ชื่อของ Love Love Mystery Club อาจจะยังไม่ใช่อะไรที่เกมเมอร์หลายๆ คนคุ้นหูหรือคลายคิ้วที่ขมวดลงได้เมื่อได้ยินมันนัก แต่หากบอกว่ามันคือเกมจีบสาวที่ผู้สร้าง Home Sweet Home จับมือกับผู้กำกับซีรีส์ KinnPorsche และมีน้องขมิ้นอดีตไอดอล BNK48 เป็นหนึ่งในตัวเอก ก็คงจะมีคนร้องอ๋อแล้วทุบฝ่ามือตัวเองด้วยความเก็ตมากขึ้นอยู่บ้าง เพราะตอนปล่อยภาพฟิตติ้งแรก ก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาแล้วความตื่นตัวได้มากพอสมควร
ทาง Online Station เองก็แอบสนใจในโปรเจ็กต์นี้อยู่ไม่น้อย เพราะดูท่าว่านี่จะเป็นเกมจีบสาวแนว Full motion interactive video เกมแรกของไทย ทั้งยิ่งดูเครดิตผู้เข้าชื่ออยู่ในเกมก็ยิ่งน่าสนใจมากขึ้น จนต้องขอบุกกองถ่ายในโลเคชั่นย่านศาลายาเข้ามาพูดคุยกับผู้กำกับเกมอย่าง คุณบัญชร วรเศรษฐ์อารี หรือ "พี่เป๊บซี่" ซึ่งเคยเป็นผู้กำกับร่วมของซีรีส์วายระดับแนวหน้าของไทย KinnPorsche The Series แถมโชคดีเบิ้ลอีกต่อเพราะเจ้าของโปรเจ็กต์อย่าง คุณศรุต ทับลอย หรือ "พี่แซ็ค" ที่เราๆ รู้จักกันดี ก็อยู่ที่กองถ่ายวันนั้นพอดี ก็เลยจับมานั่งคุยรวมกันซะเลย
โดยในทีแรกผมเข้าใจไปว่าพี่เป็บซี่เป็นผู้กำกับส่วนพี่แซ็คเป็นโปรดิวเซอร์ ซึ่งเอาเข้าจริงก็ถูกครึ่งหนึ่ง จะผิดตรงที่พี่แซ็คไม่ใช่โปรดิวเซอร์แต่เป็นทั้งเจ้าของโปรเจ็กต์และผู้ออกทุนหลักของเกมนี้ด้วยครับ แกเล่าให้ฟังว่าในความเป็นจริงแล้วเกม Love Love Mystery Club มีจุดเริ่มต้นที่เรียบง่ายกว่าที่หลายคนคิด
"ผมเพิ่งมาสังเกตุว่าช่วงหลังๆ มานี้มีเกมแนว Full motion interactive video โผล่มาให้เล่นเยอะมาก แล้วส่วนใหญ่ก็จะเป็นเกมจีน มีเกาหลีแซมมาหน่อยๆ แต่ก็รู้จักจากเกมเกาหลีนี่แหละ แล้วตัวเราเองก็รู้สึกว่าทำไม หลายๆ เกมเนื้อเรื่องมันไม่สนุกเลยวะ (หัวเราะ) คือเกมจะขายอึ๋มอย่างเดียวเลย แล้วเราที่อยู่ในวงการเบื้องหลังเคยทำหนังมาบ้าง ก็เลยรู้สึกว่าอยากลองทำเองดูสักตั้ง"
ซึ่งนั่นเป็นสารตั้งต้นว่าอยากเริ่มโปรเจ็กต์โดยที่ต้องการให้เกมแนว Full motion interactive video มีความเป็นคอนเทนต์ไทยๆ อยู่ด้วย เพราะแกก็รู้สึกเช่นกันว่าในช่วงหลังคอนเทนต์ของไทยโดยเฉพาะซีรีส์กับภาพยนตร์ สามารถออกไปลุยกับตลาดสากลได้อยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะกับสายวายที่ค่อนข้างโดดเด่นยิ่งกว่าสายอื่นๆ แต่ด้วยความที่อาจจะยังไม่กล้าลองเสี่ยงขนาดนั้น พี่แซ็คเลยขอทดสายวายไว้ในใจแล้วเริ่มจากสิ่งที่เป็นพื้นฐานสุดๆ ก่อนดีกว่า เพื่อจะเรียนรู้ในหลายๆ เรื่อง จนมาลงเอยที่คอนเทนต์เกมจีบสาวที่มีเรื่องผีๆ ลี้ลับมาเพิ่มเป็นจุดขาย
