ดูเหมือนว่าประเด็นเรื่องการเซ็นเซอร์จะกลับมาร้อนแรงในวงการเกมอีกครั้ง เมื่อล่าสุดบริษัทบัตรเครดิตจากชาติตะวันตกหลายแห่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากปฏิเสธการชำระเงินสำหรับคอนเทนต์ผู้ใหญ่ที่ถูกกฎหมาย โดยเฉพาะในแวดวงเกมและการ์ตูนมังงะ และบีบให้แพลตฟอร์มร้านค้าเกมเช่น Steam และ Itch.io ปฏิเสธเกมบางประเภทที่บริษัทเหล่านี้ไม่ต้องการ ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้คนจำนวนมาก รวมถึงนักพัฒนาเกมชื่อดังที่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ด้วย
หนึ่งในนั้นคือคุณ Yoko Taro ผู้กำกับและสร้างสรรค์เกมซีรีส์ NieR ที่ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้อย่างเผ็ดร้อน โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวไม่ใช่แค่การขัดขวางเสรีภาพในการแสดงออกเท่านั้น แต่ผู้ให้บริการชำระเงินไม่ควรมีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องแบบนี้ ซึ่งหลังจากที่ Manga Library Z เว็บไซต์คลังมังงะต้องปิดตัวลงด้วยเหตุผลคล้าย ๆ กัน ประเด็นนี้ก็ยิ่งน่าเป็นห่วงมากขึ้น
โดยคุณ Yoko Taro ได้แสดงความกังวลผ่าน X (ทวิตเตอร์) ของเขาว่า "นี่ไม่ใช่แค่เรื่องกฎระเบียบของคอนเทนต์สำหรับผู้ใหญ่หรือเสรีภาพในการแสดงออกเท่านั้น แต่มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่ส่งผลกระทบต่อระบอบประชาธิปไตยโดยรวม"
ในโพสต์ก่อนหน้านี้ เขายังได้ขยายความเพิ่มเติมว่า แม้การมีกฎระเบียบที่เกินขอบเขตกฎหมายจะเคยเกิดขึ้นในแวดวงการตีพิมพ์มาก่อน แต่เขารู้สึกว่ามันเป็น "อันตรายในระดับที่แตกต่างออกไป" เมื่อการตัดสินใจมาจากบริษัทรับชำระเงิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานการจัดจำหน่ายทั้งหมด และยังทิ้งคำเตือนไว้อย่างน่ากังวลว่า หากผู้ให้บริการชำระเงินเหล่านี้ถูกควบคุม ก็อาจกลายเป็นเครื่องมือที่ถูกนำไปใช้ในการ "ควบคุมการแสดงออกในประเทศอื่น ๆ" ได้ด้วย
ซึ่งดูเหมือนว่าแฟน ๆ ส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับคุณ Taro และไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว โดยกรณีล่าสุดของ Manga Library Z ซึ่งเป็นบริษัทที่เก็บรักษามังงะมานานกว่า 14 ปี ก็ต้องปิดตัวลงด้วยเหตุผลเดียวกันนี้เอง
ในช่วงที่ผ่านมา ประเด็นนี้ทำให้นักพัฒนาและแฟน ๆ ต่างผิดหวังกับการเคลื่อนไหวของบริษัทบัตรเครดิต และมองว่าควรมีการทบทวนนโยบายนี้ใหม่ และบางคนก็ย้ำเตือนว่าแม้นโยบายการแบนเกมผู้ใหญ่ของบริษัทบัตรเครดิตในขณะนี้ยังจำกัดอยู่แค่เกมบางประเภทในปัจจุบัน แต่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าแพลตฟอร์มอย่าง Steam นั้นสามารถถูกกดดันและควบคุมอำนาจในการตัดสินใจ ให้ต้องเอาใจนโยบายของบริษัทบัตรเครดิตเป็นหลักได้ ซึ่งนโยบายนอกจากจะคลุมเครือแล้วยังอาจเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ทุกเมื่อ
ดังนั้นจึงมีคำเตือนว่าไม่แน่ เกมในอนาคตที่อาจถูกแบน อาจจะเป็น "ซีรีส์เกมที่เรารัก" ก็ได้ หากขาใหญ่ทางการเงินถูกนักเคลื่อนไหวกดดัน ให้เพิ่มรายชื่อ "สิ่งไม่พึงประสงค์" อีกในอนาคต
แปลและเรียบเรียงจาก
Tech4Gamers
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่นๆ ได้ที่ Online Station
