พรีวิว The Outer Worlds 2 เกมแอ็คชั่น RPG ที่น่าเล่นอย่างแรง!

แชร์เรื่องนี้:
พรีวิว The Outer Worlds 2 เกมแอ็คชั่น RPG ที่น่าเล่นอย่างแรง!

จากเคยเป็นทีมพัฒนาราว 170 กว่าคนที่ทำเกมออกมาทีละเกม แต่พอมาอยู่กับ Microsoft ดูเหมือนว่า Obsidian Entertainment จะได้อัปเกรดบริษัททั้งขนาดและเงินทุน เพราะในปีนี้พวกเขาจะปล่อยเกมออกมาให้เราเล่นกันถึงสามเกม เริ่มจาก Avowed เมื่อช่วงต้นปี ตามมาด้วย Grounded 2 แบบ Early Access เมื่อไม่นานมานี้ และล่าสุดกับ The Outer Worlds 2 ในเวลาอีกประมาณสองเดือนนับจากนี้ ประกอบกับทาง Microsoft ได้ส่งตัวเกมบิลด์ล่าสุดมาให้พวกเราทดลองเล่นพอดี คลิปนี้จึงจะเป็นพรีวิวจากช่วงต้นเกมที่พวกเราได้ลองเล่นด้วยตัวเอง ประกอบกับข้อมูลอย่างเป็นทางการและฟุตเทจบางส่วนที่ทาง Obsidian เป็นผู้ออกมาเปิดเผยด้วยตัวเอง

The Outer Worlds 2

ขณะที่เนื้อเรื่องของ The Outer Worlds ภาคแรกจะเกิดขึ้นในอาณานิคม Halcyon (ฮาลซีออน) เรื่องราวของเกมภาค 2 นี้จะย้ายมาบอกเล่ากันในอาณานิคม Arcadia (อาร์เคเดีย) ที่อยู่ ๆ การเดินทางข้ามกาแล็กซีที่นั่นก็ทำให้เกิดรอยแยกบนอวกาศขึ้นมา ตัวเราในฐานะเจ้าหน้าที่ของ Earth Directorate (เอิร์ธ ไดเรกเทอเรต) ผู้ดูแลความสงบสุขในทุกอาณานิคมของโลก จึงต้องออกเดินทางไปยัง Arcadia เพื่อสืบหาสาเหตุ และจัดการความไม่สงบสุขต่าง ๆ ในอาณานิคมให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้

The Outer Worlds 2

สิ่งแรกที่เรารู้สึกว่าตัวเกมจะต่างออกไปจากภาคแรกก็คือ การสร้างตัวละครในภาคนี้เราไม่จำเป็นต้องมานั่งอ่านทำความเข้าใจกับค่าสถานะต่าง ๆ ทางร่างกายก่อนที่จะแบ่งแต้มให้เข้ากับสายการเล่นในอนาคตที่เราคิดไว้ในหัวอีกแล้ว คราวนี้เราก็แค่เลือกปูมหลังของตัวละครว่าเป็นใครมาจากไหน, เลือกลักษณะเฉพาะว่าเป็นคนยังไง, เลือกทักษะว่าชำนาญด้านไหน แค่นี้ก็เพียงพอแล้วในการสร้างตัวละครเพื่อเริ่มเกมใหม่ เว้นแต่คุณจะเป็นสายแต่งรูปลักษณ์ตัวละครจนกว่าจะพอใจ เพราะพรีเซตที่เกมมีมาให้มันอาจไม่โดนใจ แม้เราจะปรับรูปร่างของตัวละครไม่ได้ แต่อย่างน้อยเราก็ยังเลือกเพศได้ และสามารถปรับแต่งหน้าตาได้ตามใจชอบพอสมควร

