เลยก็ว่าได้ สิ่งที่ผมจะเขียนต่อไปนี้คือชีวิตและประสบการณ์ตลอด 1 ปีในวงการเกม ซึ่งเป็นมุมมองเบื้องหลัง เพราะหวังว่าเกมเมอร์ที่สนใจในอาชีพนี้ หรือสงสัยว่าพวกเรา (สื่อ) ทำงานกันอย่างไร จะได้กระจ่างแจ้งแดงแจ๋กันเสียที การเริ่มต้นในการเข้าสู่วงการเกมออนไลน์นั้น ก็คล้ายกับหลายๆ คน นั่นก็คือการชื่นชอบการเล่นเกมออนไลน์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเกมเมอร์ทุกคนจะสามารถเป็นสื่อได้นะครับ สิ่งสำคัญของการเป็นสื่อ ไม่จำเป็นว่าต้องจบมหาวิทยาลัยด้วยสาขาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอันที่จริงแล้วไม่ว่าจะจบจากไหนสาขาอะไรก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น สิ่งสำคัญจริงๆ ก็คือ “รู้จักเกม” และ “เล่นเกมเป็น” อะไรคือความหมายของทั้ง 2 คำนี้ เดี๋ยวผมจะมาอธิบายให้ฟัง

รู้จักเกม คำๆ นี้ดูเหมือนง่ายแต่ไม่ง่าย เหมือนจะยากแต่ก็ทำได้ ทั้งหมดคือการฝึกฝน แน่นอนว่าถ้าใครมีพรสวรรค์ย่อมจะเรียนรู้ได้เร็วกว่า การรู้จักเกมคือการแยกแยะเกมให้ได้ รู้ว่าเกมนี้คือเกมอะไร ประเภทไหน เกมต้องการสื่อถึงอะไร มีเป้าหมายอย่างไรต่อผู้เล่น ซึ่งเมื่อเรารู้จักเกมแล้ว ก็จะสามารถเข้าใจเกมได้ง่ายขึ้น จึงส่งผลต่องานเขียนทั้งบทความและไกด์ออกมาได้ดีมากยิ่งขึ้น ลองสังเกตดูว่าบางบทความที่เขียนเกี่ยวกับเกมนั้นๆ ก็ยอดเยี่ยมไร้ที่ติ แต่บางบทความก็มั่วมามั่วไป นั่นก็เพราะว่าผู้เขียนได้ รู้จักเกม ที่จะเขียนนั้นมากน้อยต่างกันนั่นเอง ถ้าจะให้ดีก็ต้องรู้จักเกมหลายๆ แบบ หลายประเภทเอาไว้ให้มากๆ นะครับ

เล่นเกมเป็น คำนี้ก็ง่ายๆ อีกแล้ว เล่นเกมเป็นมีความหมายคนละอย่างกับเล่นเกมเก่ง การเล่นเกมเป็นคือเราต้องรู้ว่าเราจะเล่นเพื่ออะไร ต้องการอะไรจากเกม และดึงประโยชน์จากการเล่นออกมาให้ได้ เคยเห็นหลายๆ คนที่เล่นเกมเก่งเหลือเชื่อ เกมเพิ่งเปิดให้เล่นได้ไม่กี่ชั่วโมง ก็เลเวลติดเพดานซะแล้ว ซึ่งพวกเขาคือกลุ่มที่เล่นเกมได้เก่ง สามารถศึกษาหาข้อมูลมาประกอบการเล่น ทำให้เล่นได้ไว แต่ก็ยังไม่ใช่การเล่นเกมเป็น เพราะสิ่งที่จะทำให้ใกล้ความเป็นสื่อนั้นคือ การหาข้อมูลจากการเล่นเกม รู้ว่าจะเล่นเพื่อให้ได้อะไร มีเป้าหมายในการเล่นตลอดเวลา และนำข้อมูลนั้นไปบันทึกและเขียนเป็นไกด์ออกมา และผมก็ภูมิใจมากๆ ที่สมาชิกของ Weekly Online ซึ่งอยู่ในเครือ Future Gamer เช่นเดียวกับผม มีแต่คนเก่งๆ ที่เล่นเกมเป็น ในบางครั้งเคยเห็นเค้าเล่นกันแค่ 2 ชั่วโมง แต่เขียนไกด์ออกมาได้เป็นหน้าๆ เลยล่ะครับ