ทางพี่แซ็คเองก็ยอมรับตรงๆ ว่าอยากพาคอนเทนต์ไทยไปบุกตลาดสากลและตลาดจีน ดังนั้นการเลือกธีมที่พวกเขาสามารถเก็ตได้ง่ายๆ ด้วยก็จะเพิ่มโอกาสในการสร้างชื่อหรือทำเงินมากกว่า ซึ่งถ้าหากสามารถตามรอยคอนเทนต์ไทยอื่นๆ ที่ประสบความสำเร็จได้ แกก็อยากจะทำอะไรที่สเกลใหญ่ขึ้นเพื่อมาสู้กับคอนเทนต์จีนตรงๆ เหมือนกัน
"พี่เจอกับพี่แซ็คในงานที่มหาวิทยาลัย เพราะพี่แซ็คเป็นวิทยากรในคลาส แล้วเขาดังมาจากสายเกม"
พี่เป็บซี่ผู้กำกับของเกมเริ่มเล่าถึงช่วงที่ได้เจอกับพี่แซ็คหลังจากที่พี่แซ็คเฉลยมาว่าตัวแกเองกับพี่เป็บซี่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องมหาวิทยาลัยเดียวกัน
"ส่วนตัวพี่เองพอเรียนจบก็มาทำหนังทำซีรีส์ แล้วก็ด้วยจังหวะที่ดีตัวซีรีส์ก็เลยดังในต่างประเทศ ซึ่งต้องยอมรับว่าดังมากกว่าในไทยอีก ทีนี้ตอนที่โดนพี่แซ็คชวน ก็คือยังไม่เก็ตในทีแรกว่าการทำเกมคืออะไร เพราะว่ามันดูห่างไกลจากเรามาก แบบว่าคนละสายกันสิ้นเชิง แต่พี่แซ็คก็ตื๊ออยู่นั่นแหละว่าให้มาทำเลย มันคล้ายๆ ซีรีส์ เป็นแบบคนเล่นจริงๆ เดี๋ยวเรื่องอื่นๆ ในพาร์ทที่เป็นเกมแกจะจัดการเอง พอฟังภาพรวมก็รู้สึกว่าว้าวมาก พี่เลยตอบตกลง"
พี่เป็บซี่ยังเล่าขำๆ เพิ่มเติมว่าประโยคเด็ดคิลลิ่งพาร์ทที่ทำให้แกตัดสินใจเอาด้วยคือการที่พี่แซ็คเข้ามาบอกว่า "มาทำสิ่งใหม่ร่วมกัน แถมยังเป็นคนแรกของประเทศไทย" ก็เลยคล้อยตามเอาง่ายๆ
"แต่พี่ก็ยอมรับนะว่าช่วงแรกๆ ยังไม่เข้าใจจริงๆ จนเผลอคิดไปว่า 'เราจะทำเชี่ยอะไรกันนะ?' เพราะพอเราเป็นฟากของคนริเริ่ม ไอ้การ 'เป็นคนแรกของไทย' นี่แหละที่ทำให้เราจินตนาการภาพได้ยากมาก การถ่ายคนมาทำเป็นเกม จะถามใครก็ไม่ได้ไม่มีใครรู้เลย"
จังหวะที่พี่เป็บซี่กำลังตั้งคำถามว่าหรือควรถอดใจดีก็มีพี่แซ็คเข้ามาพยายามช่วยเหลือเข้ามาคุย พร้อมเอาตัวอย่างเกมของต่างประเทศมาให้ลอง ประกฎว่าในมุมของคนที่เคยผ่านงานหนังหรือซีรีส์มาแล้วก็เห็นตรงกันว่ามันไม่ได้สนุกเท่าไหร่
"แล้วพี่แซ็คก็พูดขึ้นมาว่า 'เราจะทำให้สนุกกว่านั้น' เท่านั้นแหละเรียบร้อยเลย (หัวเราะ) ก็เลยตัดสินใจลุยกันต่อ เพราะส่วนหนึ่งเราเองก็ไม่ได้รู้สึกแค่ว่าจะได้เป็นคนกลุ่มแรกของประเทศไทยเท่านั้น แต่เราเชื่อจริงๆ ว่าประเทศไทยเราสามารถทำสิ่งนี้ให้ดีกว่าได้"