The Outer Worlds 2

การที่เกมเริ่มมาให้เราอยู่ในยานของตัวเอง ตามมาด้วยสถานีอวกาศซึ่งเป็นพื้นที่จำกัด ทำให้การเรียนรู้พื้นฐานต่าง ๆ ของเกมเป็นไปได้อย่างราบรื่น และเข้าใจง่าย ปูมหลังที่เราเลือกมาจะมีผลต่อบทพูดของ NPC เวลาที่คุยกับเรา รวมถึงลักษณะเฉพาะและทักษะที่เราเลือกมาก็จะทำให้เรามีทางเลือกในการเล่น รวมถึงทางเลือกในการโต้ตอบบทสนทนากับ NPC ในแบบที่นำเสนอความเป็นตัวเราได้ดี มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่สถานการณ์ อย่างถ้าเราเลือกปูมหลังเป็นศาสตราจารย์ เราก็จะฉลาดในแง่ของวิชาการ เข้าใจสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์มากกว่าคนทั่วไป, ถ้าเลือกปูมหลังเป็นแรงงานชั้นต่ำก็อาจโดนคนพูดจาดูถูก, หรือถ้าเลือกปูมหลังเป็นผู้รักษากฎหมาย เราก็จะเป็นที่ไว้วางใจของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน ทำให้การสวมบทบาทในเกม RPG แบบนี้มีอรรถรสมากขึ้น

The Outer Worlds 2

เช่นเดียวกับการเลือกลักษณะเฉพาะ หรือ Trait ว่าเราเป็นคนยังไง อย่างถ้าเลือกเป็นคนพูดเพราะ คุณก็อาจได้ส่วนลดเวลาไปซื้อของ หรือเอาตัวรอดจากคดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ด้วยคำพูด หรือถ้าเลือกเป็นคนดวงดี คุณก็มีโอกาสโจมตีติด Critical มากขึ้น แถมบางทีกดรหัสคอมพิวเตอร์มั่ว ๆ ก็ถูกได้ เป็นต้น แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเลือกลักษณะเฉพาะถึงสองข้อ เกมก็จะบังคับให้เราเลือกลักษณะเฉพาะด้านลบอีกหนึ่งข้อทันที อย่างเช่นเลือกเป็นคนอ่อนแอที่พลังชีวิตน้อยกว่าปกติ หรือเป็นคนโง่ที่จะถูกบังคับไม่ให้อัปทักษะบางอย่าง ประกอบกับระบบข้อเสีย หรือ Flaw ในภาคนี้ก็ถูกปรับปรุงให้น่าสนใจ และดูเหมือนจะมีส่วนกับการสร้างบิลด์ตัวละครมากขึ้นด้วย มันทำให้เรารู้สึกว่า ไม่ว่าจะเป็นลักษณะเฉพาะแง่บวก แง่ลบ หรือจุดอ่อน ถ้าเราเลือกผสมผสานกันให้ดี มันก็อาจจะเป็นประโยชน์กับแนวทางในการเล่นของเรามากกว่าเดิมก็ได้

The Outer Worlds 2

จากที่เคยเป็นแค่ข้อเสียที่เราไม่ค่อยอยากจะมีติดตัวในภาคแรก ระบบ Flaw ในภาคนี้กลับดูน่าสนุกกว่าที่เคย และมันทำให้เราอยากเปิดรับข้อเสียต่าง ๆ เข้ามาในการเล่นมากขึ้น อย่างเช่นข้อเสีย Bad Knees ที่การย่องนาน ๆ จะทำให้เข่าคุณลั่นเวลายืนขึ้น ซึ่งเสียงเข่าลั่นอาจทำให้ศัตรูแถวนั้นได้ยินจนคุณ Stealth แตก แต่ถ้าคุณเปิดรับข้อเสียนี้ มันก็จะทำให้คุณย่องได้เร็วกว่าเดิม, หรือถ้าคุณเป็นคนที่ชอบกด Skip เพื่อข้ามบทสนทนาบ่อย ๆ เกมก็จะส่งข้อเสีย Foot-in-Mouth Syndrome มาให้คุณเลือกรับ ซึ่งมันจะทำให้คุณมีเวลาเลือกคำตอบในบทสนทนาแค่ 15 วินาที ก่อนที่ตัวเกมจะสุ่มเลือกให้คุณโดยไม่สนหลักการใด ๆ ทั้งสิ้น แต่คุณก็จะได้ค่าประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นไปทั้งเกมนะ, หรือแม้แต่ข้อเสียสุดพิสดารอย่าง Sungazer ที่เกิดจากการชอบแหงนมองดวงอาทิตย์บ่อย ๆ ก็จะทำให้ตาคุณพร่า ยิงปืนก็ส่ายกว่าปกติ แต่เวลาอยู่กลางแจ้ง พลังชีวิตของคุณก็จะฟื้นอัตโนมัติได้ครึ่งนึงนะ นอกจากอย่างที่เราบอกว่ามันจะมีส่วนช่วยในการสร้างบิลด์ตัวละครแล้ว บางทีมันก็ทำให้เราประหลาดใจปนนึกขำไปด้วยว่า พี่คิดข้อเสียพวกนี้ออกมาได้ยังไง