          เมื่อมีคุณสมบัติครบทั้ง 2 อย่างแล้ว ต่อไปก็คือการนำความรู้ในด้านเกมออกมานำเสนอ เชื่อไหมว่ามันยากมากเลยทีเดียวในการนำเสนอ แต่ก็อีกนั่นแหล่ะมันง่ายจนหลายคนลืมนึกไปเช่นกัน งงล่ะสิ งั้นผมจะยกตัวอย่างให้ฟัง การนำเสนอเกมต่อคนอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องหวือหวาโอเว่อเกินเหตุนักหรอกครับ อันที่จริงแล้วทุกคนที่เล่นเกม และมีเพื่อนๆ ที่เล่นพร้อมๆ กัน ก็มักจะนำเสนอความรู้ด้านเกมไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อก่อนตอนที่ผมยังเล่นเกมตามร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ (ขายเน็ต) ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นร้าน เกมส์ & เน็ต (ขายเกม) ตอนนั้นมักจะมีเพื่อนๆ ที่แวะเวียนเข้าร้านมาประจำ ทำให้เจอหน้ากันบ่อยๆ พอรู้ว่าเล่นเกมเดียวกันก็มักจะแลกเปลี่ยนข้อมูลกันบางครั้งก็เถียงกันจนลั่นร้าน มีท้าเลี้ยงข้าวคนละมื้อด้วยนะ อ๊ะ!! นั่นยังไงล่ะครับ คือการนำเสนอข้อมูลเกม เพียงแค่เราเปลี่ยนการใช้ภาษาพื้นๆ มาเป็นภาษาหนังสือ แต่ในบางครั้งภาษาพื้นๆ ทำให้คนอ่านเข้าใจง่ายกว่า ก็จะใช้ภาษาพื้นๆ ทั่วไป เสริมลูกเล่นด้วยคำพูดปัญญาอ่อนลงไปนิดหน่อยก็อ่านได้ง่ายขึ้นแล้วล่ะครับ

 

งานประจำซ้ำซากแต่น่าสนุก

          เมื่อย่างเข้าสู่โลกของสื่อ หรืออีกนัยหนึ่งคือเบื้องหลังวงการเกม ทำไมต้องเบื้องหลังน่ะหรือ ก็เพราะว่าก่อนหน้าที่จะมีการปฏิวัติ (เกี่ยวอะไรกับการเมืองด้วยล่ะเนี่ย -0-) พวกเราที่เป็นสื่อจะไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง อย่าว่าแต่หน้าตาเลย แค่ชื่อเล่นยังไม่มีใครรู้ จะมีก็แต่นามปากกาเท่านั้นที่ปรากฏแก่สายตาของผู้อ่าน แต่ว่าหลังจากที่ยุคมืดได้หมดไป สิ่งต่างๆ ก็เริ่มขาวสะอาด (เอ๊ะ! ยังไง?) คราวนี้พวกเราเหล่าสื่อในวงการเกมก็สามารถเชิดหน้าชูตาในสังคมได้เต็มพื้นที่ (เท่าที่หน้ากระดาษจะเอื้ออำนวย) สมัยก่อนที่ยังไม่ได้เข้าสู่เบื้องหลังนั้น เบื้องหน้าของเกมเมอร์ที่เข้ามาในงานจัดกิจกรรมเกมของบริษัทต่างๆ แล้วมักจะมีพี่ๆ Staff (แปลว่าไม้เท้า) คอยแนะนำ เชื้อเชิญ หรือหลอกให้เราติดกับ ด้วยการหลอกล่อเอาโปสเตอร์ และซีดีเกมมายัดใส่มือเรา เมื่อสงสัยว่ามันคือเกมอะไร แล้วลองติดตั้งในคอมพ์ที่บ้าน กว่าจะรู้ตัวก็ติดเกมนั้นงอมแงมไปเสียแล้ว ตั้งแต่นั้นมาก็จำขึ้นใจเลยว่า Staff อันตรายมาก เจอปุ๊ต้องรีบใช้ Firebolt ยิงใส่ไม่ยั้งทันที -0-

