หลังจากที่รอคอยกันมานานหลายปี ล่าสุด Team Cherry ได้ประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Hollow Knight: Silksong เกมภาคต่อที่แฟน ๆ ทั่วโลกรอคอย พร้อมข้อมูลใหม่ที่น่าสนใจเพียบ หลังจากมีการเปรยสั้น ๆ ในงาน Gamescom Opening Night Live ที่ผ่านมา
วันนี้เราจะมาสรุปถึงประเด็นต่าง ๆ ที่น่าสนใจสำหรับแฟน ๆ เกมนี้ ก่อนที่เราจะเริ่มออกผจญภัยกันอีกครั้งในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

วันวางจำหน่ายและแพลตฟอร์ม
Hollow Knight: Silksong มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 4 กันยายน 2025 นี้ ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดการรอคอยที่ยาวนานนับตั้งแต่เกมเปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 เดิมทีตัวเกมเคยตั้งเป้าจะวางจำหน่ายในช่วงต้นปี 2023 ก่อนจะถูกเลื่อนออกไป โดยคุณ Matthew Griffin จากทีมงานได้ให้เหตุผลว่าโปรเจกต์มีขนาดใหญ่ขึ้นมาก จึงอยากใช้เวลาขัดเกลาเกมให้ออกมาดีที่สุด
สำหรับแพลตฟอร์มที่ได้รับการยืนยันแล้วประกอบไปด้วย PlayStation 5, PlayStation 4, Xbox Series X, Xbox One, Nintendo Switch, Switch 2 และ PC ผ่านทาง Steam, GOG และ Humble Store นอกจากนี้ยังเป็นข่าวดีสำหรับสมาชิก Game Pass เพราะตัวเกมจะลงให้เล่นตั้งแต่วันแรกที่วางจำหน่ายอีกด้วย โดยมีราคาอยู่ที่ $19.99 หรือประมาณ 600 กว่าบาท

เกมเพลย์ของ Hornet
หัวใจสำคัญของเกมเพลย์ในภาคนี้คือความแตกต่างระหว่าง Hornet กับ The Knight ในภาคแรก โดย Hornet จะมีความสามารถทางกายภาพที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
- สไตล์การเคลื่อนไหวที่พลิ้วไหวดุจนักยิมนาสติก: Team Cherry ตั้งใจออกแบบให้ Hornet มีความคล่องแคล่วและเป็นนักกายกรรมมากกว่า The Knight ทำให้การเคลื่อนไหวและการต่อสู้มีความเป็นแอ็กชันสูงและรวดเร็วยิ่งขึ้น เธอสามารถกระโดดโลดเต้นข้ามศัตรูไปมาได้อย่างงดงามและหลบหลีกได้ด้วยความว่องไว
- ระบบฟื้นพลังชีวิตแบบใหม่: จุดนี้คือหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุด โดยระบบฟื้นพลังของ Hornet จะแตกต่างจากภาคแรกโดยสิ้นเชิง แทนที่จะค่อย ๆ ฟื้นพลังเหมือน The Knight เธอสามารถฟื้นพลังได้ 3 ช่องในทันที และยังสามารถทำได้ระหว่างที่กำลังเคลื่อนที่อยู่ด้วย แต่ข้อแลกเปลี่ยนก็คือ การฟื้นพลังหนึ่งครั้งจะใช้ "Silk meter" (เกจไหม) จนหมดหลอดทันที

- ความท้าทายยังไม่หายไปไหน: จากการทดลองเล่นเดโมใน 2 ด่าน คือ Moss Grotto ซึ่งเป็นด่านช่วงต้นเกมที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์ และ Deep Docks ที่เป็นด่านสไตล์เครื่องจักรกลในช่วงหลังของเกม พบว่าความยากของเกมยังคงเป็นเอกลักษณ์เหมือนเดิม โดยเฉพาะด่าน Deep Docks ที่มีความซับซ้อนและศัตรูที่สามารถรับมือกับการเคลื่อนไหวของ Hornet ได้ ทำให้ผู้เล่นต้องคิดอย่างรวดเร็วและใช้ความสามารถทั้งหมดเพื่อเอาตัวรอด
- ระบบการคราฟต์สิ่งของ: ภาคนี้จะมีการเพิ่มระบบใหม่เข้ามาคือการคราฟต์อาวุธ, เครื่องมือ และกับดักต่าง ๆ โดยผู้เล่นจะใช้วัตถุดิบที่เก็บได้จากการปราบบรรดาศัตรูเพื่อนำมาสร้างเป็นอุปกรณ์ใหม่ ๆ