ตอนที่คุยถึงตรงนี้ผมรู้สึกว่าทั้งคู่นั้นมุ่งมั่น ตั้งใจ และมั่นใจกับงานตัวเองมากๆ จริงๆ เพราะแม้ว่าจะต้องลองผิดลองถูกกันอยู่เยอะ แต่น้ำเสียงในการพูดหรือแววตาของทั้งพี่แซ็คและพี่เป็บซี่นั้นไม่มีความลังเลใดๆ ดูจะมั่นใจในไดเรคชั่นของเกมตัวเองมากๆ โดยเฉพาะพี่เป็บซี่ที่คุยในพาร์ทงานตัวเองได้อย่างเอร็ดอร่อยเมามันส์สุดๆ
แต่ก็ไม่น่าแปลกใจที่ทุกอย่างมันออกมาอีหรอบนี เพราะตัวพี่แซ็คเองก็เน้นย้ำสำทับความต้องการของตัวเองที่อยากจะให้เกมอินเตอร์แอคทีฟของไทยไปได้ไกลในเวทีสากล และอยากเป็นคนที่สามารถปักหมุดพร้อมกรุยทางให้ผู้พัฒนาชาวไทยได้ส่งผลงานออกสู่สากลด้วยความมั่นใจที่มากขึ้น
ทั้งนี้แม้จะมีหลายโปรเจ็กต์แต่ Love Love Mystery Club คือเกมที่ถูกทุ่มทุนมากที่สุด เพราะแกเชื่อว่าคอนเทนต์ผีไทยนั้นสากลพอจะเอามาผสมกับเกมแนวจีบสาวได้ลงตัว อีกทั้งยังพอจะเห็นช่องว่างในการขายอยู่มาก
แต่แค่ความมั่นใจของคนออกเงินกับผู้กำกับก็อาจจะยังไม่เพียงพอ พี่เป็บซี่บอกว่าคนเขียนบทของเกมนี้ก็เป็นเกมเมอร์ และเป็นเกมเมอร์ที่เล่นเกมแนวจีบสาวมาเยอะพอดู เลยคิดว่าน่าจะเลือกมาถูกคนแล้ว
"ตอนที่เราคุยกับคนเขียนบทพอถามเขาว่าเคยเล่นเกมจีบสาวมั๊ย เจ้าตัวก็บอกว่าเคยแล้วยิ้มคิกคักอยู่คนเดียว เราก็มั่นใจว่าเลือกไม่ผิดแล้ว"
พี่เป็บซี่เล่าถึงคนเขียนขณะที่หัวเราะไปด้วย
"เริ่มแรกเราให้เขาเขียนมา 4-5 พล็อตมาเผื่อเลือก ก็มีหลายแนวเลยแต่สุดท้ายเราก็เลือกผี คือมันทำยากสุดเลยนะ แต่ในทางกลับกันก็น่าสนใจที่สุดด้วย"
"จริงๆ คือพี่ปักธงไว้อยู่แล้ว (หัวเราะ) เพราะเรื่องราวลี้ลับมันช่วยดึงดูดให้ผู้เล่นอยากติดตามเกมต่อไป แล้วมันชัดเจนมากว่านี่แหละคือก้อนที่เราต้องเลือกทำ นอกจากวัตถุดิบที่เข้าท่าที่สุดแล้ว ยังน่าจะเป็นพ็อยต์ที่ช่วยเปิดประตูสู่ต่างชาติได้ดีที่สุดด้วย"
พี่แซ็คพูดเสริมขึ้นมา
"ใจจริงผมมองว่าอยากให้เป็นเกมวายจีบหนุ่มมากกว่าเกมจีบสาว แต่รู้สึกว่ามันอาจจะข้ามไปสักหน่อย เหมือนเรายังไม่ได้เรียนรู้ตลาดหรือเรื่องพื้นฐานของเกมแนวนี้เลย ก็เลยเลือกมาทำจีบสาวก่อน เพื่อให้พื้นฐานของเราแน่นขึ้น แล้วจากนั้นจะไปจีบหนุ่มหรือต่อยอดไปทำแนวอื่นรึเปล่าก็เดี๋ยวค่อยว่ากัน แม้ว่าจริงๆ แล้วในเกมนี้ เราก็ได้ใส่กลิ่นของการพัฒนาเกมไปในทางอื่นอยู่บ้างแล้ว แต่ขอยังไม่กระโดดข้ามก็แล้วกัน ค่อยๆ ทำไปน่าจะดีกว่า"