          แต่ไม่ว่าอย่างไร ทีมงานที่ทำงานเกี่ยวข้องกับเกมที่ชาวเกมเมอร์จะได้เห็นในงานกิจกรรมต่างๆ ก็ดูดีมีภาระ เอ๊ย! มีราศีจับกันทั้งนั้น แถมถ้าเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามก็อดไม่ได้ที่จะต้องเดาไปต่างๆ นานาว่าคนไหนจะใช่ นามปากกานี้หรือไม่ เพราะคำพูดอันไพเราะเวลาตอบคำถามในเว็บบอร์ดหรือในหนังสือเกม ชวนให้คิดไปว่าทีมงานคนนี้ต้องสวย ต้องน่ารักเป็นแน่ (ความจริงช่างโหดร้าย - -) นี่แหล่ะที่มาของคำว่าเบื้องหลัง แต่ตอนนี้พวกเราชาวสื่อทุกคนก็กำลังจะเดินสู่โลกที่แสงแดดส่องถึงแล้ว อีกไม่ช้าสื่อก็จะไม่เป็นตัวละครลับอีกต่อไป

          งานชิ้นแรกของการเข้าสู่วงการนี้คือการทำข่าว การหัดเขียนข่าว แน่นอนว่าผมซึ่งดูข่าวเรื่องเล่าเช้านี้แทบทุกวัน ย่อมจำขึ้นใจในวิธีการอ่านข่าว แต่พอเอาเข้าจริง การทำข่าวเกมมันต่างกับข่าวสังคมอยู่หลายส่วน นั่นก็เพราะว่าผู้อ่านส่วนใหญ่ยังคงเป็นเยาวชน แม้ว่าอายุเฉลี่ยของผู้อ่านจะเป็นวัยทำงานก็ตามที เมื่อเป็นเช่นนี้การใช้คำต่างๆ ก็จะ Soft ลง และมีคำแผลงๆ มุกฮาๆ ยิงกันแบบไม่ยั้ง บางครั้งเคยมีการทำข่าวของเกมที่กำลังขับเคี่ยวกันอยู่ เกมแนวเดียวกัน 2 เกมกับทีมงาน 2 คน แล้วข่าวที่ออกมาก็ฟัดกันอย่างโจ่งแจ้ง เล่นเอาฮาไปทั้งออฟิศ บรรยากาศการทำงานของสื่อไม่เหมือนอย่างที่หลายๆ คนคิดหรอกนะครับ ใช่ว่าเป็นสื่อแล้วจะได้เล่นเกมทั้งวัน พวกเรา (สื่อ) ได้เล่นเกมเฉพาะเพื่อหาข้อมูลมาประกอบการเขียนเท่านั้น แต่หลังเลิกงานก็จะละทิ้งหน้าที่อันหนักอึ้งมาเล่นเกมให้สะใจแทน งานเขียนของสื่อจะประกอบไปด้วย 3 ประเภทใหญ่ๆ และก็เป็น 3 ประเภทที่ต้องทำเป็นประจำ นั่นก็คือ ข่าวเกมทั้งไทยและเทศ, บทความหรือไกด์ และข่าวโฆษณา หรือ PR และ 3 สิ่งนี้ต้องทำเป็นประจำ งานซ้ำซากน่าเบื่อนี้นับวันจะทวีมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อความเครียดเข้าครอบงำ ทางออกเดียวก็คือ ซิก้า สำหรับพนักงานชั้นล่าง และ ไปป์สำหรับหัวหน้าเด็กเกรียน

          ข้อดีของสื่อคือการรู้ข่าวก่อนคนอื่นๆ และอภิสิทธิ์ในการเข้าไปคลุกคลีวงในเพื่อให้ได้รู้ข่าวก่อนใคร และสิ่งที่น่ายินดีเป็นที่สุด ซึ่งเชื่อว่าเป็นความใฝ่ฝันของเกมเมอร์ทั้งหลายก็คือการได้เล่นเกมใหม่ๆ ก่อนใครเพื่อนนั่นเอง ซึ่งทั้งหมดนี้สื่อด้านเกมอย่างพวกเรามีอยู่พร้อม แต่อำนาจอันยิ่งใหญ่ย่อมมาพร้อมภาระอันใหญ่ยิ่ง หลังจากที่ได้ข่าวมาแล้วก็ต้องส่งข่าวให้ไวที่สุด ยิ่งแผนก Online Station ด้วยแล้ว ไม่ต้องรอให้ถึงวันตีพิมพ์หรอกครับ ลงข่าวนาทีต่อนาทีเลย รายงานสดๆ แบบจ่อหน้าเวทีจัดงานก็เคยมีมาแล้ว นี่แหล่ะครับความท้าทายที่สื่อได้พบเจอ