The Outer Worlds 2

ระบบต่อสู้ของเกมก็ดูจะมีความหลากหลายมากขึ้น อย่างความสามารถในการชะลอเวลา หรือ Tactical Time Dilation (แทกติคัล ไทม์ ไดเลชั่น) ก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นอุปกรณ์ให้เลือกใช้ แต่ก็ยังมีเกจจำกัดการใช้งานอยู่ ซึ่งตัวเกมก็จะมีอุปกรณ์อื่น ๆ มาให้สลับกันใช้ด้วย อย่างเช่นโล่กันไฟที่จะมีประโยชน์ทั้งในการต่อสู้และการสำรวจพื้นที่ หรือหน้ากากเอ็กซ์เรย์ที่จะเผยให้เห็นตำแหน่งของศัตรูหลังกำแพง รวมถึงเห็นกลไกต่าง ๆ ที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการแก้ปริศนาตามทาง ตลอดจนปืนชนิดต่าง ๆ ก็จะสามารถติดม็อดเพื่อปรับแต่งให้เข้ากับสไตล์การเล่นของเราได้ นอกจากนี้ ทีมงาน Obsidian ยังบอกด้วยว่า ปืนแต่ละชนิดในภาคนี้จะมีท่าทางในการรีโหลดที่แตกต่างกันไป ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแม็กกาซีนเฉย ๆ เหมือนที่เคย ทั้งนี้เพราะพวกเขาอยากให้ผู้เล่นรู้สึกว่าปืนแต่ละกระบอกแตกต่างกันทั้งแนวทางการใช้และความรู้สึกระหว่างการใช้ไปในตัว

The Outer Worlds 2

ข่าวดีสำหรับใครที่ไม่ค่อยชอบมุมมองบุคคลที่หนึ่งในภาคแรก ข่าวดีก็คือคราวนี้เราสามารถปรับมุมกล้องได้สามแบบ คือแบบบุคคลที่หนึ่งตามเดิม แบบบุคคลที่สามระยะใกล้ และบุคคลที่สามระยะไกล แม้เราจะรู้สึกว่าท่าทางการเคลื่อนไหวในมุมมองบุคคลที่สามอาจจะยังดูแข็ง ๆ อยู่บ้างก็ตาม และจากการทดสอบบน PC เราพบว่าตัวเกมรองรับหน้าจอ Ultrawide เป็นอย่างดี เกมเพลย์เห็นเต็มจอ อินเตอร์เฟซสเกลตามความละเอียด ส่วนคัตซีนที่เป็น CG แบบ 16:9 ก็ถูกล็อกให้อยู่ตรงกลางจอ ไม่มีการซูมจนเกินขอบเหมือนบางเกม ตลอดจนจอย PS5 ก็สามารถใช้เล่นได้ตามปกติ เพียงแค่ปุ่มต่าง ๆ จะถูกแสดงเป็นของ Xbox เท่านั้น

The Outer Worlds 2

สุดท้ายนี้ต้องขอย้ำกันอีกทีว่า เนื้อหาของ The Outer Worlds 2 ที่เราได้ทดลองเล่นยังอยู่ในช่วงต้นเกมเท่านั้น มุมมองต่อสิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวไปในข้างต้นของพวกเราอาจเปลี่ยนไปจากนี้ก็ได้เมื่อได้เล่นเกมเวอร์ชั่นสมบูรณ์ที่กำลังจะออกวางจำหน่ายทั้งบน PC, PS5, Xbox Series X และ S ในวันที่ 29 ตุลาคมนี้

The Outer Worlds 2

บทความโดย อาร์ม @Pirawits
 


ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่นๆ ได้ที่ Online Station

แชร์เรื่องนี้:
Jack Vai
About the Author

Jack Vai

กองบรรณาธิการ Online Station ที่ชื่นชอบเกมแนว Action RPG

เรื่องที่คุณอาจสนใจ