พี่แซ็คทิ้งท้ายในประเด็นนี้ว่ายังอยากทำไอเดียในหัวอีกหลายๆ อันให้เป็นเรื่องจริงขึ้นมาและพามันไปลุยเวทีโลก เพราะงั้นการสนับสนุนในอุตสาหกรรมนี้จึงสำคัญ ไม่ใช่แค่เพื่อเกมของแกเอง แต่เพื่อภาพรวมของวงการที่จะเติบโตและเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นนั่นเอง
ทีนี้ผมลองเปลี่ยนมาคุยเรื่องของโปรดักชั่นบ้าง พอผู้กำกับมาจากสายซีรีส์การนำศาสตร์ที่ตัวเองถนัดมาใช้กำกับเกมมันมีความยากง่ายอย่างไรบ้าง พี่เป็บซี่ให้คำตอบว่าต่างพอสมควร ในแง่หนึ่งจะเป็นเรื่องของมุมกล้องที่หากถ่ายทำซีรีส์ก็จะมีการนำฟุตเทจจากหลายๆ กล้องไปตัดสลับในการเล่าเรื่องได้ แต่พอเป็นเกมวิธีการถ่ายทำคือกล้องจะเป็นมุมมองผ่านสายตาของผู้เล่นเป็นหลัก ซึ่งมันทำให้กระบวนการคิดหรือกรรมวิธีทั้งหลายแตกต่างไปจากการถ่ายซีรีส์โดยสิ้นเชิง เพราะการถ่ายทำเป็นเกมมันจะซื่อตรงกับผู้เล่นมากกว่าซีรีส์ที่สามารถเล่นเรื่องทริคหลายๆ อย่างได้ แถมต้องทำให้มันสนุกด้วย ก็เลยเป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ เนื่องจากพื้นฐานของวิธีคิดในการกำกับคือต้องแทนตัวเองเป็นคนเล่นแบบไปเลย อีกทั้งความยากในบางส่วนมันก็มาตั้งแต่บท เพราะการเป็นเกมที่มีทางเลือกให้ผู้เล่นมันจึงต้องคิดหลายๆ ซีเควนซ์ไว้เพิ่มเติมด้วย เพื่อให้รองรับกับบทเกมที่มีหลายเส้นทาง
"เรื่องของนักแสดงก็มีส่วน"
พี่เป็บซี่ยังพูดต่อ
"พื้นฐานของการแสดงมักจะสอนว่านักแสดงไม่ควรมองกล้อง แต่การเป็นเกมกลับกลายเป็นว่ากล้องก็คือนักแสดงอีกคน นักแสดงจึงจำเป็นต้องมองกล้องอยู่ตลอด บางคนก็จะแบบสับสนอยู่สักหน่อยว่าต้องมองกล้องไหมทั้งๆ ที่ก็ทำถูกแล้ว หรือบางครั้งที่ทำถูกแล้วก็ดันสะดุ้งขึ้นมาว่าแบบนี้ถูกรึเปล่า? หลายๆ ครั้งก็กลายเป็นยืนคุยกับคนหลังกล้องก็มี เลยต้องปรับตัวกันไม่ว่าจะทั้งทีมงานหรือนักแสดงเอง คือเราถ่ายทำกันด้วยก็เรียนรู้ไปพร้อมๆ กันด้วยแบบนี้ มันมีเรื่องใหม่ให้ได้เรียนรู้แทบจะทุกคิวจริงๆ"
จุดนี้ดูเหมือนว่าน้องนางเอกบางคนที่มาจากสายนักแสดงเลยก็มีพูดถึงเหมือนกันครับกับการต้องมองกล้องอยู่ตลอด ซึ่งแน่นอนว่าผมไปถึงกองถ่ายจะไม่ได้คุยกับเหล่านางเอกเกมเลยก็กระไรอยู่ เดี๋ยวเรามีคอนเทนต์ตามมาแน่นอนหลังจากนี้ ติดตามกันให้ดี แต่ตอนนี้เรายังคุยกับคนใหญ่คนโตของกองนี้กันอยู่ครับ