          อย่างที่ได้เกริ่นนำไปแล้วว่าในแต่ละปีวงการเกมจะพลิกโฉมตัวเองจากหน้ามือไปยังมือที่สวยกว่าเรียวกว่า และขาวกว่า อย่างเช่นเมื่อปี 2006 ช่วงปลายของเกมรูปแบบแอร์ไทม์ และการรุกคืบของเกมเล่นฟรี ซึ่งในวงการสื่อเองก็มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างเข้มข้น ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเกมส่วนใหญ่ที่เคยเป็นแอร์ไทม์ ต่างก็ผันตัวมาให้เล่นกันฟรีๆ กันหลายเกม พอมาปี 2007 ก็มีเกม Casual โผล่มาอีกเป็นดอกเห็ด แต่แล้วปีนี้ เกม FPS ก็แซงหน้าเกมอื่นๆ และคาดว่าปีหน้านี้จะเป็นการย้อนกลับมาของเกม MMORPG อีกครั้ง โดยที่เกมแบบแอร์ไทม์จะกระเตื้องขึ้นอีกเล็กน้อย แต่เกมฟรียังคงครองใจเกมเมอร์ส่วนใหญ่เอาไว้ได้เช่นเคย สื่อเองก็มีส่วนที่ช่วยผลักดันให้วงการเกมเติบโตด้วยเช่นกัน การโฆษณาเพียงเล็กน้อย ถ้ามีคนอ่าน 1 คน แล้วบอกต่อเพื่อนๆ 5 คน แล้วเพื่อนๆ 5 คน เอาข่าวลือไปซุบซิบกับเพื่อนๆ คนอื่นอีก 5 คน แล้วเผอิญแม่ของหนึ่งใน 5 คนได้ยินลูกๆ คุยเรื่องเกมเข้าก็โวยวายด่าทอลูก จนเสียงตะโกนดังลั่นไปยังบ้านตรงข้าม ลูกชายของบ้านตรงข้ามได้ยินเข้า รีบเข้าไปหาข้อมูลในเว็บ Online Station ก็เลยบอกต่อเพื่อนๆ อีก 5 คน (ไปเรื่อยๆ) วงการเกมจึงเติบโตได้ด้วยประการฉะนี้แล

 

สื่อกับค่ายเกม ความสัมพันธ์ที่แสนประหลาด

          สื่ออย่างพวกเรา (Future Gamer) ไม่ได้โดดเดี่ยวเดียวดายทำงานไปโดยไม่สนใจค่ายเกมหรอกนะครับ พวกเราชาวสื่อต่างก็ใช้วิธีน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่ากันทั้งนั้น หากค่ายเกมเจ๊งบ๊งหมด แล้วเรายังจะเขียนข่าวอะไรได้อีก แต่ถ้าค่ายเกมไม่เห็นสื่ออยู่ในสายตา ก็จะไม่มีการกระพือข่าวสารต่างๆ แล้วเกมของพวกเขาก็จะไม่เติบโตเท่าที่ควร ดังนั้น สื่อกับค่ายเกมจึงจับมือกันเดินไปด้วยกันอย่างไม่เป็นทางการ

          อย่าว่ากันเลยหากว่าหลังการปฏิวัติจะเห็นข่าวโฆษณาบนหน้าเว็บไซต์จำนวนมาก นับจำนวนต่อวันก็แซงหน้าข่าวเด่นข่าวดังไปเกือบเท่าตัว เพราะหากว่าค่ายเกมสามารถกระจายข่าวสารถึงผู้เล่นได้ ก็ย่อมหมายถึงผลกำไรที่มากขึ้น และผลกำไรนั้นก็จะย้อนมายังพวกเราชาวสื่อนั่นเอง ไม่อย่างนั้นจะเอาเงินที่ไหนเป็นค่านมลูกล่ะครับ T T หลังจากเข้าทำงานในเบื้องหลังวงการเกมเช่นนี้แล้ว หัวหน้าทีมก็จะนำดวงของพวกเราไปผูกสัมพันธ์กับดวงของค่ายเกมต่างๆ และออกมาเป็นว่าใครจะได้ดูแลเกมไหนค่ายไหน ซึ่งหน้าที่ที่รับผิดชอบก็จะจำกัดให้เห็นอย่างชัดเจน การขับเคี่ยวกันเองในออฟิศ หรือในที่ประชุมจึงดุเด็ดเผ็ดร้อนไปเสียทุกครั้ง

