กลับมาพบกันอีกครั้งครับกับบทความ Hands-on: Borderlands 4 ครับ โดยหลังจากได้ตะลุยโลกกว้าง สู้กับศัตรูในหลากพื้นที่กันแล้วในบทความก่อนหน้า คราวนี้ก็มาถึงช่วงลุยพื้นที่ Late Game และ บอสกันในภารกิจที่เรียกกันว่า Vault Missions กันบ้างครับ
แม้จะแยกช่วงเวลากันทดสอบ แต่ในทางเทคนิคแล้วนี่ไม่ใช่อีกโหมดหนึ่งครับ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบภารกิจ ที่จะมีบอสให้สู้รออยู่ในช่วงท้าย ซึ่งพื้นที่นี้ถูกเรียกว่า Vault และจะมาพร้อมภารกิจในสไตล์ Vault Missions ที่เราจะได้เล่นก่อนปิดช่วงทดสอบไปอย่างฟินนาเล่

หน้ามันตึง อารมณ์มันเลยเปลี่ยน
ในการทดสอบภารกิจ Vault Missions ทางทีมงานได้เซ็ตตัวละคร Rafa และ Vex ในเลเวล 20 ไว้ให้เรียบร้อย เพื่อให้แมตช์และพร้อมรับมือกับศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้าอย่างมาก ทั้งนี้ในเกมจริงผู้เล่นจะได้บิลด์ตัวละครเองอย่างอิสระ แต่เพราะการทดสอบมีเวลาราวๆ แค่ 3 ชั่วโมง ทางทีมงานจึงเตรียมตัวละคร 2 ระดับเลเวลเอาไว้ล่วงหน้านั่นเองครับ
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าในการทดสอบสำรวจภารกืจ Fadefields ในช่วงต้นๆ ตัวผมเองยังรู้สึกว่าสู้ได้เพลินๆ ไม่หนักมือนัก พอจะได้ลุยไอ้ที่ที่เขาบอกว่ายากขึ้นก็ถูมือรอเลยทีนี้

แต่พอได้กระโจนใส่ Vault Missions เท่านั้นแหละ ความตึงแบบก้าวกระโดดก็เริ่มบังเกิด เพราะคุณจะถูกบังคับให้สู้ในพื้นที่จำกัดกับศัตรูอีกหลายสิบ ที่พร้อมซัลโวอาวุธเข้ากระหน่ำจากทุกทิศทุกทาง แม้จะบิลด์ตัวละครมาหนาขึ้นอย่างไร แต่หากเล่นไม่ละเอียดก็ร่วงเป็นใบไม้ได้ง่ายๆ เลย

นอกจากนี้พวกศัตรูก็ยังมีแบบที่ตึงมือเยอะขึ้นมาก มีทั้งพวกเกราะหนา, สัตว์ประหลาดตัวใหญ่ หรือบอสรองที่บินไปบินมา พวกนี้เอาลงได้ยากกว่าศัตรูธรรมดามากๆ และบางตัวก็มีเงื่อนไขพิเศษในการสู้อีก บอกลาความชิลล์เมื่อไม่กี่ 10 นาทีก่อนหน้าไปได้เลย

ผมเลือกเล่น Rafa ก่อนเหมือนเดิม และปืนรอบนี้ไม่กะหล่งป๊งแบบรอบก่อนหน้า เป็นปืนฟ้าปืนม่วงกันแล้ว ข้อสังเกตคือแม้ทีมงานบอกว่าเป็น Late Game เป็นช่วงหลังของเกม แต่ก็ยังไม่ใช่ช่วงท้ายเกมจริงๆ เพราะในเกมยังมีเนื้อหาและแผนที่อื่นๆ ให้เล่นต่อจากนี้อีกมากมาย พื้นที่ในส่วนของ Fadefields รวมถึงส่วนของ Vault Missions นี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของแผนที่ทั้หมดเท่านั้นครับ ซึ่งหมายความได้อีกว่าตัวเกมมีขนาดใหญ่โตโอฬารสุดๆ แต่เกมจริงใหญ่เบิ้มขนาดไหนอันนี้ตอบไม่ได้จริงๆ ก็ค่อยมาหาคำตอบกันต่อไปในเกมเต็มครับ ทว่าศัตรูในฉากคือเอาเรื่องมากๆ เพราะเราจะโดนรุมในแบบที่ต้องวิ่งไม่พัก และในส่วนนี้เกมจะบังคับเราต้องจัดการพวกมันให้หมดเพื่อปลดล็อคการไปยังสเตจถัดไป