โดยรวมแล้ว แม้ว่าตัวเกมจะยังคงมีกลิ่นอายของเกมแพลตฟอร์ม 2D และการต่อสู้อันเป็นเอกลักษณ์ของ Hollow Knight อยู่ แต่การปรับเปลี่ยนตัวละครหลักมาเป็น Hornet ที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูง พร้อมกับระบบฟื้นพลังและระบบคราฟต์แบบใหม่ จะมอบประสบการณ์ที่สดใหม่และแตกต่างจากภาคแรกอย่างแน่นอน

เนื้อเรื่องและการผจญภัยในดินแดนใหม่
สำหรับเนื้อเรื่องของ Hollow Knight: Silksong จะเป็นการเปลี่ยนตัวละครหลักจาก The Knight ในภาคแรก มาเป็น Hornet ซึ่งเป็นตัวละครที่แฟน ๆ คุ้นเคยกันดี โดยจะเป็นการผจญภัยในดินแดนแห่งใหม่ทั้งหมด โดยเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Hornet ถูกจับตัวและนำไปยังอาณาจักรที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนซึ่งมีชื่อว่า "Pharloom" อาณาจักรแห่งนี้ถูกกล่าวขานว่าเป็นดินแดนที่ "ถูกหลอกหลอนด้วยเส้นไหมและบทเพลง" (haunted by Silk and Song)
เป้าหมายหลักของผู้เล่นคือการนำพา Hornet เดินทางจากจุดต่ำสุดของอาณาจักรแห่งนี้ เพื่อขึ้นไปสู่จุดสูงสุดซึ่งเป็นที่ตั้งของ "ปราการที่ส่องสว่าง" (Shining Citadel) การเดินทางครั้งนี้ก็เพื่อค้นหาความจริงว่าเหตุใดเธอจึงถูกลักพาตัวมายังดินแดนแห่งนี้
นอกจากเนื้อเรื่องหลักแล้ว ในภาคนี้จะมีระบบเควสต์ย่อยที่สมบูรณ์และมีเนื้อหาที่ลึกซึ้งกว่าภาคแรก โดยผู้เล่นจะมีสมุดบันทึก สำหรับติดตามเควสต์ย่อยต่าง ๆ ที่รับมาได้ด้วย ซึ่งเป็นโอกาสให้ผู้พัฒนาสามารถเล่าเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกของ Pharloom ได้มากขึ้น

เบื้องหลังการพัฒนาที่ยาวนาน
เดิมที Silksong เริ่มต้นจากการเป็นเพียง DLC ของ Hollow Knight ภาคแรก แต่ด้วยขอบเขตและไอเดียที่ใหญ่เกินกว่าจะเป็นแค่ส่วนเสริม ทาง Team Cherry จึงตัดสินใจพัฒนาให้เป็นเกมภาคต่อเต็มตัว ซึ่งมาพร้อมกับศัตรูหน้าใหม่กว่า 150 ชนิด บอสใหม่ ๆ รวมถึงระบบการคราฟต์อาวุธและเครื่องมือจากวัสดุที่เก็บได้จากศัตรู โดยได้คุณ Christopher Larkin ผู้ประพันธ์เพลงจากภาคแรกกลับมาสร้างสรรค์ผลงานอีกครั้ง
จากการให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ทีมงานยืนยันว่าช่วงเวลาการพัฒนาที่ยาวนานเกือบ 7 ปีนั้นไม่ใช่ "Development Hell" หรือการพัฒนาที่ติดขัดแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะทาง Team Cherry เป็นทีมขนาดเล็กที่สนุกกับการสร้างเกมและต้องการเวลาเพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็เลยใช้เวลาสร้างกันอย่างเพลินเพลินเกินไปหน่อย!

แผนสำหรับอนาคตและ DLC
แม้เกมจะยังไม่วางจำหน่าย แต่ Team Cherry ก็ได้เปรยถึงแผนการในอนาคตไว้แล้ว โดยรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่จะเพิ่มเติมเข้ามาในเกมหลังจากนี้ และยอมรับว่ามีแผนสำหรับเนื้อหาใหม่ ๆ ที่ค่อนข้างทะเยอทะยาน ซึ่งก็หวังว่าจะสามารถทำบางส่วนให้สำเร็จได้
เรียกได้ว่าการรอคอยของแฟน ๆ นั้นคุ้มค่าอย่างแน่นอน เพราะ Hollow Knight: Silksong ไม่เพียงแต่จะมาพร้อมกับโลกใบใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม แต่ยังอัดแน่นไปด้วยระบบการเล่นที่สดใหม่และความท้าทายที่รอให้ผู้เล่นเข้าไปพิสูจน์ในเดือนกันยายนนี้
แปลและเรียบเรียงจาก
GamesRadar+
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่นๆ ได้ที่ Online Station