หลังจากที่มีการเปิดตัวเกม Dying Light: The Beast อย่างเป็นทางการในงาน gamescom เมื่อปีที่แล้ว และเคยถูกวางให้เป็น DLC ชุดที่ 2 ของเกม Dying Light 2 มาก่อน อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยเหตุผลบางประการก็ได้ทำให้ทีมงาน Techland ตัดสินใจเปลี่ยนบทบาทของเกมมาเป็นภาคเสริมที่มีเนื้อหาสั้นกว่าภาคหลักทั้ง 2 ภาคแทน พร้อมกับดึงเอา ไคล์ เครน (Kyle Crane) ตัวเอกจากเกมภาคแรกคัมแบ็คกลับมารับบทนำในภาคนี้อีกครั้ง ผสมผสานกับเกมเพลย์ที่นำจุดเด่นของ 2 เกมภาคหลักมาประยุกต์และปรับใช้ให้มีความลงตัวกว่าเดิมด้วย
แน่นอนครับว่าทาง Online Station ก็มีโอกาสได้ทดลองเกมนี้ที่งาน gamescom 2025 ไปหมาด ๆ ถึงประเทศเยอรมนี ส่วนตัวเกมจะควรค่าแก่การรอคอยหรือไม่ บทความพรีวิวนี้น่าจะพอช่วยเพื่อน ๆ พิจารณาได้บ้างครับ
เนื้อเรื่องของ Dying Light: The Beast จะเล่าถึงหนุ่มไคล์ที่หลบหนีออกจากที่คุมขังมาได้ โดยเจ้าตัวมีเป้าหมายคือตามไปล้างแค้นบารอน (Baron) ตัวร้ายหลักของภาคนี้ที่จับเขาไปทดลองนานถึง 13 ปีจนทำให้ร่างกายของไคล์ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป พลังที่ว่านี้มีผลทำให้เขาวิ่งหรือเคลื่อนที่ได้เร็วกว่ามนุษย์ธรรมดา และพอเค้นพลังเข้าสู่ Beast Mode ปุ๊บ ก็จะมีพละกำลังดุจช้างสารขนาดที่สามารถจัดการเหล่าซอมบี้ให้ตุยด้วยมือเปล่า หรือจะหยิบจับเอาวัตถุรอบตัวอย่างท่อนซุงมาเหวี่ยงโจมตีพวกมันเป็นกลุ่มก็ได้เช่นกัน ทว่าโหมดอสุรกายนี้จะมีระยะเวลาที่ใช้ได้จำกัด ไม่สามารถทำได้แบบพร่ำเพรื่อ
ทางด้านเกมเพลย์ที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์นี้อย่างปากัวร์ (Parkour) ก็ยังคงมีอยู่เหมือนเคย ผู้เล่นสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ในการเดินทางแบบผาดโผนภายในเมืองแคสเตอร์วู้ดส์ (Caster Woods) โลเคชั่นหลักของเกมที่โดนซอมบี้ยึดครอง โดยบางจุดก็จะมียานพาหนะให้นำมาใช้ขับสัญจรท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ดูป่าเถื่อนและชวนสิ้นหวัง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่ไคล์มีความสามารถที่เพิ่มขึ้นมาไม่ได้หมายความว่าเขาจะไปล่าล้างซอมบี้ได้แบบ Non-stop ครับ เพราะเมื่อตกกลางคืน ซอมบี้เวอร์ชั่นอัปเกรดอย่าง Volatile จะปรากฏตัวขึ้น ใครที่เคยเล่นภาคหลักมาคงพอทราบดีว่าพวกมันทั้งเก่ง อึด และโหดขนาดเราต้องร้องขอชีวิต ด้วยเหตุนี้เป้าหมายของผู้เล่นจึงยังต้องเน้นทำภารกิจและหาทางเอาตัวรอด มากกว่าจะไปมุ่งใส่เดี่ยวกับซอมบี้นั่นเอง
ตัวเกมยังมีระบบพัฒนาตัวละครที่ผู้เล่นสามารถปลดล็อคสกิลใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มทักษะให้กับไคล์ ในจำนวนนี้รวมถึงการอัปเกรดให้ไคล์โจมตีพวกซอมบี้ได้รุนแรงและท่วงท่าที่หลากหลาย และยังเล่น Co-op กับเพื่อน ๆ ได้มากถึง 4 คนพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม อาจจะเพราะว่าตัวเกมเป็นเพียงภาคเสริม ระดับโปรดักชั่นจึงน่าจะไม่ได้ทุ่มทุนอะไรนัก งานด้านกราฟิกเลยไม่ค่อยให้รู้สึกว่ามีอะไรใหม่และปรับปรุงไปจากเดิม แต่ถ้าเราลดความคาดหวังลงและมองแบบปล่อยวางว่านี่คือภาคเสริมที่เล่นให้หายคิดถึงซีรีส์นี้ มันก็พอเนรมิตความสนุกแก่เราได้พอเพลิน ๆ ซึ่งตัวเกมมีกำหนดวางขาย 19 กันยายนนี้บนแพลตฟอร์ม PC กับคอนโซลเจนปัจจุบัน ขณะที่คอนโซลเจนก่อนหน้าอย่าง PS4 กับ Xbox One คาดว่าจะจำหน่ายช่วงสิ้นปีนี้ครับ
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่นๆ ได้ที่ Online Station