สกิลของ Rafa เปลี่ยนไปจากเดิมในรอบนี้ จากใช้ใบมีดพลังงาน เปลี่ยนมาเป็นการเปิดโหมดกระหน่ำยิงในชั่วระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งถ้าถามผม ก็ค่อนข้างชอบสิ่งนี้มากกว่า ขณะที่อีกช่องสกิลก็มีปืนที่เปลี่ยนไปเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าในส่วนนี้ตัวผู้เล่นจะสามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระในตอนเล่นเกมจริง
เพราะ Vault Hunter แต่ละตัวจะมีสายสกิลให้เลือกทั้งหมด 3 สาย ผู้เล่นสามารถปลดล็อกและอัปเกรดได้ด้วยการใช้แต้มสกิลเมื่อเลเวลอัปได้ตามใจชอบครับ คือเล่นให้เป็นสไตล์ตัวเองกันได้เลย เชื่อแน่ว่ายังมีสกิลอีกมากมายในเกมจริงให้ได้ลองอัปมาใช้กัน

ส่วนเจ๊ Vex ก็สกิลเปลี่ยนด้วย เพราะรอบนี้ไม่ได้ซัมม่อนเสือมาวิ่งเล่นแล้ว แต่เป็นการซัมม่อนยูนิตมาช่วยสู้ มีแบบเป็นยูนิตยิง และยูนิตนัวระยะประชิด ซึ่งสามารถเรียกออกมาพร้อมๆ กันได้ และเลือกจุดวางได้ คือถ้าวางดีๆ ก็ทุ่นแรงได้เยอะทีเดียว แต่พวกนี้ก็ไม่อาจจะเปิดหน้าแลกตรงๆ ได้ขนาดนั้น สักพักก็จะหายไป และผู้เล่นต้องเรียกขึ้นมาสู้ใหม่อยู่ดี
ปะทะบอสอนามัย พานอนรัวๆ
พอเคลียร์ไปได้ 2-3 จุด ตอนสุดทางก็จะเจอกับบอส Primodial Guardian Inceptus (ชื่อยาวแทร่) ซึ่งเป็นบอสแบบตัวเบิ้มๆ และนี่คือบอสไฟต์ที่ถูกพัฒนาขึ้นจากภาคก่อนๆ ได้อย่างน่าสนใจ เพราะ มันจะไม่ใช่แค่สักแต่ยิงอัดเข้าไปอย่างไม่หยุดยั้งแล้ว แต่ในไฟต์นี้จะมีการผสมผสานลูกเล่นบางอย่าง ที่ผู้เล่นจะต้องเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันด้วย เช่นบางช่วงอาจตั้งยิงเนื้อที่ปูดออกมาจากตัว หรือบางช่วงก็ต้องหาทางหนีจากของเหลวพิษที่เจิ่งนองพื้น เป็นต้น ผู้เล่นยังต้องรู้จังหวะการโจมตีของมันเพื่อให้หลบหลีกได้ชำนาญขึ้น เนื่องจากตัวบอสถือว่าอัดหนักอยู่พอสมควร โดนไป 2-3 ทีมีร่วงได้ง่ายๆ

ซึ่งตัวผมเองก็ร่วงเอาๆ และ Game Over ไปหลายรอบ จนทีมงานมาสกิดทีหลังว่าตอนเราล้ม เราต้องยิงลูกน้องมันให้ตายก็จะฟื้นขึ้นมาลุยต่อได้ ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีครับ แม้กระนั้นถ้าเราล้มบ่อยๆ เวลาที่จะหาศัตรูยิงก็จะน้อยลงเรื่อยๆ จนยิงไม่ทันและ Game Over ตายจริงๆ ไปในที่สุด