มาเข้าเรื่องของนักแสดงกันบ้างดีกว่า พี่เป็บซี่บอกว่าการแคสติ้งนักแสดงสำคัญที่สุดคือต้องเหมาะกับตัวละครที่มีในเกม แต่สำคัญที่สุดคือคาแรคเตอร์ต้องเป๊ะสุดๆ และเพราะแบบนั้นเวลาที่ตัดสินใจจะเลือกใครก็เลยต้องแลกมาด้วยหลายๆ อย่าง เพราะใช่ว่าทุกๆ คนจะถึงพร้อม เช่นว่าน้องคนหนึ่งคาแรคเตอร์เป๊ะมากแต่สกิลการแสดงอาจจะไม่ถึง หรือบางคนการแสดงดี แต่ยังขาดบางอย่างอยู่ ทางกองก็ต้องพยายามช่วยๆ กันตบๆ ให้เข้าที่ เพราะสุดท้ายแล้วก็อย่างที่ระบุไป ด้วยความเป็นเกมอินเตอร์แอคทีฟ คาแรคเตอร์ที่ตรงและโดดเด่นมันจึงสำคัญมากที่สุด
"แต่สุดท้ายแล้วเราก็มั่นใจว่าเราได้น้องๆ ที่น่ารักมาเล่น ทั้งเหมาะกับตัวละครและไปด้วยกันได้"
พี่เป็บซี่กล่าวปิดท้ายเรื่องนักแสดง ในขณะที่มีนางเอก 3 คนนั่งพักอยู่ในห้องอัดบทสัมภาษณ์กันอย่างพร้อมเพรียง จนโดนแซวกันไปตามระเบียบ
ทั้งนี้ Love Love Mystery Club เป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องมาในแนว School's tale story หรือเรื่องเล่าในรั้วโรงเรียน ที่ไม่ว่าจะในไทยหรือสากลก็สามารถเข้าใจกันได้ง่ายๆ เพราะคอนเซปต์หลักๆ ก็คือทุกโรงเรียนย่อมมีเรื่องเล่าเป็นของตัวเอง แค่ว่าจะเป็นแบบไหนหรือถูกพูดถึงในมุมใดบ้างเท่านั้นเอง โดยทั้งพี่แซ็คและพี่เป็บซี่ต่างก็ประสานเสียงกันว่าเกมจะเน้นเนื้อเรื่องเอามากๆ และจะไม่ได้พยายามขายเซ็กซี่แบบหลายๆ เกมในตลาด เพราะทีมงานหลายๆ คนมาจากสายหนังสายซีรีส์เลยรู้สึกว่าในส่วนของเรื่องราวที่เกมต้องการจะนำเสนอมันต้องแข็งแรงเป็นอันดับแรก ซึ่งนั่นจะเป็นโอกาสในการแทรกเข้าไปยืนหรือถมเต็มช่องว่างในตลาดเกมแนวนี้นั่นเอง
ขณะที่นางเอกทั้ง 6 คนของเกมก็จะมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป ทุกๆ คนจะได้รับเส้นเรื่องที่น่าสนใจ ให้ผู้เล่นได้ตัดสินใจเลือกว่าจะไปในทางไหน หรือเอนเอียงไปฝั่งใคร จุดนี้ก็เป็นเรื่องของรสนิยมและการตัดสินใจของผู้เล่นเอง ทว่าในฟากของโปรดักชั่น ก็ต้องทำงานกันอย่างขมักเขม้นในการดึงสเน่ห์ของตัวละครสาวๆ ออกมาในการจะชักจูงหรือส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้เล่นอยู่ในที
"ไม่ว่าจะเพศไหนในทุกๆ ความสัมพันธ์มีเรื่องที่เหมือนกันคือความเป็นมนุษย์"
เพราะความเป็นผู้กำกับสายวายมาก่อน ผมจึงถามพี่เป็บซี่ถึงความต่างในการดีงเสน่ห์ระหว่างตัวละครผู้ชายกับตัวละครผู้หญิง ซึ่งแกก็สายหน้ากลับมาว่าในเรื่องนี้มันมีความเหมือนกันมากกว่าที่ผมคิด