 

เรื่องตลกในที่ประชุม

          การประชุมใหญ่จะมีขึ้นในทุกสัปดาห์ สื่อบางแห่งอาจจะใช้วันพฤหัสบดี หรือบางแห่งอาจจะใช้วันเสาร์ แต่ไม่ว่าจะเป็นสื่อของที่ใดก็จะต้องมีวันรวมหัวกันประชุมกันทั้งนั้น ซึ่งในการประชุมก็เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคืบหน้าของงานของแต่ละคนที่รับผิดชอบ รวมถึงแนวทางและนโยบายใหม่ๆ ที่จะนำมาใช้ในสัปดาห์ถัดไป เห็นไหมครับว่าการเป็นสื่อ และอยู่เบื้องหลังวงการเกมนั้น ไม่ใช่ว่าจะสนุกสนานไปตลอด มันก็มีเรื่องเครียดๆ เหมือนกัน

          บางคนอาจจะเข็ดขยาดกับการประชุมแผนก แต่สำหรับผมกลับชอบการประชุมเอามากๆ เพราะมันคือการอู้แบบมีหลักการ ทิ้งงานที่ยังไม่เสร็จเอาไว้ แล้วมาประชุมให้สบาย เอนเก้าอี้ให้สุด เหยีดแขนขาให้เต็มที่ พร้อมกับเปิดไฟสีส้มสลัวๆ ในห้องประชุม ซึ่งช่วยให้สมาชิกทีมทุกคนน่าตาดีขึ้นอีกเป็นกอง การประชุมแผนกของทีมงาน Online Station เหมือนกับกำลังดูตลกคาเฟ่ แต่ละคนจะยิงมุกไม่ซ้ำกันเลย ภายใต้ความเฮฮานั้นก็มีเนื้อหาของงานมาสรุปกันครบถ้วนทุกคน มีสมาชิกทีมคนหนึ่งที่มักจะทำให้การอัพเดตข่าวสารต่างๆ ของเกมที่รับผิดชอบอยู่กลายเป็นเรื่องตลก ด้วยคำขี้โม้ลื่นไหล ทำเรื่องธรรมดาๆ กลายเป็นข่าวใหญ่ข่าวดังได้ แบบที่คนฟังได้แต่อึ้ง จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงประท้วง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่จอมขี้โม้คนนี้นำเสนอข่าว RO เกมลูกรักสุดหวงของเค้าล่ะ

จอมขี้โม้ : “สัปดาห์หน้าผมจะทำข่าว RO Free Life…”
หัวหน้าเด็กเกรียน : “เฮ้ย!! ไม่เอา เกมมันเก่าแล้ว”
จอมขี้โม้ : “แอร๊ย...ไม่นะพี่ แต่คนเล่นเยอะมากเลยนะ นี่มันเกมในตำนานนะครับ ทุกคนที่เล่นเกมออนไลน์มาต้องเคยเล่น RO มาก่อนทั้งนั้น สกรู๊ปนี้ใหญ่มากเลยนะ”

หัวหน้าเด็กเกรียน : “มันจะมีคนอ่านบทความแกเร้อ มีแต่บอทอ่านอ๊ะป่าว”
จอมขี้โม้ : “โถ่พี่ บอทมัน 50:50 ตอนนี้ก็บอทกันบ้าง แต่พอกิลด์วอร์ คนก็เล่นเยอะนะครับ”
หัวหน้าเด็กเกรียน : “แล้วไม่มีข่าวอื่นหรอ ไม่อยากได้ RO ว่ะ”
จอมขี้โม้ : “โถ่พี่ เชื่อผมดิ RO นี่แหล่ะสุดยอดข่าวดังแล้ว ลงข่าวทีนึงคนอ่านหลักหมื่น แล้วยิ่งเป็นข่าวเซิร์ฟฟรีด้วย คนอ่านเป็นแสน!”

