ศิลปินเกมชี้ การดูคลิปสั้นและ TikTok อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คนหันมาเล่น "เกมอินดี้" กันมากขึ้น

แชร์เรื่องนี้:
ศิลปินเกมชี้ การดูคลิปสั้นและ TikTok อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คนหันมาเล่น "เกมอินดี้" กันมากขึ้น

มีศิลปินในวงการเกมญี่ปุ่นได้เสนอทฤษฎีว่า การที่เกมอินดี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงหลัง อาจมีความเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมการเสพคอนเทนต์แบบสั้น (Short-form Content) ที่กำลังมาแรง

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กระแสเกมอินดี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเหตุผลที่หลายคนเข้าใจกันดีว่ามาจากความหลากหลาย อิสระในการแสดงออก และการเข้าถึงที่ง่ายกว่า แต่ก็มีผู้ที่ตั้งทฤษฎีว่าอาจมีปัจจัยอื่น ๆ ที่สำคัญกว่านั้นซ่อนอยู่เบื้องหลัง แทนที่จะต้องค่อย ๆ เล่นเกมราคาเต็มไปทีละนิด ผู้เล่นสามารถซื้อเกมอินดี้ได้ถึงสามเกมในราคาเท่ากัน และได้สัมผัสเรื่องราวที่แตกต่างกันสามเรื่องในเวลาที่อาจจะสั้นกว่าด้วย หรือในเวลาที่อยากเล่นอะไรใหม่ ๆ แต่ไม่อยากจ่ายเงินก้อนโตให้เกมที่อาจเล่นไม่จบ การหันไปหาเกมอินดี้ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า และไม่ทำให้รู้สึกผิดที่ต้องจ่ายเงินเกือบสองพันบาทไปกับเกมที่แทบไม่ได้แตะ

TikTok

คุณ Danryoku นักวาดภาพประกอบที่ทำงานในอุตสาหกรรมเกม ซึ่งมีผลงานเด่นคือการออกแบบมอนสเตอร์ให้กับเกม Eiyuden Chronicle: Hundred Heroes และ Brave x Junction ได้ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้ โดยชี้ว่าสาเหตุที่เกมอินดี้บูมขึ้นมานั้น เป็นเพราะเกมเมอร์มีเวลาเล่นเกมน้อยลงและมีสมาธิสั้นลง เขาระบุว่า

 "จากการฟังความเห็นของคนในหลาย ๆ แวดวง ผมเชื่อว่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีคนจำนวนมากที่เล่นเกมไม่จบ อยากเคลียร์เกมในเวลาที่สั้นลงจึงหันไปหาเกมอินดี้แทน หรือไม่ก็ไม่มีเวลาเล่นเกมเลยตั้งแต่แรก ทำให้เห็นภาพชัดขึ้นเรื่อย ๆ ว่าทำไมเกมอินดี้ถึงได้รับความนิยมขนาดนี้"

TikTok

อย่างไรก็ตาม Danryoku ชี้ว่าการที่ผู้คนมีเวลาว่างน้อยลง ไม่ได้เป็นเพราะว่ามัวแต่ทำงานยุ่ง แต่เป็นผลกระทบมหาศาลจากคอนเทนต์แบบสั้นที่เข้ามามีบทบาทในวงการบันเทิงยุคใหม่ 

"สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือการแย่งชิงเวลาเพื่อความบันเทิง ซึ่งผมเดาว่า TikTok คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสมรภูมินี้ ตามมาด้วยแอปเว็บตูน ผมมองว่าสื่อที่ไม่ต้องใช้ความผูกมัดในการเสพมากมักจะได้เปรียบเสมอ" เขากล่าวเสริม

ประเด็นนี้กลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างรวดเร็วบน X (ทวิตเตอร์) ฝั่งญี่ปุ่น ซึ่งเกมเมอร์จำนวนมากก็ดูจะเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ โดนบางคนชี้ว่าการที่ผู้คนคุ้นชินกับคอนเทนต์อย่าง TikTok YouTube Shorts และ Reels อาจส่งผลต่อความกระตือรือร้นในการเล่นเกม เพราะวิดีโอสั้นนั้นย่อยง่ายและเสพได้แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เมื่อเทียบกับเกมที่ผู้เล่นต้องเป็นคนควบคุมประสบการณ์เองทั้งหมด

TikTok

มีผู้ใช้งานรายหนึ่งให้ความเห็นว่า "เกมเป็นความบันเทิงที่คุณจะสนุกกับมันไม่ได้เลยถ้าไม่ลงมือเล่นเอง ต่อให้เกมจะง่ายแค่ไหน อย่างน้อยก็ต้องกดปุ่ม แต่กับวิดีโอ แค่กดเล่นแล้วก็เสพไปเรื่อย ๆ พอชินกับอะไรแบบนี้ การจะเปิดเครื่องเกมขึ้นมาเล่นก็เลยรู้สึกเหมือนเป็นภาระ"

ในทางกลับกัน ผู้ใช้งานบางส่วนก็มองว่าความรู้สึกเหมือนต้อง "ฟาร์ม" ในเกมยุคใหม่ โดยเฉพาะเกมแนว Live-service ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นไม่อยากเล่นเกมต่อ "คนสร้างเกมมีแนวโน้มที่จะบังคับให้ผู้เล่นทำอะไรที่น่าเบื่อซ้ำ ๆ ในเกม ทั้งที่ในชีวิตจริงผู้เล่นก็เหนื่อยกับงานมามากพอแล้ว สิ่งที่พวกเขาต้องการจากเกมไม่ใช่เควสต์หรืองาน แต่เป็นวิธีที่จะได้รู้สึกตื่นเต้นและประสบความสำเร็จในแบบที่ชีวิตจริงให้ไม่ได้ต่างหาก"

TikTok

แต่แทนที่จะมองว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นเรื่องน่ากลัว การปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ก็อาจมีข้อดีเช่นกัน ดังตัวอย่างของเกม Clair Obscur: Expedition 33 ที่หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกมได้รับความสนใจคือการมอบประสบการณ์ที่สั้นและกระชับกว่าเกม RPG ฟอร์มยักษ์ทั่วไป ซึ่งเป็นการตัดสินใจอย่างตั้งใจของทีมผู้พัฒนา การตระหนักว่าเกมเมอร์อาจชื่นชอบเกมที่สั้นแต่เนื้อหาอัดแน่น อาจเป็นหนทางที่ช่วยให้ผู้พัฒนาระดับ AA และ AAA สามารถดึงดูดผู้เล่นกลับมาได้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดต้นทุนการผลิตและส่งผลให้ราคาเกมถูกลงได้อีกด้วย

แปลและเรียบเรียงจาก
Automaton Media


ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่นๆ ได้ที่ Online Station

แชร์เรื่องนี้:
Shirosaki-han
About the Author

Shirosaki-han

นักเขียนอิสระผู้ชื่นชอบเกมและอนิเมะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