"ความเป็นมนุษย์คือความเหมือนที่ในแง่ของคอนเซ็ปต์กับวิธีคิดนั้นมันไม่ได้ต่างกันมากมาย แต่เราก็ต้องย้ำว่าสิ่งที่พี่หรือทีมงานทำอยู่คือการดึงเสน่ห์ของ 'ตัวละคร' ไม่ใช่น้องๆ 'นักแสดง' ต้องเข้าใจตรงนี้ก่อน เพราะนักแสดงจะถูกเซ็ตให้เป็นตัวละครที่เราอยากให้เป็นอยู่แล้ว มันมีบทที่ถูกเขียนขึ้นมา มีทางถูกปูไว้ ดังนั้นในการบรีฟนักแสดงเราจึงคำนึงถึงการดึงเสน่ห์ออกมาจากคาแรคเตอร์ตัวละครกับบทมากกว่าความดึงดูดส่วนตัวของนักแสดง สุดท้ายจึงวนกลับมาที่ความเป็นมนุษย์ เมื่อตัวละครคาแรคเตอร์ต่างกัน มันจึงเกิดเสน่ห์คนละแบบ เราต้องพยายามให้น้องเป็นตัวละครเหล่านั้น แต่บางคนก็สามารถให้ได้เยอะกว่า ซึ่งส่วนนี้อยากให้ลองไปพบเจอกันเอาเอง เพราะเรื่องแบบนี้มันอธิบายเป็นคนพูดได้ลำบากอยู่เหมือนกัน"
ในช่วงสุดท้ายผมพยายามถามว่าตัวเกมจะวางจำหน่ายเมื่อไหร่ ทางพี่แซ็คก็บอกว่าในปีนี้แหละอาจจะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพราะแกยอมรับว่าลงทุนไปเยอะเหมือนกัน หากสามารถปล่อยเกมที่เสร็จแล้วได้ไวเพื่อนำยอดขายมาหมุนสำหรับโปรเจ็กต์หน้าก็เป็นเรื่องที่พึงกระทำ เพราะอย่างที่แกย้ำมาหลายรอบว่าแกมีโปรเจกต์ในมือมากมาย และแม้จะโฟกัสกับ Love Love Mystery Club เป็นหลักในเวลานี้ แต่ก็ยังมีอีก 2 โปรเจ็กต์ที่กำลังทำอยู่ควบคู่กันไป และไอเดียอีกจำนวนหนึ่งก็เริ่มคุยๆ ไปบ้างแล้ว และแม้จะมีความทะเยอทะยานในการทำเกมไทยสู่ตลาดโลก แต่แกก็ยอมรับว่าอาจจะต้องใช้เวลา ทั้งในแง่ของการเรียนรู้ แก้ไข การเผชิญกับปัญหาต่างๆ และการแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้น รวมไปถึงเรื่องของเงินทุนซึ่งสำคัญที่สุด ก็หวังว่าโปรเจกต์นี้จะได้รับการสนับสนุนจากทั้งเกมเมอร์ชาวไทย รวมไปถึงทางภาครัฐฯ (ทำเสียงเข้ม) เพื่อที่ทั้งแกและนักพัฒนาประเทศเราจะสามารถต่อยอดโปรเจ็กต์เหล่านี้ได้ต่อไป
Love Love Mystery Club มีกำหนดวางจำหน่ายเร็วๆ นี้ครับ และในบทความหน้าเราจะมานั่งคุยกับ 3 จาก 6 นางเอกสาวของเกมนี้กันไม่ว่าจะเป็น น้องขมิ้น, น้องแซนดี้ และน้องแก้ม กันครับ พร้อมกับภาพเบื้องหลังบางส่วนของการถ่ายทำในวันนั้นที่ทางทีมงานอนุญาตให้เราเข้าไปเก็บภาพแบบเอ็กคลูซีฟกันอีกด้วย รอติดตามกันได้เลย!
ขอขอบคุณภาพเบื้องหลังประกอบบทความจากทาง Official ด้วยครับ
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่นๆ ได้ที่ Online Station