หัวหน้าเด็กเกรียน : “ฮื้อออ...ไม่อยากจะเชื่อ”
จอมขี้โม้ : “จริงๆ พี่ นี่ถ้าลงข่าวไปปุ๊ป รับรองคนอ่านตรึม เกมมันดีจริงพี่ ถ้าไม่เชื่อเดี๋ยวเย็นนี้ขึ้นข่าวให้ดูเลย”
หัวหน้าเด็กเกรียน : “แล้วตอนนี้มีคนเล่นกี่คน”
จอมขี้โม้ : “โหยเป็นหมื่นพี่ ยิ่งตอนวอร์ เซิร์ฟแทบเป็นลม”
หัวหน้าเด็กเกรียน : “อ่ะงั้น ถ้าลงไปแล้ว OS จะได้อะไร”
จอมขี้โม้ : “ได้ Pageview ไงพี่ แล้วถ้ามีคนอ่านหลักหมื่น เราก็เอาไปเสนอให้ AS ซื้อแบนเนอร์ ได้ค่าโฆษณาอีกต่างหาก แล้ว OS เราก็จะเติบโต โบนัสปลายปีก็งอกงามไงพี่”

หัวหน้าเด็กเกรียน : “แป่ว (กู) ก็นึกว่ามันจะมีอะไร ที่แท้ก็เรื่องเงิน เออ..เออ เอาก็เอา แต่ว่าต้องมีคนอ่านจริงๆ นะเว้ย”

จอมขี้โม้ : “ชัวร์อยู่แล้วพี่”

“That’s it”


จับโอเอสทีม มาเผารายตัว

          และแล้วก็มาถึงช่วงแฉ หลังจากที่คลุกคลีอยู่กับทีมงานหน้าตาดีทั้ง 11 คนมาเป็นเวลานาน แรกๆ ก็สงบเสงี่ยมดีกันอยู่หรอก แต่หลังๆ นี่หางโผล่อยู่เรื่อย ว่าแล้วก็เริ่มกันเลยกับตัวจริงของทีมงาน Online Station

Mr.IOWA
          บอสใหญ่ไฮเปอร์หลากความสามารถของแผนก OS แต่ล่าสุดหลังอาฟเตอร์ช็อค จึงมีการรวมตัวของแผนกที่ต่างๆ เข้าด้วยกัน ชื่อแผนก E-Media จึงถือกำเนิด บอสเรามักจะมีไอเดียดีๆ มานำเสนอทีมงานอยู่เป็นประจำ ชนิดที่ว่า เมื่อวานอย่างนึงวันนี้อีกอย่างนึง ใครตามไม่ทันก็งงเต๊กกันไปเลย

Vanhazard
          หัวหน้าเด็กเกรียน สุดยอดพี่ชายที่แสนดีของบ้าน OS ดูแลน้องๆ ได้อย่างดีเยี่ยม มีอุดมการ์ณที่ดี มองการ์ณไกล อ่านเกมขาด เสียอย่างเดียว มีพุง กะเรื่องผู้หญิง ไปข้างนอกทีไร เจอสาวน่ารัก ๆ พี่แว่นเดินมาทัก "เด็กกู" อันนี้ Sad เลย แต่ก็ไม่รู้เมื่อไหร่ว่าพี่แกจะมีแฟนเป็นตัวตนกะเค้าสักที่ 30 กว่าแล้วนะพี่ เด๋วมีลูกตอนแก่มันจะไม่ดีเอานะครับพี่น้อง

Bento
          หัวหน้าทีมย่อยหรือหัวหน้าปาร์ตี้ ทำหน้าที่ประสานงากับผู้บริหาร ทีมงานต้องการอะไรที่มันแนวๆ แจ้งได้เลย พี่แกจัดให้หมด 4 เดือนก่อนแฟนสาวบอกว่ากำลังเลิกซิก้า แต่เช้าวันจันทร์ไหงหนีลงไปเสพอีกซะแล้ว - -“