ทั้งนี้ในการสู้บอสแต่ละเฟส หากไม่เล่นไปตามเงื่อนไขของเกม มันก็จะยากขึ้นอย่างมาก และอาจเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะในบางช่วง ดังนั้นผู้เล่นก็ต้องพยายามเรียนรู้ศัตรูไปด้วย ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจนักว่าตัวเกมจริงๆ จะมีการบอกใบ้ผู้เล่นมาก่อนขนาดไหน แต่ตอนเล่นทดสอบก็คือถ้าทีมงานไม่บอกผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าต้องสู้ยังไงถึงจะได้ผลดีที่สุด ฮา
ภาคใหม่ที่น่าคาดหวัง
"ช่างบาลานซ์มันเถอะ เอาสนุกไว้ก่อนดีกว่า" เป็นคำพูดของ Randy ที่น่าจะบ่งบอกถึงคาแรคเตอร์เกมเขาได้เป็นอย่างดี เพราะเกมทีไม่ต้องไปยิงกับใครคนไหน แถมปืนก็มีเป็นล้านกระบอก จะมาแคร์เรื่องของบาลานซ์ก็ใช่ที่ ดังนั้นก็ทำมันให้สุดไปเลยดีกว่า โดยหลังจากได้เล่นไปทั้งหมดราวๆ 3 - 4 ชั่วโมง ถ้าให้สรุปสั้นๆ ก็คือตัวเกมเต็มไปด้วยแอคชั่นเต็มพิกัด ใส่มาให้แบบไม่พัก และจะได้เปลี่ยนปืนเปลี่ยนอาวุธกันเป็นว่าเล่นเพราะเจอของใหม่อยู่ตลอด

คิดออกเลยว่าถ้าได้เล่นกับเพื่อนจะโหดมันส์ ฮา ขนาดไหน เพราะรอบนี้ตัวเกมพัฒนาเกมเพลย์มาให้ทันสมัยขึ้น คล่องตัวขึ้น มีลูกเล่นมากขึ้น สไลด์ตัวได้ โหนสลิงก็ได้ พลิ้วไหวดุจสายน้ำ และย้ำอีกครั้งว่าในภาคนี้ก็คือ Borderlands 4 จะมีซับไตเติ้ลภาษาไทยให้ด้วยครับ ถือว่าเป็นวาระพิเศษจริงๆ หากใครต้องการสนับสนุนก็อุดหนุดเกมกันเยอะๆ ครับ งานหน้าของ 2K จะได้มีภาษาไทยงอกเพิ่มออกมาอีก

สำหรับ Borderlands 4 ส่วนตัวแล้วเท่าที่ได้ลองเล่นก็รู้สึกว่าเอนจอยกับมันมากๆ แม้จะรู้ดีว่ายังแตะระบบมันได้ไม่เยอะ และคงมีอะไรรออยู่อีกนับไม่ถ้วน จนอาจจะเร็วไปที่จะฟันธงว่ามันจะเป็นสุดยอดเกมรึเปล่า แต่เท่าที่ได้สัมผัสก็คงต้องบอกว่ามันมีศักยภาพจะเป็นเกมที่ดี และคงจะดีพอที่จะเรียกแฟนๆ ให้กลับมาสนุกสนานกับมันได้อีกครั้งครับ เพราะที่สุดแล้ว Borderlands 4 คือเกมที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานว่าต้องเอาความสนุกมาก่อนเป็นหลักนั่นเอง
Borderlands 4 มีกำหนดวางจำหน่ายบน PC (ผ่าน Steam และ Epic Games Store), PlayStation 5, และ Xbox Series X|S ในวันที่ 12 กันยายน 2025 และจะวางจำหน่ายบน Nintendo Switch 2 ภายหลังภายในปี 2025 เช่นกัน
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่นๆ ได้ที่ Online Station