Intel
          จอมขี้โม้ที่ทำให้เรื่องเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่ น้องเล็กสุดแต่อยู่มานานสุด รูปร่างตุ้ยนุ้ยน่ากอด แต่ขอบอกว่าแอบเลี้ยงหนูไว้ในลิ้นชัก พอมีคนทักก็อ้างว่า “รักสัตว์” -*-

Por_kk
          หญิงคนเดียวที่เคยสวยที่สุดในทีม จนกระทั่งแมวหลับโผล่มา มักชอบให้ใครๆ เรียกว่าเจ๊ปอร์ๆ ปกติจะดูแลเรื่องอีเว้นท์ กิจกรรมเกมต่างๆ งานค่อนข้างหนัก จนได้ลูกน้องคนใหม่มานั่นแหล่ะ เจ๊ปอร์เลยไมเกร็นขึ้น

Fataris
          อุ้ยเสี่ยวป้อม่อไม่หยุดทุกสถานที่ หนุ่มหน้าตาดีสูงยาวผิวขาว สาวๆ ถามจะบอกว่าโสดทั้งที่มีเมียโหดรออยู่ที่บ้าน ถ้าเรื่องเกมคอนโซลจมูกจะไวเป็นพิเศษ เจอข่าวปุ๊ปลงข่าวปั๊ป ใครทำอะไรในวงการเกมคอนโซลก็รู้ไปหมด

hurtz
          หนุ่มหน้ามนจากแดนฮิยาวสั้น อารมณ์ดีมีสาระ งานเป็นงานเล่นเป็นเล่น เรื่องจัดแข่งจัดทริปขอให้บอก น้องไม่เคยทำให้ ข่าวอะไรมาแบบไหนทำได้หมด ทั้งๆที่มีประสบการณ์มาสินะ

Mamushi
          เบ๊เจ๊ปอร์ (เจ๊ปอร์ขอเผา) “เบิร์ด-เบื่ออ่ะ คนอะไรก็ไม่รู้ วันๆ ไม่ทำอะไรได้แต่เหล่สาว แค่มองสาวก็อิ่มแล้ว งี้ปลายเดือนโอนเงินเข้าบัญชีเค้าแทนได้นะ แล้วขอเผาต่ออีกนิด บัตรเช่าร้านหนังสืออ่ะ ทำเองก็ได้นะ นี่เนียนจนนึกว่าบัตรเป็นของตัวเองแล้ว มีการรับฝากเช่ามาเผื่อเพื่อนๆ ด้วย แหม ไจดี๊ใจดี แต่ดูหน่อยสิยะ ชื่อเจ้าของบัตรมันชื่อช้านนะยะ!”

Zatoshi
          ตัวกินเด็ก >< อิจฉาเฟ้ย

SleepingCat
          สาวสวย...สวมวิญญานซ้อเจ็ด เม้าได้ทุกกรณี เมื่อกี้ได้ฉายาใหม่ She is the MAN!! ไม่อยากเผามาก เดี๋ยวจะโดนเผากลับ ใครเจอตัวเป็นๆ ให้ระวังอย่าไปแซว เพราะหน้าตากับกริยามันสวนทางกัน

Lufaus
          สุดหล่อ...

ป.ล. ทีมโปรแกรมเมอร์ไม่ต้องน้อยใจไป พวกพี่ๆ ดีหมดทุกอย่างยกเว้นเล่นเกมไม่เป็น

 

 

สเปเชียล แต๊งส์

ขอขอบคุณพี่บอมบ์ Sanook.com ที่เป็นผู้จุดประกายให้เข้ามาสู่เส้นทางของนักเขียน
ขอขอบคุณเว็บบอร์ด Compgamer ที่ผมเคยใช้ฝึกสำนวน
ขอขอบคุณพี่ต๋อมที่เล็งเห็นความสามารถ
ขอขอบคุณพี่อังคนาที่ชักชวนเข้ามายังบ้าน FG
ขอขอบคุณพี่แว่นที่ดูแลอบรมมาตลอด
ขอขอบคุณคุณซันที่ให้โอกาสและยอมรับในความสามารถ
ขอขอบคุณทีมงาน OS ทุกคนที่สนับสนุน
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ให้คำแนะนำติชมและติดตามผลงาน
ขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่ให้กำลังใจมาตลอด

บ๊ายบาย ^^

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